ข่าว:

ทดลองใช้งานบอร์ดตะลุง ที่อยู่ในขั้นตอนการกู้คืนข้อมูล เบื้องต้นมีแต่กระทู้ (ข้อความ) กำลังกู้รูปภาพ ไฟล์แนบต่าง ๆ คาดว่าจะทยอยสมบูรณ์ภายในไม่ช้า

Main Menu

เจ้าสัวธนินท์ ชี้เศรษฐกิจจะดี การเมืองต้องนิ่ง แนะสูตร 3 พลังจีน

เริ่มโดย ทีมงานบ้านเรา, 15:25 น. 05 ก.ค 55

ทีมงานบ้านเรา

เจ้าสัวธนินท์ ชี้เศรษฐกิจจะดี การเมืองต้องนิ่ง แนะสูตร 3 พลังจีน "อสังหาฯ-บริการ-เกษตร"

ที่มา ประชาชาติธุรกิจออนไลน์

เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม เวลา 13.30 น. ที่ห้องนภาลัย โรงแรมดุสิตธานี  นายธนินท์  เจียรวนนท์ ประธานกรรมการและประธานผู้บริหารเครือเจริญโภคภัณฑ์ หรือ เครือซีพี ปาฐกถาพิเศษเรื่อง "พลังจีน...ขับเคลื่อนโลก" เนื่องในโอกาสหนังสือพิมพ์ประชาชาติธุรกิจก้าวสู่ปีที่ 36 โดยมี นายก่วน มู่ เอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทย นายพินิจ จารุสมบัติ นายกสมาคมวัฒนธรรมเเละเศรษฐกิจไทย-จีนและอดีตรองนายกรัฐมนตรี นพ.ปราเสริฐ ปราสาททองโอสถ ประธานคณะผู้บริหารและกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.กรุงเทพดุสิตเวชการ (BGH)  รวมทั้งผู้ประกอบการและนักธุรกิจเข้าร่วมรับฟังอย่างเนื่องแน่น

"เจ้าสัว" แนะทั้งเอกชน-รัฐบาล ต้องเดินคู่กัน "ถ้าจะคอร์รัปชั่นต้องมีเหตุมีผล"

นายธนินท์ กล่าวว่า เศรษฐกิจจะมีความต่อเนื่องได้ การเมืองต้องนิ่ง อย่างประเทศเยอรมันพรรคเดียวผูกขาดกว่า 40 ปี บริหารประเทศมาตลอด ส่วนประเทศญี่ปุ่นก็ 40 กว่าปี พอพักหลังเปลี่ยนนายกรัฐมนตรีบ่อยเหลือเกิน เพราะไม่มีการเมืองที่มั่นคงและนำด้วยผู้นำที่มีความสามารถและต้องต่อเนื่อง ไม่เช่นนั้นก็ยาก  สำหรับประเทศที่ยากจนจะพัฒนาให้ดีขึ้นมา ต้องมีความต่อเนื่อง

"ทั้งบริษัทเอกชนและรัฐบาลต้องเดินหน้า ผมว่าต้องเดินหน้าไปด้วยกันและก็ทำถูกทั้งคู่ ธุรกิจอะไรบ้างต้องเป็นรัฐบาลมาลงทุน แต่ให้รัฐบาลลงทุนร้อยเปอร์เซ็นต์ก็ตาม ต่อไปก็ต้องเข้าตลาดหลักทรัพย์เป็นของเอกชน เพราะรัฐบาลก็เป็นของเอกชน ขนาดธุรกิจต้องใหญ่ บางอย่างเอกชนทำไม่ได้ทั้งหมด แต่อะไรที่เอกชนทำได้ รัฐบาลก็ต้องส่งเสริม

ผมสัมผัสกับรัฐบาลจีนมา  ผมมีความเชื่อมั่นมาตลอดเวลาถึงวันนี้  เชื่อมั่นในตัวผู้นำของรัฐบาลจีน พูดได้ว่า ส่วนใหญ่เสียสละเพื่อชาติและทุ่มเททำเพื่อประโยชน์ส่วนรวม  ลืมเรื่องส่วนตัว แน่นอนทุกสังคมของทุกประเทศต้องมีคอร์รัปชั่นกัน แต่ผมว่าเมืองจีนมีน้อยที่สุด ถ้าจะคอร์รัปชั่นต้องมีเหตุมีผล อย่างไรก็ตาม ผมมีความเชื่อมั่นว่าประเทศจีนจะก้าวหน้าอีกอย่างก้าวใหญ่และเร็ว  มาถึงวันนี้เศรษฐกิจและการเติบโต ผมว่า จีนพร้อมแล้ว พร้อมทุกอย่าง  ตั้งแต่ความรู้และการศึกษา วันนี้เอเชียเนื้อหอมมาก สหรัฐอเมริกามาเห็นว่าเอเชียต่อไปจะไม่ธรรมดาและสำคัญมาก ในฐานะเราเป็นประทศไทย ผมพูดเป็นกลางว่า เราก็ต้องต้อนรับอเมริกาด้วย แต่เราต้องเอียงไปทางเมืองจีน เพราะวัฒนธรรมคนจีนไม่ใช่จะทิ้งเราไป แต่เขารู้บุญคุณมีเยื่อใยมีการต่อเนื่อง เราน่าจะต้อนรับทั้งสองยักษ์ใหญ่ ต่อไปในเอเชียอย่างไร จีนใหญ่กว่าแน่นอน"

ไทยต้องต้อนรับ2 ยักษ์ใหญ่อ้าแขนรับอเมริกาได้ แต่ต้องเอียงไปทางจีน

วันนี้จีนส่งออกเป็นที่ 1 ของโลก นำเข้าเป็นที่ 2 ส่วนที่หนึ่งเป็นอเมริกา แต่ถ้าวันนี้จีนมีเศรษฐกิจดีขึ้น ปัจจุบันจีนมีรายได้ต่อหัวอยู่ที่ 5,400 กว่าหยวนต่อคนต่อปี ส่วนสหรัฐอเมริกา 48,300 ดอลล่าร์ต่อคนต่อปี เกือบจะ 9 เท่าของจีน ท่านลองคิดดูว่าวันนี้จีนนำเข้าต่อวัน 1.77 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ ถ้าเศรษฐกิจรวยเท่าอเมริกา อเมริกานำเข้า 2.44 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ ห่างกันไม่กี่เท่า ถ้าต่อไปเศรษฐกิจจีนใหญ่กว่าอเมริกาลองบวกดูว่าอะไรจะเกิดขึ้น

"เราส่งออกสินค้าอะไรให้จีน และจีนมีโอกาสร่ำรวยหรือไม่ แน่นอน จึงไม่ได้ยาก อีก 9 เท่าต้องใช้เวลา แต่จะให้เติบโตอีก 5 เท่า ไม่ยาก ต่อไปจีนไม่ใช่ส่งออกเป็นที่หนึ่ง แต่นำเข้าก็เป็นที่หนึ่ง จีนจะเป็นมหาอำนาจทางเศรษฐกิจ  แต่แน่นอนเศรษฐกิจจีนเป็นที่หนึ่งแน่นอน การส่งออกก็ต้องเป็นที่หนึ่ง รวมถึงการนำเข้า เงินทุนสะสมก็เป็นที่หนึ่งจากวันนี้เป็นที่หนึ่งอยู่แล้ว 3 ล้านล้านดอลลาร์ และจีนทุกอย่างพร้อมแล้ว พร้อมกว่าสมัยที่ผมเข้าไปเมื่อ 32 ปีก่อน" นายธนินท์ กล่าว

ระบุจีนเป็นที่หนึ่งของโลก เชื่อเปลี่ยนรัฐบาลชุดใหม่เปลี่ยนแปลงแบบก้าวกระโดด

จีนเป็นที่ 1 ของโลก และพอเป็นที่หนึ่งของโลกแล้ว ทวีคูณ ผมมีความเชื่อมั่นผู้นำของจีน โดยเฉพาะรุ่นที่จะขึ้นมาใหม่ ผมรู้จักทั้งสองท่าน อย่างท่านหลี่ เคอะ เฉียง เคยเป็นคนหนุ่มที่สุด ถูกส่งไปเป็นผู้ว่ามณฑลเหอหนาน เป็นมณฑลที่มีประชากร 100 ล้านคน และเป็นมณฑลที่ผลิตผลการเกษตรเบอร์หนึ่งและอยู่ใจกลางประเทศจีน ดังนั้น แน่นอนว่าท่านจะรู้เรื่องการเกษตรแน่นอน และดีกว่านายกฯจีนคนปัจจุบันนี้ แต่เรื่องเกษตรผมเชื่อว่าคนใหม่จะรู้เยอะกว่า

อีกคน เซียะ จิ้ง ผิง ซึ่ง ไต่เต้าผ่านปัญหาและเห็นความยากจนในพื้นที่ว่าเป็นอย่างไร และไต่เต้ามา ผมเคยเห็นท่านสมัยเป็นเลขาธิการพรรคเมืองฟุโจว เราไปลงทุนที่นั่น ท่านให้บัตรชาวเมืองฟุโจวเป็นเกียรติยศมอบให้ผม ก็รู้จักกันมาและเคยเชิญมาเมืองไทย ผมสัมผัสเมื่อไหร่ก็ยอมรับว่าท่านเป็นผู้นำ ผมเป็นผู้ตาม ท่านมีพลัง มีอัธยาศัยที่ให้คนพบแล้วมีความยอมรับว่านี่คือผู้นำที่แท้จริง นิ่มนวล และฟังเหตุผล ฟังมากกว่าพูด

ผมเชื่อมั่นว่าปีหน้า และผู้นำทั้ง 2 ท่าน ก็รู้แล้วว่า ที่ผ่านมาผู้นำคนเดิมมีอะไรดีก็สานต่อ มีอะไรที่เปลี่ยนแปลงก็ได้เปลี่ยนแปลงแน่นอน ผมเชื่อมั่น เพราะไม่มีใครทำอะไรถูกร้อยเปอร์เซ็นต์ถูก 70 ผิด 30 ก็เก่งแล้ว ที่ถูกก็ทำต่อ ที่ผิดหรือดีไม่พอก็เปลี่ยนแปลง ผมเชื่อมั่นว่า จีนจะต้องเปลี่ยนแปลงไปก้าวกระโดดอย่างแน่นอน หลังเปลี่ยนรัฐบาลชุดใหม่แล้ว จะต้องมีการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ถูกต้องและเหมาะสมกับโลกกำลังเปลี่ยนแปลงในวันนี้

3 พลังจีน ขับเคลื่อนเศรษฐกิจ "อสังหาฯ-บริการ-เกษตร"

นายธนินท์ กล่าวว่า  ถ้านโยบายรัฐบาลถูกต้อง วันนี้การเปลี่ยนแปลงจะเป็นไปอย่างทวีคูณ แต่อะไรคือการเปลี่ยนแปลงที่ถูกต้อง ผมมองว่าจีนในโลกนี้ไม่มีประเทศไหนที่เจริญเทียบเท่าจีนแล้ว พลังมหาศาลที่ฉุดเศรษฐกิจ คือ ภาคอสังหาริมทรัพย์ เป็นเบอร์หนึ่งเลย เพราะอสังหาริมทรัพย์จะฉุดธุรกิจอีกตั้งหลายสิบธุรกิจ หรือหลายร้อยธุรกิจเกี่ยวข้องกับคนทุกระดับ ตั้งแต่คนอ่านหนังสือไม่เป็นก็มีงานทำ และยังฉุดอุตสาหกรรมเหล็ก อิเล็กทรอกนิกส์ ปิโตรเคมี เครื่องใช้ไฟฟ้า จนไปถึงตกแต่งออกแบบภายใน ช่างไม้ ช่างฝีมือ

ตัวนี้เป็นตัวเลขที่มหาศาล แต่อเมริกาอาจจะมีโอกาส ยังมีคนย้ายมาอยู่อเมริกา แต่ยุโรปเป็นพื้นที่คนแก่ บ้านยังมีเหลือ ศูนย์การค้ายังมีเหลือ จะไปสร้างบ้าน ศูนย์การค้าอะไร ดังนั้นทุกอย่างเต็มแล้ว แต่จีนยังขาดแคลนอย่างมาก จริงๆแล้วจีนเพิ่งเจริญเติบโตอย่างรวดเร็วเพียงสิบกว่าปี และสิบกว่าปีก่อนถนนยังว่างเปล่า สมัยก่อนประชาชนไม่มีสิทธิ์ซื้อรถยนต์ ที่ซื้อได้คือบริษัทกับข้าราชการ เอกชนยังไม่มีสิทธิ์ซื้อกระทั่งเพิ่งปล่อยมา 12-13 ปี ทีนี้พ่อปล่อยมาตรการให้เอกชนซื้อได้ก็ปิดไม่ได้

ดังนั้นเรื่องอสังหาริมทรัพย์นอกจากศก.โตขึ้นจากกำลังซื้อบ้านเล็กก็เปลี่ยนเป็นบ้านใหญ่และเกษตรกรอีก700ล้านคนร่ำรวยขึ้นมาซึ่งจีนยังมี 50-60 เปอร์เซ็สต์เป็นเกษตรกร ดังนั้นที่อยู่อาศัยยังขาดแคลนมหาศาล ตัวนี้จะเป็นพาวเวอร์พลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจ และการจ้างานตัวหนึ่ง


นายธนินท์ กล่าวว่า  ดัชนีตัวที่สองที่จะเป็นพลังมหาศาลคือธุรกิจบริการ ตัวนี้ประเทศอื่นเต็ม แต่จีนเพิ่งเกิดมา 10 กว่าปีเท่านั้น และรัฐบาลยังไม่หลักสูตรมาตรการช่วยเหลือธุรกิจขนาดเล็กและกลาง โลกนี้ไม่มีนักธุรกิจที่ผ่านการทำธูรกิจขนาดเล็ก กลาง และขนาดใหญ่ ยกเว้นบริษัอเอกชนและรัฐวิสาหกิจขนาดใหญ่หรือบริษัทที่รวมทุนแล้วตั้งบริษัท และจีนวัฒนธรรมเกิดมาก็ทำธุรกิจเป็น

ถ้ารัฐบาลมีนโยบายส่งเสริมเหมือนญี่ปุ่นหรือเหมือนเยอรมัน ผมว่านักวิชาการของจีนไม่ต้องส่งไปเรียนรู้อเมริกา เพราะตำราของอเมริกาวันนี้ใช้กับจีนไม่ได้ ดังนั้นกรณีจีน ถ้าไปฟังนักวิชาการที่เรียนจากอมเริกาอย่าไปฟังมาก เอามาเป็นไกด์ไลน์พอ ย้อนไปดูประวัติศาสตร์ ไต้หวัน เกาหลีใต้ 27 ปีร่ำรวยมาได้อย่างไร ญี่ปุ่นมาเป็นมหาอำนาจโลกทางการเงิน เศรษฐกิจได้อย่างไร ขอให้ไปศึกษาประวัติศาสตร์ว่าสร้างมาได้อย่างไร ที่ดีเอามาใช้ทางอ้อมก็เอามาดู ไม่ดีกว่าหรือ
ดังนั้นพลังอันยิ่งใหญ่ต่อเนื่องถาวรยั่งยืนคือธุรกิจบริการ ซึ่งรวมทั้งโรงพยาบาล การค้า โรงแรม คนไทยเราถ้าใครทำธุรกิจไต่เต้าตั้งแต่จิ๋วกลาง วันนี้เป็นโอกาสแล้ว รัฐบาลไทยน่าจะไปหาข้อมูล เพราะจีนผมเชื่อมั่นว่า หลังจากปีหน้าจะมีมาตรการดีๆส่งเสริมธุรกิจขนาดเล็กกลางให้ใหญ่ วันนี้ธุรกิจเอสเอ็มอี กู้ตรงๆจากแบงก์ใหญ่ไม่ได้ เหมือนกรณีเดียวกับประเทศไทย ที่แบงก์ใหญ่ไม่ปล่อยกู้ แต่เราไม่ควรเอาตำราดูแลผู้ใหญ่มาดูแลเด็ก การเงินที่จะสนับสนุน ควรแบ่งการดูแลภาคธุรกิจเป็นสามสูตร ธุรกิจเล็ก กลาง ใหญ่

"ผมเชื่อมั่นจีนจะมีมาตรการดีๆออกมา จึงอยากแนะนำที่เมืองไทยว่า เราน่าจะหนุนธุรกิจกลุ่มนี้(เอสเอ็มอี) และดูว่าจีนกำลังจะมีมาตรการธุรกิจที่เหมาะสมออกมา เราควรมองและใช้ประสบการณ์ที่เราเคยทำสำเร็จมาแล้วเข้าไป โดยยิงนกสองตัวเข้าไปลงทุนเมืองจีนในช่วงรัฐบาลจีนมีนโยบายสนับสนุน และนโยบายชัดเจน"

นายธนินท์ กล่าวต่ออีกว่า ดัชนีหรือพลังตัวที่สาม คือ การเกษตร ในจีน 700 ล้านคน มีที่ดินเป็นของรัฐบาล ชาวนาชาวไร่มีสิทธิ์อยู่บนที่ดินทำกิน ผมกำลังจะทำเป็นตัวอย่าง ที่ดินรัฐบาลจีนไม่ขายเราซื้อไม่ได้ ดังนั้นแต่ละหมู่บ้านในจีน เป็นตัวอย่างที่ ผมจะไปทดลอง 4-5 หมู่บ้านในเมืองจีนให้รัฐบาลเห็น มีผู้ปลูกทำเกษตรในที่ที่เก่งๆในหมู่บ้าน ทางผมจะส่งเสริม เพราะเกษตรกรโดยมากขาดทุน ขาดเทคโนโลยีสมัยใหม่ และการตลาดเมื่อปลูกมีผลผลิต ที่ผ่านมา  ผลผลิตไม่ได้รับการดูแลเป็นอย่างดี ปล่อยให้ตากและเก็บไม่มีมาตรฐาน ดังนั้นต้องช่วยด้านการ  ดูแลเก็บเกี่ยวผลผลิต โลจิสติก การดูแลการตลาด ซึ่งเรื่องเหล่านี้เกษตรและรัฐบาลจีนทำไม่ได้

"ผมจะไปทำให้เห็นกำลังศึกษา เมืองไทยมีหมู่บ้านไหนให้ซีพีเข้าไปทดลองทำ ผมไม่ได้ไปซื้อที่ แต่จะสร้างคนเก่งในหมู่บ้านให้ความรู้ให้ทุน ส่งเสริมอุปกรณ์ทันสมัย เช่น รถแทรคเตอร์ ขายปุ๋ย ขายเมล็ด  พันธุ์ถูกต้อง ช่วยวิเคราะห์ดิน เกษตรกรที่เป็นคนรับจ้าง กลายเป็นเถ้าแก่ คนมีความสามารถเป็นเถ้าแก่แล้วก็ให้ใช้เงินไปจ้างคนอื่นลงมือทำ โดยคุณอยู่เฉยๆได้เงินไปและให้คนไปลงแรง ที่เมืองจีนมีลักษณะเช่นนี้ในบางมณฑลได้ผลมาแล้ว"

ผมจะใช้ตัวอย่างนี้ จากเจ้าของที่ดินกลายเป็นเถ้าแก่  ซึ่งจะดูไปตามลักษณะหมู่บ้าน เช่นหมู่บ้านไหนเลี้ยงสุกร ซีพีจะไม่ไปสร้างฟาร์ม แต่จะไปรวบรวมผู้เลี้ยงในหมู่บ้านแล้วลงทุนตามสัดส่วน เป็นลักษณะหุ้นส่วน หรือจากในหมู่บ้านต้องหาเถ้าแก่ มารับเหมาและซีพี จะทำเรื่องการตลาด อย่างไรก็ตามจะพึ่งพาเกษตรกร แล้วแปรสภาพทุนทางเทคโนโลยีให้ทันสมัย  ส่วนด้านการตลาดให้ฝ่ายธุรกิจเข้ามาเสริม ถ้าซีพีทำสำเร็จเมื่อไหร่ นักธุรกิจจีนจะเรียนรู้อย่างรวดเร็วนำมาใช้เป็นต้นแบบในจีนเช่นเดียวกัน

นายธนินท์ กล่าวว่า  ถ้านโยบายรัฐบาลถูกต้อง วันนี้การเปลี่ยนแปลงจะเป็นไปอย่างทวีคูณ แต่อะไรคือการเปลี่ยนแปลงที่ถูกต้อง ผมมองว่าจีนในโลกนี้ไม่มีประเทศไหนที่เจริญเทียบเท่าจีนแล้ว พลังมหาศาลที่ฉุดเศรษฐกิจ คือ ภาคอสังหาริมทรัพย์ เป็นเบอร์หนึ่งเลย เพราะอสังหาริมทรัพย์จะฉุดธุรกิจอีกตั้งหลายสิบธุรกิจ หรือหลายร้อยธุรกิจเกี่ยวข้องกับคนทุกระดับ ตั้งแต่คนอ่านหนังสือไม่เป็นก็มีงานทำ และยังฉุดอุตสาหกรรมเหล็ก อิเล็กทรอกนิกส์ ปิโตรเคมี เครื่องใช้ไฟฟ้า จนไปถึงตกแต่งออกแบบภายใน ช่างไม้ ช่างฝีมือ

ตัวนี้เป็นตัวเลขที่มหาศาล แต่อเมริกาอาจจะมีโอกาส ยังมีคนย้ายมาอยู่อเมริกา แต่ยุโรปเป็นพื้นที่คนแก่ บ้านยังมีเหลือ ศูนย์การค้ายังมีเหลือ จะไปสร้างบ้าน ศูนย์การค้าอะไร ดังนั้นทุกอย่างเต็มแล้ว แต่จีนยังขาดแคลนอย่างมาก จริงๆแล้วจีนเพิ่งเจริญเติบโตอย่างรวดเร็วเพียงสิบกว่าปี และสิบกว่าปีก่อนถนนยังว่างเปล่า สมัยก่อนประชาชนไม่มีสิทธิ์ซื้อรถยนต์ ที่ซื้อได้คือบริษัทกับข้าราชการ เอกชนยังไม่มีสิทธิ์ซื้อกระทั่งเพิ่งปล่อยมา 12-13 ปี ทีนี้พ่อปล่อยมาตรการให้เอกชนซื้อได้ก็ปิดไม่ได้

ดังนั้นเรื่องอสังหาริมทรัพย์นอกจากศก.โตขึ้นจากกำลังซื้อบ้านเล็กก็เปลี่ยนเป็นบ้านใหญ่และเกษตรกรอีก700ล้านคนร่ำรวยขึ้นมา ซึ่งจีนยังมี 50-60 เปอร์เซ็สต์เป็นเกษตรกร ดังนั้นที่อยู่อาศัยยังขาดแคลนมหาศาล ตัวนี้จะเป็นพาวเวอร์พลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจ และการจ้างานตัวหนึ่ง


นายธนินท์ กล่าวว่า  ดัชนีตัวที่สองที่จะเป็นพลังมหาศาลคือธุรกิจบริการ ตัวนี้ประเทศอื่นเต็ม แต่จีนเพิ่งเกิดมา 10 กว่าปีเท่านั้น และรัฐบาลยังไม่หลักสูตรมาตรการช่วยเหลือธุรกิจขนาดเล็กและกลาง โลกนี้ไม่มีนักธุรกิจที่ผ่านการทำธูรกิจขนาดเล็ก กลาง และขนาดใหญ่ ยกเว้นบริษัอเอกชนและรัฐวิสาหกิจขนาดใหญ่หรือบริษัทที่รวมทุนแล้วตั้งบริษัท และจีนวัฒนธรรมเกิดมาก็ทำธุรกิจเป็น

ถ้ารัฐบาลมีนโยบายส่งเสริมเหมือนญี่ปุ่นหรือเหมือนเยอรมัน ผมว่านักวิชาการของจีนไม่ต้องส่งไปเรียนรู้อเมริกา เพราะตำราของอเมริกาวันนี้ใช้กับจีนไม่ได้ ดังนั้นกรณีจีน ถ้าไปฟังนักวิชาการที่เรียนจากอมเริกาอย่าไปฟังมาก เอามาเป็นไกด์ไลน์พอ ย้อนไปดูประวัติศาสตร์ ไต้หวัน เกาหลีใต้ 27 ปีร่ำรวยมาได้อย่างไร ญี่ปุ่นมาเป็นมหาอำนาจโลกทางการเงิน เศรษฐกิจได้อย่างไร ขอให้ไปศึกษาประวัติศาสตร์ว่าสร้างมาได้อย่างไร ที่ดีเอามาใช้ทางอ้อมก็เอามาดู ไม่ดีกว่าหรือ
ดังนั้นพลังอันยิ่งใหญ่ต่อเนื่องถาวรยั่งยืนคือธุรกิจบริการ ซึ่งรวมทั้งโรงพยาบาล การค้า โรงแรม คนไทยเราถ้าใครทำธุรกิจไต่เต้าตั้งแต่จิ๋วกลาง วันนี้เป็นโอกาสแล้ว รัฐบาลไทยน่าจะไปหาข้อมูล เพราะจีนผมเชื่อมั่นว่า หลังจากปีหน้าจะมีมาตรการดีๆส่งเสริมธุรกิจขนาดเล็กกลางให้ใหญ่ วันนี้ธุรกิจเอสเอ็มอี กู้ตรงๆจากแบงก์ใหญ่ไม่ได้ เหมือนกรณีเดียวกับประเทศไทย ที่แบงก์ใหญ่ไม่ปล่อยกู้ แต่เราไม่ควรเอาตำราดูแลผู้ใหญ่มาดูแลเด็ก การเงินที่จะสนับสนุน ควรแบ่งการดูแลภาคธุรกิจเป็นสามสูตร ธุรกิจเล็ก กลาง ใหญ่

"ผมเชื่อมั่นจีนจะมีมาตรการดีๆออกมา จึงอยากแนะนำที่เมืองไทยว่า เราน่าจะหนุนธุรกิจกลุ่มนี้(เอสเอ็มอี) และดูว่าจีนกำลังจะมีมาตรการธุรกิจที่เหมาะสมออกมา เราควรมองและใช้ประสบการณ์ที่เราเคยทำสำเร็จมาแล้วเข้าไป โดยยิงนกสองตัวเข้าไปลงทุนเมืองจีนในช่วงรัฐบาลจีนมีนโยบายสนับสนุน และนโยบายชัดเจน"

นายธนินท์ กล่าวต่ออีกว่า ดัชนีหรือพลังตัวที่สาม คือ การเกษตร ในจีน 700 ล้านคน มีที่ดินเป็นของรัฐบาล ชาวนาชาวไร่มีสิทธิ์อยู่บนที่ดินทำกิน ผมกำลังจะทำเป็นตัวอย่าง ที่ดินรัฐบาลจีนไม่ขายเราซื้อไม่ได้ ดังนั้นแต่ละหมู่บ้านในจีน เป็นตัวอย่างที่ ผมจะไปทดลอง 4-5 หมู่บ้านในเมืองจีนให้รัฐบาลเห็น มีผู้ปลูกทำเกษตรในที่ที่เก่งๆในหมู่บ้าน ทางผมจะส่งเสริม เพราะเกษตรกรโดยมากขาดทุน ขาดเทคโนโลยีสมัยใหม่ และการตลาดเมื่อปลูกมีผลผลิต ที่ผ่านมา  ผลผลิตไม่ได้รับการดูแลเป็นอย่างดี ปล่อยให้ตากและเก็บไม่มีมาตรฐาน ดังนั้นต้องช่วยด้านการ  ดูแลเก็บเกี่ยวผลผลิต โลจิสติก การดูแลการตลาด ซึ่งเรื่องเหล่านี้เกษตรและรัฐบาลจีนทำไม่ได้

"ผมจะไปทำให้เห็นกำลังศึกษา เมืองไทยมีหมู่บ้านไหนให้ซีพีเข้าไปทดลองทำ ผมไม่ได้ไปซื้อที่ แต่จะสร้างคนเก่งในหมู่บ้านให้ความรู้ให้ทุน ส่งเสริมอุปกรณ์ทันสมัย เช่น รถแทรคเตอร์ ขายปุ๋ย ขายเมล็ด  พันธุ์ถูกต้อง ช่วยวิเคราะห์ดิน เกษตรกรที่เป็นคนรับจ้าง กลายเป็นเถ้าแก่ คนมีความสามารถเป็นเถ้าแก่แล้วก็ให้ใช้เงินไปจ้างคนอื่นลงมือทำ โดยคุณอยู่เฉยๆได้เงินไปและให้คนไปลงแรง ที่เมืองจีนมีลักษณะเช่นนี้ในบางมณฑลได้ผลมาแล้ว"

ผมจะใช้ตัวอย่างนี้ จากเจ้าของที่ดินกลายเป็นเถ้าแก่  ซึ่งจะดูไปตามลักษณะหมู่บ้าน เช่นหมู่บ้านไหนเลี้ยงสุกร ซีพีจะไม่ไปสร้างฟาร์ม แต่จะไปรวบรวมผู้เลี้ยงในหมู่บ้านแล้วลงทุนตามสัดส่วน เป็นลักษณะหุ้นส่วน หรือจากในหมู่บ้านต้องหาเถ้าแก่ มารับเหมาและซีพี จะทำเรื่องการตลาด อย่างไรก็ตามจะพึ่งพาเกษตรกร แล้วแปรสภาพทุนทางเทคโนโลยีให้ทันสมัย  ส่วนด้านการตลาดให้ฝ่ายธุรกิจเข้ามาเสริม ถ้าซีพีทำสำเร็จเมื่อไหร่ นักธุรกิจจีนจะเรียนรู้อย่างรวดเร็วนำมาใช้เป็นต้นแบบในจีนเช่นเดียวกัน

แนะส่งเสริมธุรกิจเอสเอ็มอีให้ยิ่งใหญ่เพื่อสร้างพาวเวอร์

นายธนินท์ กล่าวว่า  วันนี้เราช่วยกันติดตาม จีนจะต้องส่งเสริมธุรกิจเอสเอ็มอี เพราะตัวนี้จะสำคัญมีบทบาทถึง 86 เปอร์เซน็ต์ ส่วนอเมริกา 80 % ขึ้นไปเป็นธูรกิจบริการ เกษตรกรเพียง 1-5 เปอร์เซนต์ เหลืออุตสาหกรรม 9 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งอุตสาหกรรมบริษัทยิ่งใหญ่ยิ่งต้องใช้เทคโนโลยีอัตโนมัติสูง การใช้คนยิ่งน้อยเป็นเรื่องแน่นอน

"ประสบการณ์ผม รัฐบาลไทยอย่าห่วงเลย รัฐบาลจีนก็ไม่ต้องห่วง ต้องส่งเสริมธุรกกิจเอสเอ็มอีให้ยิ่งใหญ่เท่าไหร่ เข้าตลาดหลักทรัพย์ และสุดท้ายก็จะกลายเป็นบริษัทของสังคม อย่าไปกลัวใหญ่ แต่ขอให้กลัวเล็ก ประเทศเล็กต้องทำอะไรให้ใหญ่ถึงสู้กับเขาได้ เช่นเดียวกับเกาหลี ญี่ปุ่น อย่างจีนยิ่งใหญ่ยิ่งมีพาวเวอร์"

ชี้เศรษฐกิจไทยไม่โตมัวแต่ทะเลาะกัน แนะเกาะติด"อินเดีย-พม่า"ลำดับถัดไป


"ผมเชื่อมั่นรัฐบาลจีนมีผู้นำที่ทำงานรวดเร็ว เข้าใจปัญหาประเทศและไม่ทะเลาะกัน ต่างจากบ้านเรา พอเห็นอะไรดีน่าทำ จะต้องมีสองความเห็น มองแตกต่างกัน มัวแต่ทะเลาะ ไม่ได้ทำกันซักที สำหรับเมืองจีนเห็นชัดว่า ทำอะไรแล้วดี ไม่มีใครขัดขวาง และทำอย่างรวดเร็ว ผมเชื่อมั่นเศรษฐกิจเขาจะต้องเติบโตอย่างที่คนคาดไม่ถึง ดังนั้นเราต้องเตรียมพร้อม เมืองไทย รัฐบาลไทยต้องเตรียมพร้อม และจีนเต็มไปด้วยโอกาส

เศรษฐีฮ่องกงส่งคนไปศึกษาเครื่องหมายการค้าของบริษัทในสหภาพยุโรปที่กำลังจะขายถูกๆเพื่อนำมาพัฒนาเป็นธุรกิจของตัวเอง

วันนี้จีนถ้ารวยขึ้นมาอีก 9 เท่า หรืออีก 5 เท่าก็พอ และอีก 10 เปอร์เซ็นต์ มาเที่ยวเมืองไทย ประเทศไทยสามารถรองรับนักท่องเที่ยวจากจีนได้พอหรือไม่ 130 ล้านคน จะเอาที่ไหนให้เที่ยวให้อยู่ ดังนั้นวันนี้เมืองไทยต้องเตรียมพร้อม เชื่อมั่นว่าจีนรวยขึ้นแน่นอน และจีนมาเที่ยวแน่นอน แต่จะเที่ยวไหน พม่า อเมริกา ยุโรป ฮ่องกงหรือเมืองไทย เราจะทำอย่างไรให้คนจีนมีที่เงินจำนวน 100 กว่าล้านคน มาเที่ยวเมืองไทย ฝากรัฐบาลไทยช่วยศึกษา เติมเต็มโอกาสไปด้วย
สำหรับมูลค่านำเข้าของจีนต่อปี 1.77 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ จากนี้คิดไปอีก 5 เท่าซึ่งจะขยายเป็น 8 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ อะไรที่จะขายให้จีนเราต้องมาศึกษา ตัวที่เห็นชัดๆคือ ทุเรียน ในโลกนี้ไม่มีใครสู้ไทยได้ และยางพารา เพราะกำลังซื้ออีก 700 ล้านคน กำลังหันมาใช้รถยนต์ซึ่งต้องนำเข้ายางไปผลิตยางรถยนต์มหาศาล

ดังนั้นเราต้องสนใจในภูมิภาคนี้ หลังศึกษาเศรษฐกิจจีนจบแล้ว อันดับต่อไปคือต้องศึกษาอินเดีย  เพราะอินเดียก็ดูตัวอย่างจากจีน อันดับต่อไปที่ติดอินเดีย ก็คือพม่า ซึ่งมีทรัพยากรสูงกว่าไทย และเป็นพื้นที่ที่เต็มไปด้วยโอกาส ทุกคนมีความหวัง ใครๆก็ไปพม่า

ส่วนยุโรปจากนี้ไปมีปัญหาแน่นอน แต่ปัญหาเหล่านี้ต้องจบ ต้องแก้ไขได้แน่นอน ในที่สุดแล้วเงินที่จะไหลไปยุโรปกับอเมริกาจะไหลกลับเอเชีย วันนี้ไหลกลับไปสองทวีปนั้นชั่วคราว เป็นเงินกองทุนที่ลงทุนไม่ได้เกี่ยวกับธนาคารมากมาย
ดังนั้นเสียดายเมืองไทย การเมืองไม่นิ่ง ถ้าการเมืองเมืองไทยนิ่งเมื่อไร วันนี้คนไทยเราจะร่ำรวยกว่าเขาแล้ว อย่าห่วงเงินเฟ้อ เงินเฟ้อต้องไปพูดสมัยสงครามโลกครั้งที่สอง วันนี้มีของมากกว่าเงิน เงินเฟ้อที่อันตรายที่สุดคือมีเงินแต่ไม่มีของซื้อ เงินเป็นเศษกระดาษ

ผมขอย้ำเรื่องนี้ น้ำมันบนดิน คือสินค้าเกษตรที่เกิดจากแผ่นดินไทย ยิ่งกว่าน้ำมันอีก เพราะเป็นสินค้าหล่อเลี้ยงมนุษย์ จะเห็นว่าประเทศที่เจริญเขาห่วงอย่างเดียวคือ สินค้าเกษตรราคาตกต่ำ ลองคุยกับญี่ปุ่นรวยขนาดนี้  มีเกษตรกรเหลือ 5 เปอร์เซ็นต์ เขายังปกป้อง ส่วนของเราไม่เคยพูดถึงรายได้ขั้นต่ำเกษตรกรเท่าไหร่ ซึ่งไทยกับจีนเท่ากัน แต่กลัวคนในเมืองซื้อของแพง แล้วทำไมไม่หาทุน เพิ่มสินค้าเกษตร ทำให้ราคาสินค้าเกษตรเท่าราคาน้ำมันและเพิ่มเงินรายได้ขั้นต่ำให้ข้าราชการ หลายอย่างราคาเพิ่มสูงกว่าสินค้าเกษตร แล้วจะไม่ให้เกษตรกรยากจนได้อย่างไร และคนส่วนใหญ่ของเราก็เป็นเกษตรกร"
สนับสนุนการขับเคลื่อนโดย
- ฮอนด้าพิธานพาณิชย์-อริยะมอเตอร์ www.phithan.co.th/hondaphithan
- ปาล์มสปริงส์ & ซิตี้รีสอร์ท บ้านและคอนโดคุณภาพจากเครืองศุภาลัย www.hatyainakarin.com
- ธีระการช่าง หาดใหญ่ (เยื้องบิ๊กซีคลองแห) โทร 086-4910345 www.facebook.com/teerakarnchanghy
- เอนกการช่าง ผู้นำการพัฒนาเครื่องจักรกลเกษตร โทร 081-7382622 www.an-anek.com/contact.php
รีวิวธุรกิจ เกาะติดบ้านเมือง ร้อยเรื่องท้องถิ่น TLP 0897384215

puiey

โกธรกับแฟน ขึ้นสเตตัส "โสด" ถ้าวันนึง แม่มึงโกธร มึงไม่ขึ้นสเตตัส "กำพร้า" เลยเหรอ