กิมหยง - ตะลุงเว็บบอร์ด

ผู้บัญชาการทหารบก ระบุจำเป็นต้องปรับการทำงานในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยเน้นไปยังจุดเสี่ยง พร้อมติดตั้งกล้องวงจรปิดเพิ่มเติมในพื้นที่

พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก เปิดเผยก่อนไปร่วมงานวันพระราชกำเนิดโรงเรียน จปร.ที่จังหวัดนครนายก ว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงแสดงความเป็นห่วงสถานการณ์ภาคใต้ ซึ่งพระองค์ท่านทรงห่วงสถานการณ์มาโดยตลอด และได้พระราชทานทุนทรัพย์ส่วนพระองค์พัฒนาพื้นที่อย่างต่อเนื่อง ส่วนในวันที่ 8 สิงหาคม 2555 ซึ่งนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เรียกหน่วยงานประชุมเพื่อรับทราบการทำงานของศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ประสานงานระหว่างกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) และศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ที่พัฒนางานบูรณาการร่วมกันนั้น ศูนย์ปฏิบัติการฯ ดังกล่าวจะเป็นช่องทางในการติดต่อสื่อสารและสั่งการ เพื่อให้นายกรัฐมนตรี ตัดสินใจแก้ปัญหาได้อย่างรวดเร็ว ส่วนจะมีการประกาศเคอร์ฟิวในพื้นที่หรือไม่นั้น พลเอกประยุทธ์ เห็นว่าเป็นหนึ่งในมาตรการที่จะช่วยลดการสูญเสียได้ เพราะแยกกลุ่มผู้ร้ายออกจากเจ้าหน้าที่ แต่อาจมีผลกระทบต่อธุรกิจ ซึ่งทุกฝ่ายต้องประชุมร่วมกันก่อนตัดสินใจ

ผู้บัญชาการทหารบก กล่าวยอมรับว่า กำลังเจ้าหน้าที่มีอยู่จำกัด ไม่สามารถดูแลได้ทุกจุด จึงจำเป็นต้องปรับการทำงานโดยเน้นไปยังจุดเสี่ยง และติดตั้งกล้องวงจรปิดเพิ่มเติม ในจุดที่สำคัญ ซึ่งประชาชนควรให้ความร่วมมือในการแจ้งข่าวสารกับเจ้าหน้าที่ เพราะเจ้าหน้าที่ตกเป็นเป้าหมายของกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบ พร้อมเรียกร้องให้สื่อมวลชนนำเสนอข่าวเกี่ยวกับกลุ่มก่อความไม่สงบให้พอสมควร เพราะกลุ่มดังกล่าวมีเป้าหมาย คือ ต้องการให้ตกเป็นที่สนใจของสังคม

หวังว่าจะช่วยให้ควบคุมสถานะการได้ดีขึ้น ลดการสูญเสียเจ้าหน้าที่ได้มากขึ้นนะครับ

ทหารจะทำอะไรก็ทำเลย เรื่องคนภาคใต้ต้องผจญกับพวกสถุนก็การร้ายมานานเต็มที มันคิดว่าฝ่ายไทยแพ้แล้ว มันถึงย่ามใจปฏิบัติการเหมือนง่ายขึ้น คนไทยหน้าไหนค้านเรื่องการเข้าปฏิบัติการของเจ้าหน้าที่รัฐเพื่อปราบปรามพวกซาตานเหล่านี้ ขอให้มันโดนระเบิดตายไปด้วย สาธุ ผมขอสาปแช่งใว้ ณ.ที่นี้. ผมสาปแช่งใครมักแม่นซะด้วยซิ

ทบ.ปัดข่าวส่งทหารปืนใหญ่สู้กลุ่มอาร์เคเค 
 


วันที่ 4 ส.ค.  พ.อ.วินธัย สุวารี รองโฆษกกองทัพบก กล่าวชี้แจงกรณีที่มีกระแสข่าวว่า ทางกองพันทหารปืนใหญ่ที่ 5(ป.พัน5)

ได้เคลื่อนย้ายกำลังจำนวน1กองร้อย พร้อมปืนใหญ่2กระบอกเข้าพื้นที่จ.ปัตตานี และจ.นราธิวาส เพื่อเปิดยุทธการเชิงรุกต่อกลุ่มอาร์เคเคว่า  ยืนยันว่า ทางป.พัน5 ซึ่งมีหน่วยที่ตั้งอยู่อ.เมือง จ.สงขลา ไม่ได้เคลื่อนย้ายกำลังเข้าพื้นที่เพื่อจะปฏิบัติภารกิจในพื้นที่ภาคใต้  แต่จากที่มีประชาชนพบเห็นว่า มีการเคลื่อนย้ายกำลังของป.พัน5 นั้น เนื่องจากขณะนี้อยู่ระว่างการฝึกภาคสนามของกองร้อยปืนใหญ่ภาคสนามตามวงรอบการฝึกประจำปี โดยใช้พื้นที่ฝึกอ.จะนะและอ.นาทวี  จ.สงขลา  ฝึกตั้งแต่วันที่28 ก.ค.-4ส.ค.นี้ โดยทางหน่วยจะเดินทางกลับที่ตั้งอ.เมืองจ.สงขลาหลังจากฝึกเสร็จภายในวันนี้

ข่าวที่เกิดขึ้นอาจเกิดจากความเข้าใจผิดเนื่องจากพื้นที่การฝึกของป.พัน5อยู่ใกล้เคียงกับสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้

ขึงขังบัญชาการเอง 'ปู'คุมเพนตากอน 2สั่งตรงดับไฟใต้/ขำ'เคอร์ฟิว'ให้โจรตกใจ
ข่าวทั่วไป หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์ -- อาทิตย์ที่ 5 สิงหาคม 2555 00:00:41 น.
กรุงเทพฯ * "ยุทธศักดิ์" เผยยุทธศาสตร์ดับไฟใต้ ต่อไป "ปู" เป็นคนสั่งการเอง ยอมรับคิดประกาศเคอร์ฟิวบางพื้นที่จริง รอฟันธง 8 ส.ค. ขำกลิ้งให้เหตุผลเปลี่ยนแผนบ้างเพื่อให้โจรใต้ตกใจเผยหน่วยรบพิเศษอยู่ในพื้นที่แล้ว ข่าวกรองระบุกลุ่มก่อความไม่สงบเลียนแบบตะวันออกกลาง ข่มขู่เจ้าหน้าที่ระดับสูงในพื้นที่และคนในครอบครัว สั่งคุมเข้มสนามบินหาดใหญ่ ขณะที่รองสมุหราชองครักษ์แฉนักรบอาหรับอ้างดาวะห์ ขับไทยพุทธพ้นแผ่นดินไทย ระบุในหลวงพระราชินี ทรงเป็นห่วง

รัฐบาลเตรียมประชุมเชิงปฏิบัติการของศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาภาคใต้ในวันที่ 8 ส.ค.นี้ โดย น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะเป็นประธานการประชุม หลังถูกวิจารณ์อย่างหนักว่าไม่สนใจแก้ไขปัญหาความรุนแรงใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้

พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รองนายกรัฐมนตรีด้านความมั่นคง ให้สัมภาษณ์ว่า เป็นการประชุมครั้งแรกภายหลังตั้งศูนย์ปฏิบัติการขึ้นมาเพื่อเสนอแผนการปฏิบัติการว่าจะดำเนินงานอย่างไร โดยทางกอง อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในฯ (กอ.รมน.) จะเป็นผู้ร่างแผนร่วมกับสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ก่อนส่งให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. ในฐานะรอง ผอ.รมน. พิจารณาเป็นรูปร่างในลักษณะแผ่นชาร์ตถึงแผนการปฏิบัติงาน เพื่อให้เห็นภาพชัดเจนยิ่งขึ้นว่าอะไรที่ยังเป็นจุดโหว่หรือช่องว่าง ก็จะสั่งการให้กำชับมากขึ้นกว่าเดิม ต่อไปนายกรัฐมนตรีจะเป็นผู้สั่งการเอง

รองนายกฯ ระบุว่า การประชุมครั้งนี้จะเชิญฝ่ายทหาร เจ้าหน้าที่ตำรวจ ฝ่ายปกครอง ไม่ว่าจะเป็นผู้ว่าราชการ นายอำเภอ ศอ.บต. และรัฐมนตรีทั้ง 17 กระทรวงที่เกี่ยวข้อง ที่ต้องลงไปทำงานในพื้นที่ในระดับ ศอ.บต. โดยรัฐมนตรี 17 กระทรวงต้องเข้าร่วมประชุม หรืออาจจะส่งตัวแทนที่ลงไปทำงานในพื้นที่เข้าร่วมประชุม เพื่อประสานงานกับศูนย์ปฏิบัติการทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค

"ต้องยอมรับความจริงว่าปัจจุบันไม่มีตัวแทนจาก 17 กระทรวงลงไปทำงาน ต่อไปนี้ต้องมีทั้งในระดับนักการเมือง ข้าราชการ ลงไปทำงาน นายกรัฐมนตรีสั่งการว่าต่อไปต้องมีรัฐมนตรีหรือตัวแทนของกระทรวงที่เกี่ยวข้องลงไปทำงานจริงๆ"

ส่วนการประกาศเคอร์ฟิวในพื้นที่ภาคใต้นั้น พล.อ.ยุทธศักดิ์ว่า ขณะนี้เป็นเพียงแนวความคิดเพื่อไม่ให้เกิดความรุนแรงในพื้นที่ อาจจะทำให้ประชาชนเกิดความไม่สะดวกบ้างในการสัญจรไปมา แต่อาจจะเป็นเพียงบางจุดหรือเส้นทางใดเส้นทางหนึ่งเท่านั้น เป็นเพียงแนวความคิดว่าจะประกาศใช้หรือไม่ ไม่ใช่ครอบคลุมไปทุกพื้นที่หรือทั้งจังหวัด ส่วนจะประกาศใช้หรือไม่ ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของกองทัพภาคที่ 4 จะเป็นผู้พิจารณาถึงความจำเป็นเท่านั้น

"ผมเกรงว่าประชาชนอาจไม่เข้าใจ แต่ถ้ามีการประกาศเคอร์ฟิวน่าจะส่งผลดี เพราะจะทำให้กลุ่มผู้ก่อความไม่สงบตกใจ จะได้หยุดชะงักกันบ้าง คิดว่าน่าจะส่งผลดี ขณะนี้ผมคิดว่านโยบายทางยุทธศาสตร์ในการทำงานดีอยู่แล้ว แต่การปฏิบัติตามยุทธศาสตร์อาจจะมีช่องว่างอยู่บ้าง ส่วนที่เราต้องเสียชีวิตเพราะทางด้านยุทธวิธี ไม่ได้เสียชีวิตเพราะทางยุทธศาสตร์การเคลื่อนย้ายกำลังต่างๆต่อไปนี้ต้องระมัดระวังมากขึ้น เปลี่ยนแผนปฏิบัติกันบ้าง ไม่ใช่ปฏิบัติเหมือนเดิม ทำให้ฝ่ายตรงข้ามจับได้ถึงเวลาการปฏิบัติงาน"

หน่วยรบพิเศษลงพื้นที่
รองนายกฯ ด้านความมั่นคงบอก ว่า ยุทธวิธีต่างๆ เหล่านี้ ทาง พล.อ.ประ ยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. ได้เดินทางลงไปกำชับเคี่ยวเข็ญตลอดเวลา ซึ่งเป็นความตั้งใจจริงในการทำงานของ ผบ.ทบ.

สำหรับการใช้หน่วยรบพิเศษนั้น พล.อ.ยุทธศักดิ์เผยว่า  ปัจจุบันมีหน่วยรบพิเศษเข้าไปทำงานนอกเหนือหน่วยปกติ ซึ่งสามารถทำงานได้ผลเป็นอย่างดี โดยสามารถเข้าหามวลชนทำให้มวลชนฝ่ายตรงข้ามกลับใจมากกว่า 1,000 คน มาเป็นพวกเดียวกับเจ้าหน้าที่ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในการซุ่มโจมตีทหาร จะสังเกตได้จากกล้องซีซีทีวีว่าผู้ปฏิบัติการไม่ใช่คนในพื้นที่ จ.ปัตตานี แต่มาจากนอกพื้นที่ เข้ามาสร้างความรุนแรง แสดงให้เห็นว่าคน ในพื้นที่มีไม่มาก

ด้าน พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รมว.กลาโหม กล่าวถึงการประกาศเคอร์ฟิวว่า ในวันที่ 8  ส.ค.นี้ จะมีการประชุมร่วมกันกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้ง สมช. กองทัพ และกระทรวงต่างๆ โดยจะต้องหารือกันทั้งหมดว่าจะเอาอย่างไร

"จะเอาก็เอา ไม่เอาก็ไม่เอา ทั้งนี้ต้องให้เสรีกับหน่วยปฏิบัติคือกองทัพภาคที่ 4 ว่าเขาเห็นด้วยหรือไม่ ทางศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาภาคใต้จะเป็นผู้เสนอแนวความคิดไปเท่านั้น ต้องดูว่าสามารถทำได้หรือไม่ ต้องดูกฎหมายเป็นหลัก ถ้าจะทำก็ต้องทำกันเต็มที่ คิดว่าไม่น่ามีปัญหาอะไร"

ส่วนที่กองทัพอากาศจะส่งเครื่องAU-23 ลงไปปฏิบัติการในพื้นที่ด้วยนั้น ก็เป็นหนึ่งในแผนปฏิบัติการทางยุทธวิธี ซึ่งทางกองทัพอากาศได้วางแผนอยู่ว่าจะสามารถปฏิบัติอย่างไร เนื่องจากเกี่ยวเนื่องกับงบประมาณที่ต้องใช้เช่นกัน อย่างไรก็ตามทราบว่ากองทัพอากาศมีความพร้อม 100 เปอร์เซ็นต์

นายปณิธาน วัฒนายากร นักวิชา การด้านรัฐศาสตร์ ในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านความมั่นคงภาคใต้ ให้ความเห็นว่า รัฐบาลควรทำงานเชิงรับให้ดีก่อน ก่อนที่จะมีนโยบายเชิงรุกออกมา เนื่องจากนโยบายเชิงรุกอาจจะต้องใช้เวลาอีกสักระยะก่อน ซึ่งตนมองว่างานเชิงรับที่ควรรีบทำมีอยู่ 3 เรื่องคือ 1.ต้องจัดระบบการ รักษาความปลอดภัยในเมืองให้ดีกว่านี้ 2.ควรมีการกำหนดตัวบุคคลและโครงสร้าง ในการบริหารใน กทม.ให้ดี และจัดระบบประสานงานในพื้นที่ให้ชัดเจนกว่านี้ 3.รัฐ บาลต้องยกระดับเรื่องภาคใต้ให้เป็นเรื่องสำคัญมากขึ้น และกำหนดความรับผิดชอบให้ดีว่ารองนายกฯ แต่ละคนที่ตั้งขึ้นมา ควรจะทำงานตรงไหน ตอนนี้ยังไม่รู้เลยว่าใครทำอะไรตรงไหน

"ศูนย์ปฏิบัติการไม่ค่อยมีอำนาจเท่าที่ควร เพราะกฎหมายไม่ได้อยู่ในมือของศูนย์ฯ จึงไม่ช่วยอะไรได้มากเท่าไร และจะทำให้การทำงานเชิงรับระยะสั้น ยุ่งเหยิงหลายรูปแบบมากขึ้น สิ่งสำคัญควรทำกลไกผลักดันให้ กอ.รมน.และ ศอ. บต.ทำงานอย่างจริงจังมากกว่า" นายปณิ ธาน กล่าวถึงการตั้งศูนย์ปฏิบัติการดับไฟใต้โดยจะบูรณาการกับกระทรวงต่างๆ 17 กระทรวงเพื่อแก้ปัญหาภาคใต้

เคอร์ฟิวดาบสองคม
เมื่อถามว่าพล.อ.อ.สุกำพลจะนำเครื่องบินเข้าร่วมปฏิบัติการรักษาความปลอดภัยเจ้าหน้าที่ที่ลาดตระเวนเพื่อลดการสูญเสีย ตรงนี้จะช่วยได้มากน้อยแค่ไหน นายปณิธานตอบว่า ภาคใต้มันเป็นพื้นที่ที่มีป่าและมีเมฆมาก เครื่องบินตรวจการณ์มองลงมาจะเห็นยากมาก จึงเป็นวิธีที่ไม่ง่ายและใช้ไม่ค่อยได้ผล ยกเว้นแต่รัฐบาลจะปรับศูนย์แจ้งเตือนภัย และสั่งการให้เร็วขึ้นพร้อมทั้งบินตระเวนให้มากขึ้นด้วย

เขายังเตือนว่า เคอร์ฟิวเป็นเหมือนดาบสองคม แต่สามารถนำมาตัดวงจรความรุนแรงในระยะสั้นได้ แต่การที่จะนำมาใช้ต้องคิดให้รอบคอบ ระมัดระวังด้วย ที่สำคัญจะต้องกำหนดพื้นที่ในการใช้ให้ดีว่าจุดไหนต้องตรวจดูพื้นที่เป้าหมายให้มากขึ้น เพื่อไม่ให้คนร้ายวางแผนก่อเหตุได้ ทั้งนี้ หากประกาศใช้เคอร์ฟิวโดยไม่คิดให้รอบคอบ อาจจะมีผลในมุมกลับและทำให้กระทบกับประชาชนผู้บริสุทธิ์และการประกอบพิธีกรรมทางศาสนา รวมถึงจะทำให้คนหวาดกลัวตามมา การประกาศนั้นง่าย แต่การทำนั้นยาก

เจ้าหน้าที่หน่วยข่าวความมั่นคงที่ปฏิบัติการในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้เปิดเผยว่า กลุ่มก่อความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ได้มีการข่มขู่ไปยังเจ้าหน้าที่ระดับสูงในพื้นที่ เพื่อให้เกิดความหวาดกลัวและหวั่นวิตก มีการข่มขู่คนในครอบครัวจนถึงบุตรหลาน เป็นกล ยุทธ์หนึ่งที่นำมาใช้โดยเลียนแบบมาจากกลุ่มประเทศตะวันออกกลาง เพื่อปฏิบัติการสร้างความปั่นป่วนต่อการปฏิบัติหน้าที่ทางราชการ

เจ้าหน้าที่ดังกล่าวยังได้รับรายงานว่า ในพื้นที่อำเภอบันนังสตา จังหวัดยะลา ยังได้พบกลุ่มบุคคลแต่งกายชุดสีขี้ม้า สวมหมวกติดตราดาวแดง บนบ่ามีตราสัญลักษณ์รูปรวงข้าวหรือรูปกริชไขว้ ซึ่งตรงนี้ยังมองภาพไม่ชัดเจน และจากการบอกเล่าจากคนในงานเลี้ยงทำบุญว่าเป็นเจ้าหน้าที่จราจรในพื้นที่มาให้การบริการ

ขณะที่กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า (กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า) ได้ออกแถลงการณ์ เรื่องชี้แจงการฝึกเป็นหน่วยกองร้อยปืน ใหญ่สนามประจำปี 2555 ตามที่ได้ปรากฏ เป็นข่าวเผยแพร่ไปว่า กองทัพภาคที่  4 ได้มีคำสั่งเคลื่อนย้ายให้ทหารปืนใหญ่จาก กองพันทหารปืนใหญ่ที่ 5 จังหวัดสงขลา จำนวน 1 กองร้อย และปืนใหญ่ 2 กระบอก เข้าไปยังพื้นที่จังหวัดปัตตานีและจังหวัดนราธิวาส เพื่อเปิดยุทธการเชิงรุกต่อกลุ่มอาร์เคเคในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ว่า การเคลื่อนย้ายกำลังทหารดังกล่าว เป็นการเคลื่อนย้ายเพื่อทำการฝึกและการประเมินการฝึกตามวงรอบการฝึกประจำปี 2555 ของกรมทหารปืนใหญ่ที่ 5 จำนวน 4 กองพัน มีกองพันทหารปืนใหญ่ที่ 5,15, 25  และกองพันทหารปืนใหญ่ที่ 105 โดยใช้พื้นที่การฝึก อำเภอจะนะ, อำเภอเทพา จังหวัดสงขลา ในห้วงตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2555 ถึง 16 กันยายน 2555

ในการฝึกครั้งนี้ จะมีการยิงปืนใหญ่ด้วยกระสุนจริงลงในทะเลอ่าวไทยบริเวณบ้านโคกสัก อำเภอจะนะ จังหวัดสงขลา ทั้งนี้ เพื่อเตรียมความพร้อมตามแผนป้องกันประเทศตั้งแต่ยามปกติ โดยไม่นำมาใช้เสริมกำลังเพื่อเปิดยุทธการเชิงรุกต่อผู้ก่อเหตุรุนแรงในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้แต่อย่างใด

"ยืนยันว่ากำลังพลที่มีอยู่ในปัจจุบัน ทั้งพลเรือน ตำรวจ ทหาร มีเพียงพอต่อการรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของพี่น้องประชาชน ดังนั้น เพื่อให้เกิดความเข้าใจที่ถูกต้องและป้องกันการตื่นตระหนกจากการยิงปืนใหญ่"

คุมเข้มสนามบินหาดใหญ่
สำหรับการเฝ้าระวังพื้นที่ที่ตกเป็นเป้าหมายโจมตีจากผู้ก่อความไม่สงบ นั้น เจ้าหน้าที่ยังคงเฝ้าระวังในพื้นที่ อ.หาด ใหญ่อย่างรัดกุมที่สุด ช่วงเช้าของวัน 4 ส.ค. พ.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้กำกับการ สภ.หาดใหญ่ ได้สนธิกำลังกับหน่วยปฏิบัติการพิเศษตำรวจภูธร จ.สงขลา กว่า 50 นาย เข้าตรวจค้นพื้นที่หอพักบ้านเช่าเป้าหมาย ในย่านซอย 2 ถนนราษฎร์อุทิศ เขตเทศบาลนครหาดใหญ่ จ.สงขลา ซึ่งมีผู้ที่มีภูมิลำเนาอยู่ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้พักอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก เพื่อหาวัตถุระเบิดและอุปกรณ์ตั้งต้นในการประกอบระเบิด รวมทั้งบุคคลเป้าหมายที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคง เพื่อป้องกันการเข้ามาก่อเหตุลอบวางระเบิดในพื้นที่ อ.หาดใหญ่ ซึ่งได้มีการแจ้งเตือนให้เฝ้าระวังอย่างเข้มงวดในช่วง 10 วันสุดท้ายของเดือนรอมฎอน ซึ่งจากการตรวจค้นไม่พบวัตถุต้องสงสัยแต่อย่างใด แต่เจ้าหน้าที่ได้ยึดยาเสพติดทั้งยาไอซ์ ใบกระท่อม กัญชา พร้อมอุปกรณ์การเสพได้หลายรายการ และควบคุมตัวผู้ต้องหาซึ่งส่วนใหญ่เป็นเยาวชนจาก 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ จำนวน 6 คน ไปตรวจสอบประวัติ และจะดำเนินการตรวจค้นเป้าหมายเพื่อกดดันผู้ก่อเหตุอย่างต่อเนื่อง

ล่าสุด ทางหน่วยงานด้านความมั่นคงได้เตือนให้เพิ่มความระมัดระวังในการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ที่ตั้งจุดตรวจจุดสกัดในพื้นที่รอบนอกหรือบริเวณชานเมืองหาดใหญ่ เพื่อป้องกันการโจมตีจุดตรวจ อย่างที่เคยเกิดขึ้นในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนใต้ หลังจากมีการตั้งจุดตรวจจุดสกัดเข้า-ออกเข้มงวด หวั่นกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบเปลี่ยนยุทธวิธี เมื่อเข้ามาก่อวินาศกรรมไม่ได้ จะเปลี่ยนมาใช้การโจมตีจุดตรวจจุดสกัดแทน

ขณะที่ น.อ.นรนิติ์ ผลกานนท์ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานหาดใหญ่ เผยว่า การท่าอากาศยานหาดใหญ่ได้มีมาตร การในการคุมเข้มมาตลอดตั้งแต่เกิดเหตุการณ์ลอบวางระเบิดโรงแรมลีการ์เด้นส์ หาดใหญ่แล้ว และก็ยังคงปฏิบัติกันมาอย่างต่อเนื่องทั้งในเรื่องการเสริมกำลังเจ้าหน้าที่เพิ่มจากเดิมอีก 1 เท่าตัว เพื่อเพิ่มความเข้มงวดในการหมุนเวียนตรวจตราได้ครอบคลุมและถี่ขึ้น

ที่โรงแรมเฟิร์ส ถนนเพชรบุรีตัดใหม่ เมื่อเวลา14.00 น. พล.อ.ณพล บุญทับ รองสมุหราชองครักษ์ กล่าวบรรยายพิเศษในหัวข้อ "ปัญหาความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้" ว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงห่วงใยสถานการณ์ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นอย่างมาก เพราะหลังจากปี 2547 เป็นต้นมา สถานการณ์ในพื้นที่มีความรุนแรงขึ้นอย่างต่อเนื่องพบกา รปรากฏตัวของกลุ่มที่ต้องการแบ่งแยกดินแดน และเริ่มมีประชาชนร้องทุกข์ เนื่องจากมีกลุ่มมอเตอร์ไซค์5-6 คันออกก่อกวนตามหมู่บ้าน มีการยิงกราดใส่บ้านเรื่องราษฎรทำร้ายและฆ่าพระสงฆ์ เผาวัด เผาโรงเรียน ซึ่งความรุนแรงที่เกิดขึ้นนั้น สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงทนไม่ได้ และทรงให้ตนลงไปดู ซึ่งตนก็ลงไปเดือนละหลายครั้ง แต่ไปส่วนตัว ไม่ได้แจ้งบอกใคร

แผนขับไทยพุทธ
"ผมขอใช้คำว่ามีมุสลิมแค่กลุ่มหนึ่งเท่านั้น ที่มีเป้าหมายดังกล่าว เริ่มตั้งแต่ทำร้ายพระสงฆ์ ทำร้ายคนต่างศาสนา ทำให้พระสงฆ์ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ลาสิกขาไปจำนวนมาก จาก 266 วัด จะมีพระเหลือวัดละ 1-2 รูปเท่านั้น สมเด็จพระนางเจ้าฯ ท่านรับสั่งให้ผมลงไปดู และสั่งตั้งคลังอาหารที่ตำหนักทักษิณราชนิเวศน์ เพื่อนำข้าวสารอาหารแห้งไปส่งที่วัด ไม่ต้องให้ออกมาบิณฑบาตไกลจากบริเวณวัด เพื่อลดอันตรายที่จะเกิดขึ้นนอกจากนั้นยังได้พระราชทานปัจจัย และจัดให้ประชาชนมาตักบาตรที่วัดด้วย"

นอกจากนั้น ยังมีการข่มขู่พระสงฆ์ทั้งการเขียนจดหมาย และการส่งกระสุนมาในซองจดหมายให้พระออกจากวัดไปโดยเร็ว ซึ่งตนได้พยายามลงไปเยี่ยมเยียนให้กำลัง พระหลายท่านมีกำลังใจดี และไม่ยอมทิ้งวัดไปไหน เพราะทราบดีว่าเป้าหมายของพวกนี้ต้องการยึดครองพื้นที่ พร้อมกันนั้น ตนยังได้เพิ่มจำนวนพระสงฆ์ลงไปในพื้นที่ โดยเมื่อวันที่27 กค.ที่ผ่านมา มีพระสงฆ์จากภาคอีสานและเหนือพร้อมลงไปในพื้นที่ 60 รูป เมื่อรวมกับที่มีการจัดโครงการบวชในพื้นที่อีกจำนวนหนึ่ง ก็ทำให้จำนวนพระสงฆ์ในพื้นที่เพิ่มขึ้นมา

"ผมได้เก็บรวบรวมข้อมูลไว้ทั้งหมด ว่าหมู่บ้านไหนมีเหตุเกิดเท่าไหร่ คนตายคนเจ็บกี่คน บันทึกไว้หมด ทำเป็นสถิติ เพื่อวิเคราะห์ให้ได้ว่าทำไมต้องทำตรงนี้บ่อย เพื่อต้องการให้คนตรงนี้ออกไปใช่หรือไม่รวมถึงข้อมูลความเดือดร้อนและจดหมายร้องทุกข์ ตรงนี้ผมก็นำเรียนให้สมเด็จพระนางเจ้าฯ ตลอด จะเห็นได้ว่าเป้าหมายของคนที่ก่อเหตุคือต้องการให้คนออกจากตรงนี้ให้หมด โดยการปิดล้อมทุกด้าน คือปิดล้อมทางด้านศาสนา สังคม เศรษฐกิจ การศึกษา โดยเฉพาะกรณีของโรงเรียนสอนศาสนา จะพบว่ามีกฎกระทรวงที่ว่าด้วยเรื่องเงินอุดหนุนเป็นแรงจูงใจให้กลุ่มผู้ก่อความไม่สงบ ไปเผาโรงเรียนสามัญ เพื่อบีบให้นักเรียนไปเรียนที่ปอเนาะ หวังเงินอุดหนุนรายหัวที่มากกว่า ส่วนการปิดล้อมทางทหารนั้นผมไม่อยากพูดมาก ขอให้เป็นเรื่องของรัฐบาลและกองทัพไปแก้ไขปัญหากัน"

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าระหว่างการบรรยาย พล.อ.ณพล ได้นำซีดีมาเปิดเพื่อฉายภาพของพระสงฆ์ที่ถูกสังหารจากการวางระเบิด การยิง ฟันหัว  รวมถึงชาวบ้านที่ถูกระเบิดขาขาด เด็กโดนมีดฟัน หญิงท้องที่ถูกยิงจนไส้แตก ศีรษะของชายที่ถูกตัดหัวถูกโยนไว้ในตลาดสด รวมถึงคลิปของชายมุสลิมที่นั่งอยู่บนเวทีห้องประชุม ด้านหลังเวทีขึงผ้าเขียนอักษรภาษาอาหรับ มีเสียงพูดกับผู้เข้าร่วมประชุม โดย พล.อ. ณพลบอกว่า ชายผู้นี้เป็นชาวตะวันออก กลาง กำลังพูดระหว่างประชุม แต่ไม่ขอเปิดเผยว่าที่ไหน เนื้อหาบอกว่า เขาต้องรับผิดชอบดาวะห์ (เผยแผ่ศาสนา) ในประเทศไทย เป้าหมายของเขาไม่ใช่แค่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ แต่ต้องกระจายไปทุกภาค คำว่าชาติคือคนกับแผ่นดิน ถ้าให้คนหนีออกไป แผ่นดินก็จะเป็นของเขา

ผู้สื่อข่าวปัตตานีรายงานว่าเช้าตรู่วันเดียวกัน พ.ต.อ.อาซิส อุมายี ผกก.สภ.สายบุรี ได้รับแจ้งเกิดเหตุคนร้ายไม่ทราบกลุ่มและจำนวน ใช้อาวุธปืนยิงนายไภสัน ลาคอ อายุ 25 ปี อยู่บ้านเลขที่ 102 บ้านกระจูด ม.4 ต.ไม้แก่น อ.ไม้แก่น จ.ปัตตานี เสียชีวิต เหตุเกิดบนถนนชุมชนบ้านตะพาล่าง เขตเทศบาลตำบลตะลุบัน อ.สายบุรี จ.ปัตตานี จากการสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุนายไภสันได้ขี่รถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า สีแดงดำ หมายเลขทะเบียน กรพ 996 ปัตตานี ออกจากบ้านพัก เพื่อไปซื้อของที่ตลาดสายบุรี เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุคนร้ายได้ใช้อาวุธปืนยิงใส่กระสุนถูกบริเวณศีรษะและลำคอ เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ ส่วนสาเหตุอยู่ในระหว่างการสอบสวนของเจ้าหน้าที่

ช่วงเที่ยง ร.ต.ต เกษม ชูเรืองสุข อายุ 53 ปี รอง สวป.สภ.ปะนาเระ อ.ปะนาเระ จ.ปัตตานี ว่างจากภารกิจเข้าเวร แต่งชุดพลเรือนขี่รถจักรยานยนต์ซูซูกิ สเต็ป สีขาว หมายเลขทะเบียน กลน 206 ปัตตานี เพื่อเดินทางกลับบ้านพักที่อำเภอสายบุรี ใช้เส้นทางสาย 4157 ปะนาเระ-สายบุรี ถนนเลียบชายทะเลถึงบริเวณหน้ามัสยิดบ้านบน ม.2 ต.ปะเสยะวอ อ.สายบุรี ได้มีคนร้ายจำนวน 2 คนใช้รถจักรยานยนต์เป็นพาหนะขี่ประกบ ใช้อาวุธสงครามเอ็ม 16 กราดยิงเข้าใส่จำนวน 10 นัด โดนบริเวณลำตัวและศีรษะเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ คาดว่าเป็นการกระทำของกลุ่มแนวร่วมในพื้นที่เพื่อสร้างสถานการณ์ลอบทำร้ายเจ้าหน้าที่.

พวกกลุ่มโจรสถุน ไม่ว่าหน่วยไหนที่ออกมาต้านผ่านฝ่ายการเมือง อ้างเรื่องเศรษฐกิจจะเสียหาย หากทหารใช้มาตรการเด็ดชีพอย่างเดียว เพื่อยุติการการข่มขู่ วางระเบิด ฆ่าปชช.คนไทย. ขอให้พวกนี้ตายด้วยคมอาวุธ บนถนนบริเวณหน้าสถานที่พวกมึงทำงาน ขอให้ฉิบหายทั้งตระกูล แช่งให้ไปเกิดประเทศที่พวกมึงต้อง อดอยาก ร้อยชาติ ต่อแต่นี้ไป สาธุ ๆ

นี่คือยุคตกต่ำสุดขีดของกองทัพไทยครับ(รวมทั้งเป็นยุคเฮงซวยของประเทศไทยด้วย)อย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน ถ้าชาติจะล่มจมย่อยยับก็ในยุคนี้แหละครับ รอดก็รอดไม่รอดก็ไป พวกเราที่อายุไม่เกิน60น่าจะทันได้เห็นประเทศนี้"ล่มสลาย"ครับผม
เวลาแก้ปัญหาภาคใต้ไม่ได้ มักจะอ้างไม่อยากใช้ความรุนแรง และชอบพูดกันนัก
"รักสงบ"
หรือว่า"รบไม่เป็น"กันแน่????

อ้างจาก: ผบ.ตม.ยห. เมื่อ 22:49 น.  05 ส.ค 55
นี่คือยุคตกต่ำสุดขีดของกองทัพไทยครับ(รวมทั้งเป็นยุคเฮงซวยของประเทศไทยด้วย)อย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน ถ้าชาติจะล่มจมย่อยยับก็ในยุคนี้แหละครับ รอดก็รอดไม่รอดก็ไป พวกเราที่อายุไม่เกิน60น่าจะทันได้เห็นประเทศนี้"ล่มสลาย"ครับผม
เวลาแก้ปัญหาภาคใต้ไม่ได้ มักจะอ้างไม่อยากใช้ความรุนแรง และชอบพูดกันนัก"รักสงบ" หรือว่า"รบไม่เป็น"กันแน่????         

ผมพยายามลืม คำสบประมาท ที่ว่าทหารยศสูงๆทุกวันนี้ ไม่เคยมีประวัติรบสนามไหนเลย  ค้นประวัติก็ไม่พบการรบที่ไหน ยกเว้นสนามวิ่งแข่ง เห็นๆได้ดีกันเร็ว แต่งชุดเทห์ มาดทหารไทยยุคใหม่ ผมชอบครับ สวยดี แต่ขณะนี้ภัยถึงในบ้านแล้ว ท่านมีโอกาสได้ออกรบแล้ว จะไม่รบสักสนามหรือครับ"

เรื่องปรับแผนนี่ก็น่าละอาย เท่าที่จำได้(ทั้งที่ไม่อยากจะจำ)ปรับมาเรื่อย บึ้มที..ปรับที เปลี่ยนผบ.เหล่าทัพที...ปรับอีกแล้ว ตอนนี้น่าจะได้สัก99แผนแล้วมั้ง?ล้มเหลวไม่เป็นท่าตลอด ทหารตำรวจยังต้องตายเกือบทุกวัน ชาวบ้านนอนสั่นสะท้านทุกคืน
ครบ100เมื่อไหร่ถ้ายังเละเทะ ประกาศยอมแพ้เถอะครับ ไม่ต้องอาย...ระฆังยกสุดท้ายเคาะเตือนมาหลายทีแล้ว

อ้างจาก: คนรือเสาะรู้ดี เมื่อ 23:00 น.  06 ส.ค 55
เรื่องปรับแผนนี่ก็น่าละอาย เท่าที่จำได้(ทั้งที่ไม่อยากจะจำ)ปรับมาเรื่อย บึ้มที..ปรับที เปลี่ยนผบ.เหล่าทัพที...ปรับอีกแล้ว ตอนนี้น่าจะได้สัก99แผนแล้วมั้ง?ล้มเหลวไม่เป็นท่าตลอด ทหารตำรวจยังต้องตายเกือบทุกวัน ชาวบ้านนอนสั่นสะท้านทุกคืน
ครบ100เมื่อไหร่ถ้ายังเละเทะ ประกาศยอมแพ้เถอะครับ ไม่ต้องอาย...ระฆังยกสุดท้ายเคาะเตือนมาหลายทีแล้ว

ที่ว่ามานั้น ถูกทุกข้อ เห็นด้วย.
แต่ยังยอมแพ้ไม่ได้ เพราะกำลังปรับแผน  สงสารทหารเกณฑ์ กับ นายดาบติดนายร้อยใหม่ๆ. ส่วนพวกจบนายร้อยสายตรง เรียนทุกยุทธศาสตร์ เก่งรบทุกรูปแบบ ไม่รู้ อยู่ไหนหมด ส่งลงไปเยอะๆซิครับ เปิดตำรา รบหนักซิครับ ประชาชนอยากเห็นการรบเพื่อชาติจริงๆ ครับ ไม่ต้องห่วง อาหารการกินเพียบ ประชาชนเขารอท่านอยู่ ครับ

'พัลลภ'ปูดโจรใต้ฝึกอาวุธที่อินโดฯ
"พัลลภ"กระตุ้นทหารรบ"โจรใต้" แนะรบ.-ทหารเลิกหัวหด จี้ค้นหาแกนนำแล้วทำลายล้าง รับแค้นโจรใต้ฆ่าทหาร เร่งปรับยุทธวิธีสู้ ปูดโจรใต้ฝึกกองกกล.ติดอาวุธจากอินโดฯ ด้านทบ.เผย"ประยุทธ์"เข้าถก"ปู" คุยโครงสร้างศูนย์ดับไฟใต้ ยิงอส.เจาะไอร้องดับอีก1ราย

เมื่อวานเห็นผบ.ทบ.ประกาศกร้าวผ่านทีวีไปทั่วโลก"ใครมีวิธีการดีกว่านี้ว่ามาเลย"
คิดก่อนพูด หรือพูดไม่คิดก็แล้วแต่ ท่านทำเสียราคาตะหานไทยเข้าแล้ว หน้าที่โดยตรงของพวกท่านแต่ทำไม่บรรลุผล ดันมาขอร้องให้คนไม่ีมีหน้า่ที่ช่วยที ช่วยที อายแทนครับผม(ท่านไม่ต้องอายแล้ว)
เสียดายที่ผมเป็นเพียงผู้ต่ำต้อย อย่าว่าแต่ไปสะเออะเสนอแผนบ้าบอคอแตกที่คิดๆไว้เลย
แค่ขอพบหน้าท่านสักครั้งชาตินี้ไม่รู้จะมีวาสนารึป่าว?

ตามท่านเลยฉานชอบอย่างท่านว่าไม่งั้นไม่สาวานโจรสไตร์USAถึงจะปราบปรามพวกชั่วลอบกัดให้อยู่หมัดงัดไม้แข็งออกมาใช้เลยเที่ยวหน่อมแน้มอยู่ได้ส.บ่น