กิมหยง - ตะลุงเว็บบอร์ด

ศุกร์ที่ผ่านมา ผมนั่งดูทีวี มองภาพความวุ่นวายที่เกิดขึ้นในมณฑลยูนนาน ประเทศจีน กับกรณีแผ่นดินไหว 5 ริกเตอร์กว่า ๆ

แม้นเทียบความเสียหายและความสลดใจกับภาพที่เห็นในยูนาน กับอีกหลาย ๆ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบนโลกใบนี้ไม่ได้ แต่ ความเสียหายที่เริ่มบ่อยครั้ง..และความรุนแรงในแต่ละครั้งนั้นมีแนวโน้มที่จะรุนแรงมากขึ้นทุกที กลายเป็นความกังวลที่จะต้องนำไปคิดว่า โลกใบนี้ กำลังเข้าสู่ ยุคใด และ อายุของโลกใบนี้ที่เหมาะสำหรับมนุษย์อาศัย จะเหลือน้อยลงเท่าใด....


ไม่น่าเชื่อว่า ความวัวไม่ทันหาย ความควายก็แทรกให้มันเศร้าซ้ำซากหยั่งกะละครเน่า ๆ เมืองไทย...
เพราะหลังแผ่นดินไหวได้ไม่กี่วัน พลันเกิดฝนตกหนักในที่เดิม ทำให้เกิดน้ำไหลเชี่ยวกรากเข้าท่วมบ้านเรือนเสียหายมากมาย

ที่น่ากังวลก็คือ หลายครั้งที่เกิดน้ำไหล่บ่าในแต่ละที่บนโลกใบนี้ มักมีข้อสังเกตที่คล้าย ๆ กันก็คือ ความเร็ว,แรงของน้ำ นั้นมหาศาลเหลือเกิน และสีของน้ำเป็นสีโคลนขุ่น ซึ่งบอกต้นเหตุได้ว่า เป็นน้ำที่มาโดยไม่มีสิ่งใดไปทำการชะลอหรือขวางกระแสน้ำแต่อย่างใด

ต้นไม้ใหญ่ คือ "ชีวิต" ที่ผลิตอากาศดี ๆ ให้มนุษย์...เป็นร่มไม้..รังอุ่นให้นกน้อยใหญ่ได้หนุนนอน กันหนาว..กันลม
แค่เพียงไม่กี่นาที ไม้ใหญ่ที่ใช้เวลานับชั่วอายุจนโตแบบหลายคนโอบ ล้มครืน เพราะ มนุษย์ที่เกิดมาเพื่อทำลายเพียงไม่กี่ตัว!

ความเสียหายจากภัยพิบัติธรรมชาติในประเทศจีน เป็นต้นแบบที่น่ากังวล เพราะนับแต่ที่จีนเลือกเดินตามก้นฝรั่ง อยากจะพาประเทศตัวเองไปสู่สิ่งที่เรียกว่า "ร่ำรวย" เพื่อเป็นอับดับต้น ๆ ทางเศรษฐกิจของโลก โดยปราศจากการยั้งคิดนั้น ทำให้ ประเทศจีนวันนี้กำลังพลาดตกหลุมลึกแห่งความหายนะที่ตนกำลังเดินไปสู่ในอีกไม่ถึงร้อยปีข้างหน้า

จีน ลงทุนสร้างเขื่อนไว้มากมาย เพราะไม่มีทางเลือกอื่นใดที่จะสามารถเก็บกักน้ำไว้ใช้ในยามแล้งได้ และเขื่อนคือการควบคุมปริมาณน้ำมิให้เกิดท่วมในยามหน้าน้ำหลาก

ต้นไม้...ภูเขาสูงที่เคยเขียวขจี บัดนี้ จีน กลายเป็นตัวการที่จะต้องแผ้วถาง เพื่อการพัฒนาพื้นที่ออกไปใช้ในทางเศรษฐกิจ โดยเฉพาะสิ่งปลูกสร้างที่นับวันจะทวีปริมาณขึ้นตามจำนวนคนจีนที่มีมหาศาลมากเหลือเกิน

การตัดสินใจที่จะเป็นผู้นำทางเศรษฐกิจแบบที่ไม่เกรงใจชาวโลก ทำให้จีนไม่สนใจ แม้กระทั่งการสร้างเขื่อนกักน้ำขวางลำน้ำสำคัญอย่างแม่น้ำโขง

ผลของเขื่อนทำให้ คนใต้ลุ่มน้ำโขง ที่เคยอาศัยทรัพยากรบนสายน้ำนี้ กลายเป็นหมดโอกาส...
ยามน้ำแล้ง...จีนกักน้ำ  คนปลายน้ำอย่าง ลาว ไทย แทบจะเดินข้ามแม่น้ำได้แบบไม่ต้องใช้เรือ
ยามน้ำหลาก...จีนระบายน้ำ จนแม่น้ำโขง กลายเป็นทะเลโคลนที่สร้างความเสียหายให้แก่สองฝั่งลำน้ำโขงตอนล่าง อย่างวุ่นวาย

การบริหารจัดการน้ำทีไม่ได้มองปัญหาแบบองค์รวมของ จีน ดูแล้วนึกถึงประเทศไทย แต่ที่น่าห่วงใยกว่าก็คือ ไทยนั้นค่อนข้าง ไร้สาระได้ใจคนโง่  และมีนักการเมืองที่โลภได้สุดขั้วไม่น้อยหน้าชาติ(โจร)ใด ๆ ในโลก


ขนาดบทเรียนสำคัญจากน้ำท่วมปีที่ผ่านมาที่นายกนกแก้วที่จีบปากจีบคอบอก "เอาอยู่" จนคนที่ถูกน้ำท่วมแทบจะอยาก "เอามันให้อยู่" ยังไม่ทันหายกลิ่นเหม็นน้ำเน่า...เงินเยียวยาห้าพัน ก็ยังจ่ายกันไปหมด 

บทเรียนเน่า ๆ กำลังจะกลับมาซ้ำซากให้คนไทยกับน้ำท่วมที่   "ไม่ได้ทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอันเลย" ของรัฐบาลนี้

เงินนับหมื่น..นับแสนล้าน ทุ่มลงไป ก็กลายเป็น เหยื่อโอชะ และเป็นเบี้ยบ้ายรายทางสำหรับพวกนักการเมืองและเสือหิวงบประมาณ  แต่ผลของมันก็คือ    "น้ำก็ยังเสื..ก ท่วม ไม่เลิก

จังหวัด สุโขทัย ชื่อนี้มาจากรากศัพท์ สองคำ คือ สุข + อรุโณทัย รวมกันก็หมายถึง อรุณรุ่งแห่งความสุข
บัดนี้และกาลภายหน้า  "สุโขทัย" กำลังกลายเป็น  จังหวัดทุกข์โขทัย ที่หมายถึงอรุณรุ่งแห่งทุกข์ระทม แบบถาวรทุกปีอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

เพราะเพียงแค่ฝนหนักไม่เกินสองวัน..คนสุโขทัย ถึงกับช๊อค!  เพราะน้องน้ำนั้นมหาศาลและเร็วแรงแบบที่คนพื้นที่เองก็บอกว่า มันเร็วแบบที่ไม่เคยพบ!


ดูภาพน้ำที่มากับโคลน และเชี่ยวกรากในเมืองสุโขทัย ผมแว่บคิดถึงสภาพน้ำท่วมที่ยูนนาน  สองเมืองนี้ไม่ได้ต่างกัน เพราะน้ำที่มาพร้อมกับโคลน เป็นแบบเดียวกัน...
มันเป็นสภาพของน้ำป่าไหลหลากที่พัดพาเอาทั้งโคลน ทั้งเศษไม้ที่หมดสภาพยึดเกาะพื้นดิน มาเป็นหลักฐานประจานความเลวของมนุษย์ที่เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตน จนไม่คำนึงถึงธรรมชาติที่วันหนึ่งจะกลับมาทำลาย ญาติพี่น้องพ่อแม่ของตัวเอง..

ผลพวงของการเลือกที่จะเดินบนเส้นทางพัฒนาในแบบโง่ ๆ ที่ยอมให้นักการเมืองเลว เป็นผู้นำพาชาติ วันนี้จึงปฏิเสธไม่ได้ว่า  คนไทย,ประเทศไทยต้องรับเคราะห์กรรมกันทั้งหมด
ปริมาณน้ำกำลังจะสูงขึ้น... จากสุโขทัย กำลังเดินทางสู่พิษณุโลก..และลงมาตอนล่างอย่าง สิงห์บุรี อ่างทอง และอ่างเก็บน้ำถาวรอย่าง อยุธยา เมืองเก่า ในไม่ช้า

ขืนชาวประชายังรอท่าให้ รัฐบาลที่ไม่ได้ขึ้นมาเพื่อดูแลทุกข์สุขของประชาชน... แต่ขึ้นมาเพื่อขนเงินขนทองใส่เข่งไว้ให้พวกพ้องตัวเอง และทำงานเพื่อปลดทุกข์ ปลดโทษให้นักโทษชายผู้พี่ บริหารงานบ้านเมืองต่อไป ความจัญไรและพินาศคงยังดำเนินไปอย่างสมเพชและสมน้ำหน้าคนไทยที่โง่ซ้ำซากให้คนพวกนี้หลอกกันอีกไม่มีวันจบสิ้น

กันยา..ตุลาคม..พฤศจิกา  สามเดือนข้างหน้าคือ ความทุกข์ระทมของคนภาคเหนือและภาคกลาง
ปลายพฤศจิกา เข้าธันวา  คนปักษ์ใต้..หาดใหญ่ คงต้องเตรียมตัว เตรียมใจ สำหรับ  ปฎิบัติการแก้ปัญหาซ้ำซาก...และคำแก้ตัวของเหล่า นักการเมืองท้องถิ่น ในทำนอง "สุดวิสัย" กันหรือยัง...

สัตว์โลกมีสิ่งมหัศจรรย์ที่ธรรมชาติส่งมาให้เป็นเครื่องมือประจำตัว นั่นคือ มันจะเรียนรู้ว่า อะไรที่ทำให้เกิดปัญหา มันจะหลีกเลี่ยงและรู้ว่า สิ่งนั่น..ที่นั้น อันตราย!

แต่มีสัตว์โลกชนิดเดียวที่ไม่เคยเรียนรู้ และจดจำว่า สิ่งนั้น.ที่นั่น...และพวกนั้น มันน่ากลัว..มันอันตราย
สัตว์โลกสปีชี่ส์นี่เรียกว่า "มุนษย์" 


มนุษย์ เป็นสัตว์โลกที่โง่กว่าสัตว์ชนิดอื่นอีกหลายสปีสชี่ส์  เพราะถูกสัตว์การเมืองมันหลอกซ้ำแล้วซ้ำอีก ก็ยังโง่..ยอมเดินเข้าคอกกากบาทให้... เพราะพวกมันหลอกว่า  "เลือกกู..แล้วกูจะช่วยมึง"

รัฐบาลดี...มันแสดงถึงสภาวะ และคุณภาพของคนในชาติ ฉันใด
นักการเมืองดี....ย่อมแสดงให้เห็นถึง คุณภาพของระบบการศึกษาไทย ฉันนั้น

จากที่ผิดพลาดจนได้รัฐบาลไร้ค่าวันนี้....จึงขอปิดท้ายเพื่อกระตุกสำนึกคนบ้านเรานิดว่า...

ถึงวันอาทิตย์นี้ ก่อนเข้าคูหากากบาทเลือก สจ.  ลองหลับตานึกหน้า ว่าที่ สจ.ที่จะเลือกสักนิด..

อย่าลืมว่า สัตว์บางชนิด  "เจ็บแล้วมันจำ"   แต่เที่ยวนี้ ถ้าเจ็บแล้วยังเลือก ก็ตัวใครตัวมัน...งานนี้ บังไม่เกี่ยวนาเฟ้ยยยย!

 

เขียนดีจริง ๆ

เจ๋งอะ ชอบอะ

บางครั้งก็อยากมี "คนรัก" แต่ถ้ามัน "วุ่นวาย" นักอยู่คนเดียวก็ได้

ไม่ได้แต่งเองหรอกครับ  ลอกเขามา

อ่านแล้ว โดนใจมาก

ในความดีอาจมีไม่ดีซ่อนอยู่

ขอให้ทำใจและธรรมใจนะครับ

อ้างจาก: ลอกเขามาครับ เมื่อ 11:14 น.  14 ก.ย 55
บางครั้งก็อยากมี "คนรัก" แต่ถ้ามัน "วุ่นวาย" นักอยู่คนเดียวก็ได้

ไม่ได้แต่งเองหรอกครับ  ลอกเขามา

อ่านแล้ว โดนใจมาก

ในความดีอาจมีไม่ดีซ่อนอยู่

ขอให้ทำใจและธรรมใจนะครับ

ครับ ผมลอกเค้ามาครับ