ข่าว:

ทดลองใช้งานบอร์ดตะลุง ที่อยู่ในขั้นตอนการกู้คืนข้อมูล เบื้องต้นมีแต่กระทู้ (ข้อความ) กำลังกู้รูปภาพ ไฟล์แนบต่าง ๆ คาดว่าจะทยอยสมบูรณ์ภายในไม่ช้า

Main Menu

ลางร้าย “หายนะวันสิ้นโลก” อาจไม่ใช่เรื่องไกลตัว อีกต่อไป..

เริ่มโดย ฟานดี้, 10:30 น. 31 มี.ค 54

ฟานดี้

18 มี.ค.พบฝูงวาฬตายเกยตื้นที่หาดของเกาะบรูนีย์ ทางใต้ของนครโฮบาร์ต
ในรัฐแทสเมเนีย ออสเตรเลีย ตายทั้งหมด  21 ตัว และได้รับการช่วยชีวิตไว้ ได้ 11 ตัว



8มี.ค. ปลาแอนโชวี่ (anchovies)หลายล้านตัว ตายโดยไม่ทราบสาเหตุ
บริเวณอ่าวเรดอนโด ในมลรัฐ แคลิฟอร์เนียร์



6 มี.ค. อีการ่วงหล่นจากฟ้าตกมาตายโดยไม่ทราบสาเหตุ ที่เขตคงคากาต
เมืองปัญนา เมืองเอกของรัฐพิหาร ทางตะวันออกของอินเดีย



วันที่ 21 มกราคม ที่ประเทศเวียดนาม ฝูงควายนับหมื่นตัวล้มตาย
เพราะสภาพอากาศที่แปรปรวน



และนี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งของปริศนาแห่งผืนโลกใบนี้ ลางร้ายต่างๆ
อาจเป็นตัวแทนของโลก ที่พยายามจะบอกอะไรกับเหล่ามนุษย์ ในฐานะผู้อาศัย
และผู้ทำลาย โดยไม่คำนึงถึงผลกระทบความเสียหาย จนเกิดหายนะอย่างมหาศาล
ความสูญเสียที่ไม่สามารถทำนายคาดการณ์นั้นน่ากลัวกว่าสิ่งใด แต่ภัยพิบัติต่างๆ
ทำให้ต้องให้ความสำคัญกับการเตือนภัย มากขึ้น


และคงต้องถึงจุดที่มนุษย์ต้องตระหนักแล้วว่า หากไม่ทำอะไรสักอย่าง
จะต้องเกิดความสูญเสียอย่างที่เกิดขึ้นเป็นแน่ ถึงแม้ว่าประเทศไทยจะอยู่ในพื้นที่เสี่ยง
น้อยกว่าประเทศอื่นๆ แต่เราเห็นแล้วว่า ความรุนแรงจากภัยพิบัติรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ในทั่วโลก
ใกล้เข้ามาจนรู้สึกว่า "หายนะวันสิ้นโลก" เป็นเรื่องใกล้ตัว ที่สัมผัสได้จริงๆ สิ่งที่มวลมนุษย์
กระทำต่อโลกใบนี้ ภัยพิบัติที่เกิดขึ้นเป็นบทเรียนอย่างใหญ่หลวง สิ่งที่ทำได้คือ ภาวนา
ขออย่าให้เกิดสิ่งร้ายแรงไปมากกว่านี้...

สะใจ

คอยวันสิ้นโลกมานานแล้ว จะได้หมดๆกันเสียที....เจ้าหนี้ทั้งหลาย ทวงอยู่ด้ายยยยยย555555

สมาชิก SSC


กิมหยง

เรานะเคยสังเกตุธรรมชาติบ้างไหม
ง่าย ๆ เคยหันมองท้องฟ้าหน้าบ้านบ้างหรือเปล่า
มันแปลก ๆ ไม่เคยพบเห็นมาระยะหนึ่งแล้วครับ



เมฆพัดเป็นร่องลม คล้ายร่องน้ำอุ่นในมหาสมุทร



นี่ก็อีกเช่นกัน เกิดลักษณะแบบนี้บ่อย ๆ
ทั้ง ๆ ที่ก่อนหน้านี้ ไม่ค่อยพบเห็น



แบบนี้ก็เกิดถี่ขึ้น



ส่วนแบบนี้ไม่เคยพบเห็นมาก่อน
เป็นช่วงก่อนวิกฤติบ้านเรา ราว 10 วัน

หลายท่านคิดว่า ปรกติ
แต่เราคิดว่า เป็นการส่งสัญญาณบางอย่าง ให้เรารับรู้
สร้าง & ฟื้นฟู

Kungd4d



ในเวบไซต์ต่างๆ มีการนำเรื่องราว 2012 วันสิ้นโลก ไปกล่าววิพากษ์วิจารณ์ไว้มากมายว่าเป็นเรื่องที่กุขึ้นมา หาข้อเท็จจริงไม่ได้
     แม้ในเวบไซต์ของ NASA (องค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติ) อันเป็นหน่วยงานรัฐ ของสหรัฐฯ ก็เปิดพื้นที่
เพื่อชี้แจงให้ประชาชนอเมริกา และ ทั่วโลก ทราบว่า ข่าวลือดังกล่าว ปราศจากพื้นฐานความจริงใดๆ ทั้งสิ้น

คำถาม มีภัยคุกคามใดๆต่อโลกมนุษย์ในปี 2012 หรือไม่ ? เวบไซต์ในอินเตอร์เนตจำนวนมากระบุว่า โลกจะถึงการอวสานต์ ในเดือนธันวาคม 2012
คำตอบ ไม่มีอะไรร้ายแรง จะเกิดขึ้นกับโลกมนุษย์ในปี 2012 ดาวพระเคราะห์ซึ่งพวกเราอาศัยอยู่กันนี้ อยู่มาด้วยดีเป็นเวลากว่าสี่พันล้านปี และนักวิทยาศาสตร์ซึ่งทรงความน่าเขื่อถือทั้งหลายในโลก ไม่พบเหตุของความคุกคามใดๆ ที่เกี่ยวเนื่องกับปี 2012 นี้แต่อย่างใด

คำถาม อะไรเป็นจุดเริ่มต้นของคำพยากรณ์ว่าโลกจะสิ้นสุดในสิ้นปีของปี 2012
คำตอบ เรื่องมันเริ่มต้น ด้วยการกล่าวอ้างว่า ดาวนิบิรุ (Nibiru)  ซึ่งเป็นดวงดาวที่กล่าวกันว่า ชาวสุเรเมียน(Suremians) เป็นผู้ค้นพบกำลังพุ่งเข้าหาโลก ในเบื้องต้น คำพยากรณ์กล่าวว่า ความหายนะจะเกิดขึ้นในเดือนพฤษภาคม 2003 แต่เนื่องจากไม่เกิดอะไรขึ้นในวันนั้น วันโลกาวินาศจึงถูกเลื่อนไปเป็นเดือนธันวาคม 2012  หลังจากนั้นจึงมีการนำนิทานทั้งสองเรื่องมาเชื่อมโยงเข้ากับกับจุดจบของวง วัฎจักรในปฎิทินโบราณของมายัน และนำมาสู่คำพยากรณ์ว่าวันโลกาวินาศคือ วันที่ 21 ธันวาคม 2012

คำถาม จริงหรือที่ว่าปฎิทินของมายันสิ้นสุดในเดือนธันวาคม 2012
คำตอบ ปฏิทินของพวกเราที่แปะอยู่ในห้องครัว ไม่ได้สิ้นสุดในวันที่ 31 ธันวาคม ปฏิทินของมายันก็ไม่ได้จบสิ้นในวันที่ 21 ธันวาคม 2012 เช่นเดียวกัน วันที่ 21 ธันวาคมดังกล่าว เป็นวันสุดท้ายของรอบวงปฏิทินของมายัน ดังนั้น เมื่อปฏิทินของพวกเรา เริ่มใหม่อีกครั้งในวันที่ 1 มกราคม ปฏิทินมายัน ก็เริ่มต้นนับใหม่ ภายหลัง 21 ธันวาคม           

คำถาม มีดาวที่ชื่อว่านิบิรุ หรือ ดาว X หรืออีริส (Eris)ที่กำลังพุ่งเข้าหาโลก และ คุกคามที่จะทำลายดาวเคราะห์ซึ่งพวกเราอาศัยอยู่นี้หรือไม่
คำตอบ นิบิรุ และเรื่องราวต่างๆเกี่ยวกับดาวเคราะห์ที่พุ่งเข้าหาโลก เป็นเรื่องซึ่งกุขึ้นมาในอินเตอร์เนต ไม่มีพื้นฐานข้อเท็จจริงเกี่ยวกับคำกล่าวอ้างเหล่านี้เลย หากคำอ้างที่ว่านิบิรุ หรือ ดาว X กำลังมุ่งหน้าที่จะพุ่งชนโลกในปี 2012 เป็นจริง นักดาราศาสตร์คงจะทำการติดตามดาวดวงนี้มาอย่างน้อยเป็นสิบปีมาแล้ว และ หากเรื่องนี้เป็นจริง วันนี้ เราย่อมสามารถมองเห็นดาวดังกล่าวด้วยตาเปล่าในวันนี้แล้ว ความเป็นจริงก็คือ มันไม่มีดาวดังกล่าว สำหรับ Eris นั้นเป็นเรื่องจริง แต่ดาวดวงนี้เป็นดาวดวงเล็กขนาดเท่าดาวพลูโต และดาวดวงนี้จะอยู่ในวงโคจรรอบนอกของระบบสุริยะ ระยะใกล้ที่สุดซึ่งดาวดวงนี้จะเข้ามาใกล้ ก็คือประมาณ สี่พันล้านไมล์

คำถาม เป็นความจริงหรือไม่ ที่ว่ามีอันตรายที่โลกจะถูกพุ่งชนจากอุกาบาตในปี 2012
คำตอบ  โลกมีโอกาสถูกพุ่งชน จากดาวหางหรืออุกาบาตตลอดเวลา แต่การพุ่งชนซึ่งมีความรุนแรงมีน้อยมาก การพุ่งชนที่มีผลกระทบใหญ่เกิดขึ้นเมื่อ 65 ล้านปีที่ผ่านมา ซึ่งส่งผลให้ไดโนเสาร์สูญพันธุ์ไป ปัจจุบันนี้ นาซาได้ดำเนินการสำรวจที่เรียกว่า การสำรวจเพื่อปกป้องอวกาศ เพื่อมองหาอุกาบาตขนาดใหญ่ซึ่งอยุ่ใกล้โลก เป็นเวลานานก่อนที่มันจะพุ่งถึงโลก ผลการศึกษา นาซาสรุปว่ายังไม่พบอุกาบาตขนาดใหญ่เช่นที่เคยทำลายไดโนเสาร์มาก่อน งานการสำรวจนี้ ทำกันอย่างเปิดเผย และมีการนำขึ้นเวบทุกวันที่ NEO Program Office website ซึ่งทุกคนสามารถเข้าไปดูได้

คำถาม นักวิทยาศาสตร์นาซา รู้สึกอย่างไรเกี่ยวกับการกล่าวอ้างถึง วันโลกาวินาศซึ่งจะมาถึง
คำตอบ คำกล่าวอ้างเกี่ยวกับภัยพิบัติหรือการเปลี่ยนแปลงอย่างเฉียบพลันในปี 2012 นั้น มันมีคำอธิบายทางวิทยาศาสตร์อย่างไร หลักฐานบ่งชี้อยู่ที่ไหน เราไม่พบเห็นอะไรเหล่านั้นเลย

     สำหรับการนำเสนอต่างๆ ทั้งในรูปหนังสือ ภาพยนต์ สารคดี หรือในอินเตอร์เนต ต่างๆนั้น ไม่สามารถไปเปลี่ยนแปลงข้อเท็จจริงได้ ไม่มีหลักฐานที่พอเชื่อถือใดเลย สำหรับการยืนยันว่าจะเกิดเหตุการณืผิดปรกติขึ้นในเดือนธันวาคม 2012

คำถาม มีอันตรายใดๆที่จะเกิดจากพายุสุริยะขนาดใหญ่ ที่คาดว่าจะมีในปี 2012
คำตอบ การปรับเปลี่ยนของพายุสุริยะเกิดเป็นวัฎจักร ซึ่งจะขึ้นถึงจุดสุดยอดทุก 11 ปี เมื่อใกล้ถึงจุดสุดยอดนี้ การปะทุในดวงอาทิตย์อาจทำให้ระบบสื่อสารดาวเทียมได้รับผลกระทบ แม้ในปัจจุบันวิศวกรกำลังเรียนรู้ที่จะพัฒนาระบบอิเล็กตรอนิกส์ที่สามารถทำ งานได้ภายใต้พายุสุริยะใดๆก็ได้ แต่ไม่มีความเสี่ยงพิเศษใดๆในปี 2012 จุดสุดยอดของการเปลี่ยนแปลงครั้งต่อไปจะเกิดขึ้นประมาณปี 2012-2014 และก็เป็นที่คาดว่าจะเป็นวงวัฎจักรสุริยะตามปรกติ ไม่มีความแตกต่างใดจากวัฎจักรซึ่งเคยเกิดมาในประวัติศาสตร์



ที่มา : www.talkystory.com
       : www.oknation.net