กิมหยง - ตะลุงเว็บบอร์ด

โดย http://www.siamdara.com/home/

[attach=1]

ซีอีโอนกแอร์ ''พาที สารสิน'' จูงมือดาราสาว ''บี-ปีติภัทร'' ที่คบหากันมานานกว่า 7 ปี เข้าพิธีฉลองมงคลสมรสอย่างชื่นมื่นท่ามกลางความยินดีของบรรดาเพื่อนนักแสดงและเหล่าคนดังจากแวดวงสังคมไฮโซ เผยแพลนฮันนีมูนทันทีที่ยุโรปพร้อมกับคู่ของ ''แบงค์ พชร -นิหน่า สุฐิตา ปัญญายงค์'' เผยเรื่องทายาทฝ่ายชายหวังได้ลูกสาว 2คน

หลังจากเข้าพิธีสมรสพระราชทานจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ไปเมื่อวันที่ 27 มี.ค.54 ล่าสุด ''พาที สารสิน'' ซีอีโอสายการบินโลว์คอสต์ชื่อดังของเมืองไทยอย่าง ''นกแอร์''ได้จูงมือ ''บี-ปีติภัทร จิตณาธรรม'' หรือชื่อเดิม ''บี-ปิยวรรณ'' ดาราสาวที่คบหากันมานานกว่า 7 ปีเข้าสู่พิธีฉลองมงคลสมรสอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 10 เม.ย. 54  ณ  ห้องแอทธินี คริสตัลฮอลล์ โรงแรม พลาซา แอทธินี กรุงเทพฯ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยงานนี้ก็มีบรรดาคนดังในแวดวงบันเทิงมาร่วมแสดงความยินดีอย่างคับคั่ง นำโดยนักหล่อหนุ่มหล่อขั้นเทพฯ ''โดม-ปกรณ์ ลัม''  ที่ควงแขนแฟนสาวนอกวงการ ''น้องเพนท์'' มาเปิดตัวอย่างเป็นทางการครั้งแรก ร่วมด้วยพิธีกรข่าวชื่อดังจากวิกพระรามสี่ ''แบงค์ พชร'' ที่ควงคู่มากับภรรยาสาว ''นิหน่า สุฐิตา'', ''บอย อนุวัฒน์- เจี๊ยบ พิจิตตรา'', ''ก้อย แซทเทอร์เดย์ เซโกะ- โย่ง อาร์มแชร์'', ''แองจี้ เฮสติ้งส์'', ''นก -สินจัย เปล่งพานิช'', ''ครีม - เปรมสินี รัตนโสภา'', ''จอย - ชลธิชา นวมสุคนธ์'', ''แก้ม เดอะสตาร์'', ''ริท เดอะสตาร์'', ''เอ-ศุภชัย ศรีวิจิตร'', ''เมย์ - พิชญ์นาฏ สาขากร'',โดยมี ''พงส์ สารสิน'' เป็นประธานในงานฉลองมงคลสมรส

โดยก่อนที่จะเริ่มพิธีอย่างเป็นทางการสาว ''บี'' และแฟนหนุ่มนามสกุลดัง ''พาที'' ได้เปิดห้องลอนดอน ชั้น 2 โรงแรม พลาซา แอทธินี กรุงเทพฯ ให้กับบรรดาผู้สื่อข่าวได้สัมภาษณ์เกี่ยวกับความรู้สึก ซึ่งทั้งสองก็ได้เผยความรู้สึกอย่างละเอียดยิบในทุกคำถาม

ความรู้สึกในพิธีฉลองมงคลสมรสวันนี้เป็นอย่างไรบ้าง
บี : ต้องขอบคุณทุกคนที่มาหลังจากที่ลุ้นกันมาจนย่างเข้าปีที่ 7 ก็ถึงเวลาสักที เพราะพี่นักข่าวก็ถามกันมาตลอดว่าเมื่อไหร่จะแต่ง
พาที : ขอบคุณทุกท่านที่อุตส่าห์มาร่วมงานในวันนี้ คือเราก็คบหากันมานานแล้วก็ถึงเวลามีลูกมีแฟมิลี่สักที

สาเหตุที่ตกลงปลงใจแต่งงานกันเพราะอยากลูกหรือเปล่า
พาที : อันที่จริงแล้วผมขอเขาแต่งตั้งแต่คบหากันตั้งแต่ 3 เดือนแรกแล้วแต่ตอนนั้นงานเยอะก็ต้องผ่านวิกฤตธุรกิจกันมา ''บี'' เขาเองก็อยากทำงานที่ไม่ใช่นักแสดง
บี : ตอนนั้นที่พี่เขาขอแต่งงานเราก็ยังงงอยู่ ว่าทำไมเขาไปขอแต่งงานที่หน้าห้องน้ำ ตอนนั้นก็คือไปทานข้าวกับพ่อแม่ ''พี่ดู๋ง-พาที''
พาที : ตอนที่ขอเขาแต่งงานตอนที่คบหากันตอน 3 เดือนมันเป็นความรู้สึกว่าเขาใช่แฟนเราและเป็นคู่ของเราก็เลยไม่ได้วางแผนก่อนก็เลยขอแต่งตรงนั้นเลย มันก็เลยคิดกันมาเรื่อยๆ อยู่พักหนึ่งเหมือนกัน ก็คือเรื่องการแต่งงานเรามีการวางแผนเราไม่ได้สายฟ้าแลบ เราเตรียมมาหลายปี เนื่องจากเวลา สถานการณ์ทางการเมือง เศรษฐกิจ เราเอาเวลาที่เหมาะสมค่ะ ไม่ได้ต้องแต่งตามกระแสคนกัน อยู่ที่ความพอใจและความพร้อม

เพราะอะไรที่ทำให้ตัดสินใจแต่งงานกัน
บี : นักข่าวส่วนใหญ่จะเขียนว่าเขาเป็นไฮโซ เขาเป็นคนมาจากนามสกุลดัง แต่เมื่อได้คบกันแล้วไม่มีอารมณ์นั้นอยู่เลยเขาเป็นแค่ผู้ชายคนหนึ่งที่มีจิตใจดีและมีความดีอยู่ในตัวมากพอที่จะให้เขาเป็นคนที่สามารถดูแลเราไปตลอดชีวิต
พาที : สมัยก่อนผมไม่ทราบว่าเขาเป็นดาราตอนที่จีบกันใหม่ๆ ผมคิดแค่ว่าเขาเป็นดีเจ ก็คือตอนนั้นเขาถ่ายละครลอดลายมังกรอยู่ ไปนั่งรอดูเขาเข้าฉากรู้สึกว่าเขาเหนื่อยมาก อีกอย่างเขาเป็นคนดี ไม่ใช่แบรนด์เนม ซึ่งก็เหมือนกับผมและเป็นผู้หญิงฉลาดงานที่เขาทำอยู่ที่เมืองไทยประกันชีวิตถือว่าเป็นอะไรที่ยาก เขาเป็นคนสบายๆ เป็นเพื่อนเป็นแฟนและเป็นภรรยาและก็เอาสุนัขมาให้
บี : จริงๆ แล้วเราแต่งงานกันตั้งแต่วันที่ 27 มี.ค.54  ก็ได้ย้ายเข้าไปอยู่ในบ้าน ''สารสิน'' ''บี'' ได้รับการต้อนรับจากที่บ้านน่ารักมาก ชีวิตไม่ได้แตกต่างจากเดิมเลย ยังทำงานเหมือนเดิม ยังมีเพื่อนกลุ่มเดิม กินข้าวแบบเดิม เจอกันทุกเย็นเหมือนเดิม แต่เราใช้ชีวิตอยู่บนเตียงด้วยกันมีสุนัขอยู่ข้างๆ ด้วยหนึ่งตัว แพลนชีวิตต่อจากนี้คงเป็นไปตามสเต็ปไม่ได้เร่งรัดเรื่องมีลูก ถ้ามีก็มีถ้าถึงเวลาแล้วไม่ได้ก็อาจต้องปรึกษาหมอกันไป ณ ตอนนี้สบายๆ ไม่ได้กดดันตัวเองค่ะ

เคยขอไปครั้งหนึ่งแล้วอย่างนี้ก่อนจะแต่งงานกันต้องขอแต่งงานใหม่อีกรอบไหม
พาที : ไม่เลยเราค่อยๆ พร้อมพ่อ-แม่ผมรักบีมาก เพราะ ''บี'' จะไปทานข้าววันเสาร์อาทิตย์ที่บ้านผมตลอด 7 ปีที่ผ่านมาก็เลยคุ้นเคยเวลาผมไปบอกว่าจะแต่งงานเขาก็เลยไม่เซอร์ไพรส์ เขาก็บอกแต่ว่าก็ถึงเวลาแล้ว ผมก็ใช้ชีวิตโสดมาแบบดับเบิลมากกว่าผู้ชายทั่วไป
บี : (หันไปถาม พาที) เสียดายไหม?
พาที : เสียดายบ้าง (หัวเราะ) คือพูดเล่นสนุกๆ ครับ

สำหรับเรื่องทายาทวางแผนอย่างไรไว้บ้าง
พาที : คือก็อยากมีเลยครับเพราะตอนนี้ผมอายุ 49 จะ 50 ปีแล้ว ถ้าลูกอายุ 20 ผมก็ 70 ปีแล้ว จะเตะบอลกับลูกก็ยังไม่ได้เลย คิดว่ามีตอนนี้มีเลยน่าจะดี ก็อยากได้ผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย เพราะผู้ชายสมัยนี้อายุ 15-16 ปีก็ไปจีบสาวและหายไปเลย แต่ผู้หญิงส่วนใหญ่ก็จะอยู่กับบ้าน ผมก็จะสอนให้ลูกเล่นกีตาร์ เล่นสควอชได้ อยากมีประมาณ 8 คนจะได้เป็นเพื่อนเล่นกัน

แพลนฮันนีมูนมีหรือยังจะไปที่ไหน
พาที : ไปพรุ่งนี้เลย 11 เม.ย. 54 เพราะคิดว่าจะพา ''บี'' ไปเที่ยวช่วงสงกรานต์อยู่แล้ว ปีนี้ก็จะพา ''บี'' ไปเที่ยวอีก บังเอิญปีนี้แต่งงานเลยกลายเป็นฮันนีมูนไปในตัว ผมก็จะพาเขาไป ซานฟรานซิสโก, ลาสเวกัส และ ฮาวาย ไปประมาณ 10 วัน ไปพร้อมกับ ''แบงค์'' และ ''นิหนา'' ด้วย

หลังแต่งงานยังทำงานอยู่ไหม
พาที : อันนี้ก็ต้องแล้วแต่เขาถ้าเขาอยากทำก็ได้แต่ถ้าท้องโย้มีลูกแล้วไม่ต้องทำก็ไม่เป็นไรชิวๆ
บี : จริงๆ แล้วเจ้านายของ ''บี'' ที่เมืองไทยประกันชีวิต ก็ถามเหมือนกันว่าจะลาออกไหม ''บี'' ก็บอกว่าถ้าพี่ไม่ไล่หนูออกก็จะทำงานต่อไป จะท้อง 9 เดือนก็ยังต้องพาลูกค้าไปล่องเรืออยู่ค่ะ

คอนเซปต์งานในวันนี้เป็นอย่างไร
พาที : เป็นมิวสิกแอนด์ยีนส์เพราะผมเองเจอ ''บี'' ครั้งแรกไปร้องเพลงในคอนเสิตร์ของ ''บีอีซี เทโร'' เราไปรับเขาตอนตี 4 ตอนที่เขาจัดรายการ บางทีไปรับเขากลับไปทำงานก็ไปหลับอยู่ในออฟฟิศ
ทำไมของชำร่วยในวันนี้ถึงเป็นช็อกโกแลตในเทปคลาสเซ็ต
บี : หนึ่งเลยอันนี้เป็นความคิดของ ''บี'' คือเราเจอกันตอนที่ ''บี'' เป็นวีเจแล้วเราชอบเพลงเหมือนกันและและตอนที่เราเจอกันก็เป็นช่วงยุค 80-90 เป็นยุคสุดท้ายที่มีเทปเป็นรอยต่อพอดีเป็นเทปน่าจะเหมาะจะสังเกตได้ว่าในงานวันนี้จะมีความเป็นดนตรีเยอะมากเพราะชอบเหมือนกัน

หลังจากแต่งงานจะเข้าชมรมคนกลัวเมียไหม
พาที : ไม่เคยกลัวบีแต่เกรงใจ
บี : ตอบดี (หัวเราะ) เราก็เกรงใจเขาเหมือนกัน
พาที : คือมันเป็นการให้เกียรติซึ่งกันและกันมากกว่าในเรื่องความคิดถ้าเขาอยากทำอะไรเราก็ต้องสนับสนุนชีวิตคู่ไม่ใช่แค่ความรักอย่างเดียวเท่านั้น

มีคำสัญญาอะไรที่ให้ไว้ต่อกันไหม
พาที : ไม่อยากพูดอะไรมากผมว่าการกระทำสำคัญสุดพูดไปอาจไม่เชื่อเราให้การกระทำที่ทำมาทั้ง 7 ปีแล้ว พยามทะนุถนอมเขาแล้วเขาก็ทนผมได้ เพราะบางอย่างผมก็มั่นใจในตัวเอง ผมดูแลตัวเองมาตั้งแต่ 10 ขวบความเอาแต่ใจเห็นแก่ตัวมันมีแน่นอนก็ขอบคุณที่เขารับตรงนี้ได้ และปล่อยให้เราทำอะไรที่อยากทำ ''บี'' ไม่มีอะไรเสียในด้านนิสัยหรือในการใช้ชีวิต
บี : มันมีอะไรหลายอย่างเข้ามาในชีวิตมันเหมือนทำข้อสอบมีตกบ้างมีซ่อมบ้าง แต่ก็จะพยามทำให้มันผ่านไปให้ได้ ''บี'' เองก็มีความมั่นใจเป็นตัวของตัวเอง มีความเป็นโรคส่วนตัวสูงทั้งคู่ แต่ก็เข้ากันได้ เพราะมีความเกรงใจให้เกียรติกันมันจะ
เป็นอย่างนี้ตลอดไป
พาที : ขอสรุปตอนท้ายว่าชีวิตคนเราไม่มีอะไรเพอร์เฟกต์ผ่านอุปสรรคทุกวัน ''บี'' กับผมวันนี้คือวันเริ่มในการแต่งงานไม่ได้หมายความว่าเราจะไม่มีอุปสรรคในอนาคตตราบใดที่รักยังแข็งแรงเกรงใจให้เกียรติอภัยนี่แหละทำให้ชีวิตคู่เดินไปได้

ย้อนถามถึงสินสอดในพิธีหมั้น
พาที : ไม่เยอะ ไม่น้อย พอดีๆ ผมเห็นบางคนเอาเงินมากองกันเยอะๆ ถ้ามีเงินคือมีความสุขกับชีวิตก็จริง แต่ที่อยากบอกกับเขาก็คือที่ให้ตอนนี้ถึงมันจะไม่มากแต่การดูแลชีวิตเขาหลังจากนี้มีค่ามากกว่า ส่วนแหวนเพชรกี่กะรัตนั้นผมไม่รู้ว่ากี่กะรัตเพราะแม่ไปซื้อมาให้

อย่างไรก็ตามภายในงานวันนี้เจ้าบ่าวยังได้ทำเซอร์ไพรส์เจ้าสาวด้วยการร้องเพลงที่ได้เป็นผู้เรียบเรียงเนื้อร้องทำนองเองภายในงานครั้งนี้ด้วย โดยฝ่ายเจ้าบ่าวเผยว่าเพลงนี้ตนได้แต่งขึ้นในยามที่คิดถึงสาว ''บี'' นั่นเอง