กิมหยง - ตะลุงเว็บบอร์ด

ที่มา คมชัดลึกออนไลน์วันที่ 30-10-2555

ทลาย'แก๊งเงินดำ'ตุ๋น'ออสซี่'ลงทุน5ล้าน : ตะลุยข่าวโดยโต๊ะรายงานพิเศษ
               ความรู้เท่าไม่ถึงการณ์หรืออาจเป็นเพราะความโลภของช่างก่อสร้างชาวออสเตรเลีย หลังจากเดินทางมาท่องเที่ยวในประเทศไทย ถูก "แก๊งเงินดำ" สัญชาติไลบีเรียฉ้อโกงสูญเงินสดเกือบ 5 ล้านบาท จำเป็นต้องขอพึ่งชุดสืบสวนของสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองช่วยเหลือติดตามจับกุม

"โรเบิร์ต ร็อดนี คอนนอลลี" อายุ 38 ปี สัญชาติออสเตรเลีย เดินทางมาที่ กก.1 บก.สส.สตม. พบกับ พ.ต.ต.ธวัชชัยนรินรัตน์ สว.กก.1บก.สส.สตม. อ้างว่าญาติของเขาถูกกลุ่มคนผิวดำน่าจะเป็นสัญชาติไลบีเรีย จับตัวเรียกค่าไถ่ จึงให้ญาติโอนเงินมายังบัญชีของเขาที่เมืองไทย เพื่อนำไปใช้ไถ่ตัว
               คำบอกเล่าของนายโรเบิร์ต และท่าทางที่กระสับกระส่าย พ.ต.ต.ธวัชชัย จึงขอดูสมุดบัญชีเงินฝากของธนาคารสาขาดังกล่าว พบว่ามีการถอนเงินมากจนผิดสังเกต จึงประสานงานไปยัง ร.ต.ต.กิตติพันธ์เอี่ยมจรูญ รองสว.กก.1 บก.สส.สตม. ซึ่งมีข้อมูลการสืบสวนเกี่ยวกับกลุ่มคนผิวดำ ช่วยตรวจสอบเรื่องนี้ แล้วแจ้งข้อมูลกลับมาว่า ผู้เสียหายน่าจะปกปิดข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น เพราะความอับอายว่าถูกหลอกต้มตุ๋นหรือไม่
               พ.ต.ต.ธวัชชัย จึงสอบถามนายโรเบิร์ตอีกครั้ง จนกระทั่งยอมรับว่า ถูกชักชวนให้ทำธุรกิจโดยหานายทุนเพื่อซื้อเงินสดดอลลาร์สหรัฐอเมริกาที่พบในช่วงสงครามในประเทศไลบีเรียแล้วมีการลักลอบนำออกนอกประเทศ โดยใช้น้ำยาเคมีเคลือบไว้เพื่อป้องกันการตรวจสอบ โดยเสนอให้ร่วมลงทุน 5 ล้านบาทได้เงินสดเพิ่มขึ้นเป็น 10 ล้านบาท จึงตัดสินใจลงทุนเองโดยให้ญาติโอนเงินที่ได้จากการทำงานก่อสร้างและการขายบ้านในทวีปยุโรปแล้วทยอยเบิกให้แก่กลุ่มคนผิวดำ
               เหตุที่เกิดขึ้นกับผู้เสียหาย พล.ต.ต.รณศิลป์ภู่สาระ ผบก.สส.สตม. รายงานเหตุให้แก่ พล.ต.ท.ภาณุเกิดลาภผล ผบช.สตม.ทราบแล้วสั่งการให้ พ.ต.อ.ชาติชายเอี่ยมแสง, พ.ต.อ.อิทธิพลอิทธิสารรณชัย รอง ผบก.สส.สตม., พ.ต.อ.ชยวุฒิจันทร์สมบูรณ์ ผกก.1บก.สส.สตม., พ.ต.ท.กิจจาเกษมณี รองผกก.1บก.สส.สตม. พร้อมชุดสืบสวน กก.1 บก.สส.สตม. ร่วมกันหาข้อมูลคนร้ายแก๊งนี้
               ข้อมูลการสืบสวนของ ร.ต.ต.กิตติพันธ์ถูกนำมาใช้เป็นประโยชน์เพราะหลังจากที่นายโรเบิร์ต ดูรูปถ่ายของนายปีเตอร์แจ็กสัน อายุ 39 ปี สัญชาติไลบีเรีย ก็สามารถจดจำได้อย่างแม่นยำ สอบข้อมูลประวัติของนายปีเตอร์พบว่าเคยเดินทางเข้าประเทศไทยแล้วก่อเหตุทำนองดังกล่าวจนกระทั่งถูกจับติดคุกพอพ้นโทษก็เพิกถอนวีซ่าแล้วส่งตัวกลับประเทศ แต่นายปีเตอร์ไปเปลี่ยนชื่อนามสกุล ขอหนังสือเดินทางเล่มใหม่เข้าประเทศไทยอีกครั้ง
               การสืบสวนยังทราบข้อมูลจาก "ผู้ประกอบธุรกิจ" อพาร์ตเมนต์แจ้งเบาะแสพฤติกรรมของชาวไลบีเรียเข้ามาพักแล้วใช้เงินผิดปกติ ร.ต.ต.กิตติพันธ์ พร้อมชุดสืบสวนเดินทางไปตรวจสอบที่อพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่งภายในซอยเย็นอากาศ พบว่าบุคคลต้องสงสัยคือนายปีเตอร์ จึงตัดสินใจเข้าตรวจสอบที่ห้องพัก แต่นายปีเตอร์กลับพยายามทำร้ายร่างกายชุดสืบสวน จำเป็นต้องกอดรัดกันพักใหญ่จึงสามารถควบคุมตัวได้
               "การสอบสวนนายปีเตอร์ ให้การรับสารภาพว่าพร้อมกับพวกที่ถูกจับกุมหลังจากขยายผล ร่วมกันก่อเหตุตามที่ผู้เสียหายร้องเรียนมาจริง" พล.ต.ท.ภาณุกล่าว
               อย่างไรก็ตาม พล.ต.ต.รณศิลป์เตือนว่า แก๊งเงินดำมักจะหลอกผู้เสียหายซึ่งมีความโลภให้หลงเชื่อว่าสามารถผลิตธนบัตรดอลลาร์ได้จนมีหลายคนตกเป็นเหยื่อของแก๊งนี้ สำหรับอุปกรณ์ที่แก๊งเงินดำใช้ในการหลอกลวง ประกอบด้วย เครื่องสำหรับใช้ทำธนบัตร น้ำยาสีดำ แผ่นกระดาษขาวตัดเท่ากับธนบัตร แผ่นกระดาษตัดมีลายธนบัตร และธนบัตรของจริง โดยพฤติกรรมของแก๊งเงินดำครั้งแรก จะติดต่อเหยื่อเพื่อทำธุรกิจต่างๆ เมื่อเจรจาสำเร็จก็จะหลอกเหยื่อให้ไปหาที่ห้องพักในโรงแรมระดับ 5 ดาว เพื่อให้เหยื่อเห็นว่าเป็นคนมีฐานะน่าเชื่อถือได้ จากนั้นก็จะออกอุบายสาธิตการทำกระดาษสีขาวให้กลายเป็นธนบัตรจริงๆ
               "เมื่อเหยื่อหลงเชื่อ ก็จะมีการต่อรองราคาในการซื้อขายธนบัตร โดยหลอกว่าให้นำเงิน 100 ดอลลาร์ เพื่อซื้อธนบัตรราคา 300 ดอลลาร์ สุดท้ายแก๊งเงินดำจะนัดเหยื่อแล้วอ้างมีปัญหาน้ำยาหมด จะต้องนำเงินไปซื้อน้ำยาประมาณ 1,000-5,000 ดอลลาร์ จากนั้นก็จะหลอกต่อไปเรื่อยๆ จนเหยื่อรู้สึกว่าถูกหลอกก็จะรีบเดินทางหนีออกนอกประเทศ" พล.ต.ต.รณศิลป์ กล่าว
......