ข่าว:

ทดลองใช้งานบอร์ดตะลุง ที่อยู่ในขั้นตอนการกู้คืนข้อมูล เบื้องต้นมีแต่กระทู้ (ข้อความ) กำลังกู้รูปภาพ ไฟล์แนบต่าง ๆ คาดว่าจะทยอยสมบูรณ์ภายในไม่ช้า

Main Menu

ผู้ตรวจการแผ่นดินและคณะลงพื้นที่ตรวจสอบโกดังเก็บสารกัมมันตรังสีที่สงขลา

เริ่มโดย ทีมงานประชาสัมพันธ์, 15:19 น. 07 พ.ย 55

ทีมงานประชาสัมพันธ์

ผู้ตรวจการแผ่นดินและคณะลงพื้นที่ตรวจสอบโกดังเก็บสารกัมมันตรังสีกลางชุมชนวัดตีนเมรุ   เขตเทศบาลเมืองสงขลา หลังชาวบ้านร้องเรียน

         วันนี้(7พ.ย.55) เวลา 12.00 น. นายประวิช รัตนเพียร ผู้ตรวจการแผ่นดิน และนายกรรณภว์  ธนภรรคภวิน ที่ปรึกษาตรวจการแผ่นดิน พร้อมคณะลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีตัวแทนชาวบ้านในเขตเทศบาลเมืองสงขลา เรียกร้องและขอให้ผู้ตรวจการแผ่นดินตรวจสอบ รวมทั้งย้ายวัสดุกัมมันตรังสี   ที่บริษัทเอกชนแห่งหนึ่งครอบครอง ซึ่งตั้งอยู่ในโกดังใจกลางชุมชนวัดตีนเมรุ เทศบาลนครสงขลา อำเภอเมือง จังหวัดสงขลา


[attach=2]

         นายประวิช รัตนเพียร กล่าวว่า การลงพื้นที่ครั้งนี้ต้องการทราบข้อเท็จจริง เพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าวที่ได้รับการร้องเรียนว่า มีบริษัทเอกชนได้ครอบครองสารกัมมันตรังสีและเก็บไว้ในบริเวณกลางชุมชนของชาวบ้านมานานเกือบ 30 ปี โดยที่ไม่มีใครรู้มาก่อน เมื่อมีการสืบทราบจึงวิตกกังวลว่าจะมีผลกระทบต่อสุขภาพ โดยเฉพาะชาวบ้านชุมชนตีนเมรุและใกล้เคียง ทั้งที่ชาวบ้านกลุ่มดังกล่าวอยู่อาศัยกันมาเป็นระยะเวลายาวนาน และเป็นชุมชนที่เก่าแก่ เพราะความหวั่นวิตกชาวชุมชนจึงอยากให้บริษัทชี้แจงข้อเท็จจริง พร้อมทั้งเร่งย้ายโกดังเก็บสารกัมมันตรังสีออกจากชุมชนโดยเร็วที่สุด จึงได้มีการประชุมหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา สำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ(ปส.) ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์จังหวัดสงขลา สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดสงขลา สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสงขลา รวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอื่นๆ  ในการเร่งคลี่คลายปัญหาดังกล่าว ซึ่งผลการประชุมสรุปว่า การดำเนินงานของบริษัทเอกชนดังกล่าวเป็นไปตามมาตรฐานที่ ปส.กำหนดไว้ โดยมีการตรวจวัดสารกัมมันตรังสีตลอดระยะเวลาที่ที่ผ่านมาไม่เกินค่ามาตรฐาน ซึ่งทาง ปส.เองมีการควบคุมโดยการออกใบอนุญาตให้ทุกๆ 3 ปี แต่เพื่อความสบายใจของพี่น้องประชาชนในชุมชน ทางบริษัทเอกชนดังกล่าวยืนยันที่จะยอมย้ายโกดังเก็บสารกัมมันตรังสีออกจากชุมชนโดยเร็วที่สุด ซึ่งมีกำหนดในการแจ้งสถานที่ใหม่ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลาทราบภายในสิ้นเดือนพฤศจิกายนนี้ และจะเร่งย้ายออกจากพื้นที่เดิมภายในระยะเ วลาไม่เกิน 1 ปี ซึ่งในวันนี้ผู้ตรวจการแผ่นดินและคณะได้ลงพื้นที่ตรวจสอบโกดังเก็บสารกัมมันตรังสีกลางชุมชนวัดตีนเมรุ   เขตเทศบาลเมืองสงขลา ด้วยตนเอง ปรากฏว่าไม่เกินค่ามาตรฐานที่กำหนด

เกรียuหu้าคอม

แนะนำคุณ Rorie จ่ายหนักๆไปเลยคับ ทั้งคนในระแวกชุมชน และผู้ตรวจการแผ่นดิน

ผ่านมา

ไม่ทราบว่าข้อความของ คุณเกรียนหน้าคอม หมายความว่าอย่างไร ข้อความที่คุณโพสต์ออกมา ผมฟังแล้วเหมือนกับเป็นการดูถูก คนในระแวกชุมชน และผู้ตรวจการแผ่นดิน ว่า  ถ้าจ่ายหนัก ๆ ให้ก็จะทำให้เรื่องนี้เงียบ หรือจบลง หรือ ?

ผมอ่านแล้วมันไม่สมควรที่จะโพสต์เลย ไม่ทราบว่าคนอื่น ๆ อ่านแล้วรู้สึกอย่างไร 

แล้วคุณรู้หรือปล่าวครับว่า ผู้ตรวจการแผ่นดิน หมายถึงอะไร ถ้าไม่รู้ผมจะบอกให้ครับ

ผู้ตรวจการแผ่นดิน (เดิมเรียกว่า ผู้ตรวจการแผ่นดินของรัฐสภา) คือ บุคคลที่พระมหากษัตริย์ทรงแต่งตั้งตามคำแนะนำของวุฒิสภาจากผู้ซึ่งเป็นที่ยอมรับนับถือของประชาชน มีความรอบรู้และมีประสบการณ์ในการบริหารราชการแผ่นดิน วิสาหกิจ หรือกิจกรรมอันเป็นประโยชน์ร่วมกันของสาธารณะ และมีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์

ผู้ตรวจการแผ่นดิน มีจำนวนไม่น้อยกว่าสามคน โดยมีวาระการดำรงตำแหน่งหกปีนับแต่วันที่พระมหากษัตริย์ทรงแต่งตั้ง และดำรงตำแหน่งได้เพียงวาระเดียว

จะเกรียนอย่างไร ก็น่าจะดูกาละเทศะ และความเหมาะสมบ้าง

Probass

TUF ลุ้น break new high   UVAN @80 บาท --> 106.50 บาท

ราคาไม่แรง

เช่นกันครับ คุณเกรียน น่าจะถูกข้อหาหมิ่นประมาท หรือดูถูกเจ้าพนักงานขณะปฎิบัติหน้าที่ สักข้อหานะครับ จะได้เชือดไก่ให้ลิงดูนะ ชาวกิมหยงว่ายังไง ขอเสียงหน่อย................................

wpc

ขอเรียนตามตรงว่า ประเทศที่เจริญแล้วจะไม่ยอมให้มีแหล่งเก็บสารกัมมันภาพตรังสีอยู่ในเขตชุมชนหรอกครับ
ผิดพลาดมาตั้งแต่เริ่มต้นที่ยอมให้มีบริษัทเกี่ยวกับน้ำมันตั้งในเขตชุมชน
ควรย้ายออกไปนอกเขตนานแล้ว ข้ออ้างที่ว่าที่ดินและหายากฟังไม่ขึ้นครับ
พวกคุณได้ผลประโยชน์จากแหล่งน้ำมันในไทยไปเท่าไหร่แล้วครับ
คนสงขลามองเพียงแต่ว่ามีงานทำเงินเดือนเยอะจากบริษัทน้ำมันเหล่านั้น
ลืมมองถึงขยะพิษปนเปื้อนสารกัมมันตรังสี สารเคมีอื่นๆปนเปื้อนในทะเลไทยและในเขตเมืองสงขลา
พอน้ำมันหมดพวกเขาก็จากไป กอบโกยไปเท่าไหร่แล้ว.....
ลองมองกันไกลๆและรอบด้านครับ แล้วลูกหลานเราจะปลอดภัยกว่านี้

น้ำเน่า

คนไม่รู้...ก็ต้องหาความรู้ใส่ตัว กัมมันตรังสีควบคุมได้ เค้ามีขั้นตอนหลายๆขั้นตอน ทั้งในการรักษา การใช้งานและการเดินทาง...ไม่มีอันตรายหรอกคับ อย่าทำเป็นเจ๊กตื่นไฟ โลกเราไม่ใช่กะลามะพร้าว เปิดใจให้กว้าง.. ออกมาให้ได้คับ

น้ำไม่เน่า

ไม่ทราบคุณน้ำเน่า บ้านอยู่แถวไหนครับ ถ้าคุณน้ำเน่า อยู่ใกล้กับสถานที่เก็บกัมมันตรังสี คุณจะโพสต์ข้อความนี้มั้ยครับ

ก่อนที่จะว่าคนอื่น คุณรู้มั้ยครับ ว่า ระเบียบสถานที่จัดเก็บสารพวกนี้ ต้องไม่อยู่ในเขตชุมชน แต่นี่มีทั้งบ้านเรือนประชาชน โรงเรียน วัด โรงแรม

กัมมันตรังสีไม่มีอันตรายเหรอครับ เคยดูข่าวเกี่ยวกับการรั่วไหลของสารฯ หรือปล่าวครับ ถ้าอยู่ในเขตชุมชน แล้วเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น จะเป็นอย่างไรครับ

แล้วการปิดบังการจัดเก็บสารอันตรายอย่างนี้ มาเป็นสิบปี (บ่อเก่า) โดยไม่ให้ชุมชนทราบ ทำได้อย่างไรครับ แม้แต่เทศบาลฯ ยังไม่อนุมัติการจัดสร้างที่จัดเก็บสารฯ (บ่อใหม่) เพิ่มเติมเลย แล้วไม่ทราบว่าบริษัทจัดสร้างบ่อใหม่ขึ้น มาำได้อย่างไรครับ

คุณน้ำเน่าครับ คุณทำงานกับบริษัทนี้หรือปล่าวครับ แต่ที่แน่ ๆ ผมว่าคุณไม่ได้อยู่ใกล้สถานที่จัดเก็บแน่นอนครับ

น้ำไม่เน่า

ขอเพิ่มเติมครับ การจัดเก็บสารพวกนี้ และการเคลื่อนย้ายต้องทำอย่างรัดกุมอยู่แล้วครับ คงไม่ได้เอาใส่ถัง หรือขวดธรรมดา ไปไหนต่อไหนหรอกครับ 

แต่สถานที่จัดเก็บสารฯ พวกนี้ ควรหรือครับที่จะอยู่ในเขตชุมชน เพราะถ้าเกิดอุบัติเหตุ (สิ่งที่ไม่คาดว่าจะเกิด) อันตรายมันมีมากน๊ะครับ ค่อยวัวหายแล้วล้อมคอก เหมือนหลาย ๆ เหตุการณ์หรือครับ

ถ้าอยู่นอกเขตชุมชน คงไม่มีใครออกมาต่อต้านหรอกครับ

ทวงคืน ปตท.

อ้างจาก: wpc เมื่อ 21:32 น.  07 พ.ย 55
ขอเรียนตามตรงว่า ประเทศที่เจริญแล้วจะไม่ยอมให้มีแหล่งเก็บสารกัมมันภาพตรังสีอยู่ในเขตชุมชนหรอกครับ
ผิดพลาดมาตั้งแต่เริ่มต้นที่ยอมให้มีบริษัทเกี่ยวกับน้ำมันตั้งในเขตชุมชน
ควรย้ายออกไปนอกเขตนานแล้ว ข้ออ้างที่ว่าที่ดินและหายากฟังไม่ขึ้นครับ
พวกคุณได้ผลประโยชน์จากแหล่งน้ำมันในไทยไปเท่าไหร่แล้วครับ
คนสงขลามองเพียงแต่ว่ามีงานทำเงินเดือนเยอะจากบริษัทน้ำมันเหล่านั้น
ลืมมองถึงขยะพิษปนเปื้อนสารกัมมันตรังสี สารเคมีอื่นๆปนเปื้อนในทะเลไทยและในเขตเมืองสงขลา
พอน้ำมันหมดพวกเขาก็จากไป กอบโกยไปเท่าไหร่แล้ว.....
ลองมองกันไกลๆและรอบด้านครับ แล้วลูกหลานเราจะปลอดภัยกว่านี้

ไม่ใช่แต่พวกเขาหรอกที่โกยเงินออกไปนอกประเทศไอ้พวกถือหุ้น ปตท. ด้วยทำไมน้ำมันไปถึงแพงเพราะมันบอกว่ามันขาดทุนกำไร ไม่ใช่ขาดทุนจากต้นทุน มันตั้งกำไรไว้ปีนี้ 100 ล้านแต่ทำกำไรได้ 90 ล้านนี่ล่ะที่เรียกว่าขาดทุนจากกำไร กรรมเลยตกที่ครไทยต้องใช้น้ำมันแพง

น้ำเน่า

ทำเหมือนเจ๊กเตื่อนไฟไปได้.....อันตรายตรงไหน สงสัยตอนเด็กๆ ไม่เคยเล่นแม่เหล็ก...วิธีป้องกันก็เหมือนกัน เอามากั้นไว้มันก็หมดฤทธิ์....ไม่ต้องสงสัยตัวตัวผมหรอกคับ ผมคนมีความรู้...(หัดอ่านเยอะๆจำแค่นั้น) แล้วทางบริษัทเค้าคงไม่นำลังไม้มาเป็นหีบห่อบรรจุเหมือนหัวมัน หัวเผือกหรอกคับ....

น้ำไม่เน่า

อ้างจาก: น้ำเน่า เมื่อ 18:16 น.  08 พ.ย 55
ทำเหมือนเจ๊กเตื่อนไฟไปได้.....อันตรายตรงไหน สงสัยตอนเด็กๆ ไม่เคยเล่นแม่เหล็ก...วิธีป้องกันก็เหมือนกัน เอามากั้นไว้มันก็หมดฤทธิ์....ไม่ต้องสงสัยตัวตัวผมหรอกคับ ผมคนมีความรู้...(หัดอ่านเยอะๆจำแค่นั้น) แล้วทางบริษัทเค้าคงไม่นำลังไม้มาเป็นหีบห่อบรรจุเหมือนหัวมัน หัวเผือกหรอกคับ....

คุณน้ำเน่า คุณคิดได้แค่นี้หรือ  ว่า อันตรายตรงไหน กับ ให้หาความรู้ใส่ตัว 

ข้อแรก  อันตรายของสารฯ มีแน่นอน ไม่งั้น เค้าคงไม่หาวิธีป้องกันการรั่วไหลของมันหรอก แล้วคุณถามมาได้ว่าอันตรายตรงไหน คุณยกตัวอย่างแม่เหล็ก ว่าวิธีป้องกันก็เหมือนกัน แล้วแม่เหล็กมีการรั่วไหล หรือมีรังสีที่ทำอันตรายกับสิ่งมีชีวิตหรือไม่ครับ แล้วคุณใช้มือเปล่าจับแม่เหล็กได้มั้ย แล้วสารฯ หละคุณทำได้มั้ย

คุณบอกแต่ว่าให้อ่านเยอะ ๆ อ่านเยอะ ๆ อย่างเดียวไม่ได้หรอกครับ ต้องทำความเข้าใจกับมันด้วย แค่สิ่งที่ผมโพสต์ข้อความไปคุณยังทำความเข้าใจไม่ได้เลย ผมว่าการอ่านเยอะ ๆ และความรู้ที่คุณมีมันไม่ได้ช่วยอะไรคุณเลยครับ (กรุณาอ่านให้ถี่ถ้วน แล้วใช้ความรู้ที่คุณมี และการอ่านเยอะ ๆ ของคุณวิเคราะห์ เหตุผลที่ผมเห็นว่าการจัดเก็บสารฯ ของบริษัทนี้ ไม่เหมาะสมด้วยครับ

เพราะผมก็บอกแล้วว่า การจัดเก็บสารพวก และการขนส่งสารฯ พวกนี้ ก็ต้องมีการพยายามที่จะทำอย่างรัดกุม แน่นอน แต่ปัญหาที่มันจะเกิด หากมันยังอยู่ในที่บรรจุมันก็คงไม่มีหรอกครับ แต่ปัญหามันมีดังนี้ครับ

1. หากเกิดอุบัติเหตุ (เหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้น) ภัยธรรมชาติ การก่อการร้าย หรืออื่น ๆ อันจะทำให้เกิดการรั่วไหลของสารฯ ขึ้น  แล้วสถานที่ชุมชน ซึ่งแวดล้อมไปด้วยบ้านเรือนประชาชน สถานที่ราชการ โรงเรียน โรงแรม จะทำอย่างไร ใครจะรับประกันได้ว่ามันจะไม่เกิด แล้วใครจะรับผิดชอบ

แล้วอุบัติเหตุ กับสถานที่ ที่มีสารฯ เหล่านี้มันไม่เคยเกิดหรือครับ

2. ระเบียบการขออนุญาตจัดเก็บสารฯ นั้นมีอยู่ แล้วสิ่งที่บริษัทนี้ทำ และปกปิดไว้ ถูกต้องหรือไม่ 

ตัวอย่างการอนุญาตให้มีการจัดเก็บสารฯ

- ในขบวนการอนุญาตให้มีการจัดเก็บวัสดุกัมมันตรังสีของสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ มีขั้นตอนหนึ่งที่สำคัญ นั่นก็คือจะต้องให้มีการจัดทำรายงานการวิเคราะห์ความมั่นคง/ความปลอดภัยโครงสร้างอาคารเก็บสารรังสีและประเมินผลกระทบต่อสภาวะแวดล้อมต่อประชาชนข้างเคียง (Security Analysis Of Source Storage & Radiation Safety Evaluation Report For Oil Well/Coal Logging Tool) ซึ่งมีประเด็นที่จะต้องประเมินทั้งหมด 37 ข้อ เช่น ทำเลที่ตั้งของสถานที่ก่อสร้าง (Location) ต้องไม่อยู่ในเขตที่พักอาศัยของชุมชน จะต้องมีพื้นที่ (Site Area) ทั้งหมดกว้างขวางเพียงพอสำหรับรองรับการปฏิบัติงาน ทั้งในภาวะปกติและกรณีเกิดเหตุฉุกเฉินทางรังสี จะต้องมีพื้นที่โดยรอบ (Site Buffer Zone) กว้างขวางเพียงพอและไม่ติดกับที่อาศัยของบุคคลอื่นที่ไม่เกี่ยวข้อง

ซึ่งในแง่ของข้อเท็จจริงในพื้นที่ รอบรั้วของพื้นที่ดังกล่าวอยู่ในใจกลางชุมชนที่หนาแน่น ผนังกำแพงติดกับโรงแรม ถัดไปไม่กี่ร้อยเมตรมีโรงเรียนอนุบาล โรงเรียนมัธยมที่มีชื่อเสียงของจังหวัด เช่น โรงเรียนมหาวชิราวุธ โรงเรียนวรนารีเฉลิม ที่มีบุตรหลานของผู้คนในจังหวัดสงขลาและรอบนอกกว่าหมื่นคน ที่จะต้องใช้ชีวิตในบริเวณดังกล่าว
       
       อีกข้อกำหนดหนึ่งที่สำคัญที่สำนักงานปรมาณูเพื่อสันติได้กำหนดเอาไว้ในข้อ 12 ก็คือผนังของตัวอาคารจะต้องมีความหนาแน่นเพียงพอสำหรับลดค่าระดับรังสีให้อยู่ในเกณฑ์ปลอดภัยในขณะเก็บวัสดุมมันตรังสีได้ (Radiation Around Source Storage) ไม่ให้เกิน 25 µSv/hr ในข้อ 16 ระบุว่าอาคารที่เก็บรักษาวัสดุกัมมันตรังสีจะต้องมีอุปกรณ์ตรวจจับและเตือนภัยเพลิงไหม้ (Smoke/Detector/Fire Alarm) และในข้อ 21 ระบุให้โดยรอบอาคารจะต้องมีป้ายเตือนบริเวณ (Radiation Warning Sign)

คุณน้ำเน่าอ่านแล้วเป็นคิดอย่างไรครับ  กับข้อที่บอกว่า  ต้องไม่อยู่ในเขตที่พักอาศัยของชุมชน หรือ รอบอาคารต้องมีป้ายเตือนบริเวณ ซึ่งแค่สองข้อนี้ บริษัทก็ทำไม่ถูกต้องแล้ว ถ้าคุณอ่านแล้ววิเคราะห์เป็น ไม่ใช่อ่านแล้วอัดแต่ความรู้เข้าไปในสมอง แต่เวลานำมาใช้ไม่รู้จักวิเคราะห์ คุณคงไม่เข้าใจหรอกครับ


3. แล้วคุณรู้อย่างไรครับ ว่าคนที่มาเรียกร้องให้ย้ายสถานที่จัดเก็บฯ นี้ไปนอกชุมชน เป็นคนไม่มีความรู้ ไม่ได้อ่านเยอะ คนที่เรียกร้อง  มาจากหลายสาขาอาชีพ ทั้งครูบาอาจารย์ ทนาย พ่อค้าแม่ค้า นักเรียน นักศึกษา นักหนังสือพิมพ์ นักวิชาการจากสถาบันการศึกษาที่มีชื่อเสียง นักการเมือง ประชาชนทั่วไป ฯลฯ

บุคคลเหล่านี้ ไม่มีความรู้ หรือไม่เคยอ่านจากแหล่งความรู้ต่าง ๆ หรืออย่างไร คนอย่างคุณ มีความรู้ และอ่านเยอะกว่าคนเหล่านี้ทุกคนเลยหรือครับ (ถ้าคุณตอบว่าใช่ ผมอยากรู้จริงเลยว่าคุณทำงานอะไร จบจากที่ไหน ระดับไหน หาความรู้เยอะแยะมาจากแหล่งไหนบ้าง)

แล้วอย่างนี้แล้ว จะไม่ให้ผมสงสัยในตัวคุณได้อย่างไรครับ อ้อแล้วคุณรู้ได้อย่างไร ว่าบริษัทไม่ได้เอาลังไม้มาเป็นหีบห่อบรรจุ ผมว่า เวลาเคลื่อนย้าย ไปยังที่ต่าง ๆเค้าต้องตีไม้เป็นโครงหีบห่อภายนอกมาน๊ะครับ

เบลอมัวเลือน

ผมก็ไม่รู้จักพื้นที่มากพอนะครับ

แต่อยากตั้งขอสังเกตุ ที่จะเสริมหรือไม่เสริมว่า มีเจตนาที่ไม่ดีอย่างหนึ่งหรือไม่ คือ

1. สถานที่ที่จัดเก็บ มีเจตนาจะปิดบังไม่ให้ทราบว่ามีการจัดเก็บไหม
2. มีการติดป้ายประกาศไว้ไหม ว่าบริเวณใกล้เคียง มีระดับรังสีอยู่ในเกณท์ปลอดภัย

เห็นด้วยกับกระทู้ข้างต้นในแง่ การจัดเก็บรังสีอย่างถูกต้อง นั้นในประเทศที่คุ้นเคย และประชากรมีความรู้มากๆ เขาทำกันเป็นปกติ ไม่มีอะไรน่ากลัว และ ไม่ควรเป็น แจ็คตื่นไฟ แต่พฤติกรรมบางอย่าง ของฝ่ายที่มีความรู้ มีเจตนา จะปิดบังความเป็นจริง เพราะกลัวว่าประชากรที่ไม่เข้าใจ จะต่อต้าน แล้วใช้วิธี ปกปิด ปิดบัง มันเป็นสิ่งที่สมควรแล้วหรือ

เรื่องนี้ ผมว่า ทาง ปส (สำนักงานพลังงานปรมณูเพื่อสันติ) ก็แปลก ที่ปล่อยให้สถานที่แบบนั้นตั้งอยู่กลางชุมชน โดยไม่มีการประกาศให้ชุมชนรับ ทราบ หรือมีป้ายแจ้งระดับรังสี อยู่มาหลายปี แล้วมาบอกว่า ผ่านการตรวจสอบ


ส่วนบางกระทู้ข้างบน บอกว่าให้จ่ายเงินให้ชาวบ้านระแวกนั้น ผมว่า ก็เป็นสิ่งสมควร ในแง่การชดใช้ความเสียหาย (อาจไม่ใช่ร่างกาย) ไม่ใช่ในแง่ปิดปากให้เงียบ


ส่วนการประชุมยุติเพียง สัญญาว่าอีก 1 ปี จะย้ายออกไป ผมว่าไม่น่าจะเพียงพอ
แล้วในประเทศ นี้ จะมี แหล่งเก็บรังสี ที่ประชาชน ไม่ทราบอีกเท่าไหร่