ข่าว:

ทดลองใช้งานบอร์ดตะลุง ที่อยู่ในขั้นตอนการกู้คืนข้อมูล เบื้องต้นมีแต่กระทู้ (ข้อความ) กำลังกู้รูปภาพ ไฟล์แนบต่าง ๆ คาดว่าจะทยอยสมบูรณ์ภายในไม่ช้า

Main Menu

ถ้าการเมือง “สั่งตาย” “พีระ” นับแต่นี้ไป การเมืองสงขลาจะ “เลือดนอง”

เริ่มโดย ทีมงานบ้านเรา, 16:11 น. 09 พ.ย 55

ทีมงานบ้านเรา

โดย สมาคมหนังสือพิมพ์ภาคใต้แห่งประเทศไทย www.pastnews.org

การสังหารโหด "พีระ ตันติเศรณี" นายกเทศมนตรีนครสงขลา ถือเป็นคดีใหญ่ของจังหวัดสงขลา เพราะ ไม่บ่อยครั้งนักที่นักการเมืองระดับ "นายกเทศมนตรีนคร" จะถูกฆ่าอย่างโหดเหี้ยมกลางเมือง ชนิดที่กลุ่มมือปืนและผู้บงการปฏิบัติการอย่าง "เย้ย" กฎหมาย

[attach=1]

และที่สำคัญ "พีระ ตันติเศรณี" นายกเทศมนตรีนครสงขลา ไม่ใช่นักการเมืองอิทธิพล  ไม่ใช่นักเลง และไม่ใช่ "เจ้าพ่อ" ที่ไปไหนมาไหนต้องแวดล้อมด้วย "มือปืน" ทั้งหน้า ทั้งหลัง  รวมทั้งไม่ใช่นักการเมืองที่เป็น "ผู้รับเหมา" หรือ อื้อฉาวด้วยเรื่องของการหัก "หัวคิว" 20-30 เปอร์เซ็นต์

ภาพของ "พีระ ตันติเศรณี" คือ นักการเมืองในคราบของ "วิชาการ" และเป็นเหมือน "เอ็นจีโอ" กลายๆ ที่ให้น้ำหนักในเรื่องของ "กิจกรรม" ไปไหนมาไหนคนเดียว เหมาะที่จะเป็นประธานงานทอดผ้าป่า ทอดกฐิน หรือ งานบุญ งานวิชาการต่างๆ

แม้ว่าในระยะหลายเดือนที่ผ่านมา ลักษณะของ "พีระ ตันติเศรณี" จะเปลี่ยนไป แต่ไม่ได้เปลี่ยนไปเป็น "เจ้าพ่อ" ผู้มีอิทธิพล หรือ ผู้รับเหมา แต่เปลี่ยนไปเป็นเหมือนมีอาการ "เพี้ยนๆ" หรือกับ "คนไม่บาย" ตามสำนวนคนใต้ ซึ่ง "พีระ" เอง ก็เคยพูดกับใครต่อใครว่า "เขาว่าผมเพี้ยน" และ "บริบท" ของ "พีระ" จะปรากฎทาง "เฟซบุ๊ค" มากกว่าการสื่อสารแบบทางตรงกับผู้คน

และจากความ "เพี้ยน" ของ "พีระ" นี่เอง ที่ทำให้เกิดปัญหาความขัดแย้งจนถึงขั้น "วุ่นวาย" ในการบริหารเทศบาลนครสงขลาขึ้น โดยรองนายกเทศมนตรีทั้ง 4 ราย ที่เคยร่วมหัวจมท้ายกันมาร่วม 3 ปี ทยอยกันลาออกจนหมดเกลี้ยง รวมทั้งที่ปรึกษานายกฯ และ เลขานุการนายกฯ ก็ยื่นใบลาออกตามไปด้วย และแม้แต่ปลัดเทศบาล ซึ่งทำงานมายาวนานก็ขอยื่น "เออร์ลี่" เพราะ เบื่อกับความ "เพี้ยน" ของ "พีระ" รวมทั้งหมายถึงคนใกล้ชิดของ "พีระ" ที่เข้าไป "ก้าวก่าย" งานในเทศบาล

เรื่องของ "พีระ" ในเทศบาลยังเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง เช่น การสั่งปลด "ลูกจ้าง" กว่า 100 คน และการสั่งเปลี่ยนหน้าที่ และ พักราชการ ข้าราชการระดับสูงในเทศบาลนครสงขลารวม 12 คน จนเรื่องราวบานปลาย และมีการร้องเรียนจากข้าราชการประจำถึงผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลาต้องใช้ "อำนาจ" ในการออกคำสั่งให้ข้าราชการทั้งหมดกลับเข้าปฏิบัติหน้าที่ตามเดิม

และหาก "พีระ" ไม่ถูกเด็ดชีพในวันที่ 7 พ.ย.  55 ในวันที่ 8 พ.ย. 55 เวลา 08.30 น. ก็จะมีการแถลงข่าวกับสื่อมวลชนเรื่องที่ข้าราชการทั้งหมดไม่ได้รับความเป็นธรรม จะมีการฟ้อง "พีระ" และคนใกล้ชิด ตามขบวนการยุติธรรม แต่เมื่อ "พีระ" ลาโลกไปก่อน ขบวนการฟ้องร้องจึง "ยุติ" ลง

แต่เรื่องความขัดแย้งในเทศบาลนครสงขลาไม่ใช่ชนวนเหตุของการ "สั่งตาย" นายกฯ "พีระ" อย่างแน่นอน เพราะ ทั้งรองนายกฯ ทั้ง 4 คน ที่ลาออก ต่างยังมี "ไมตรี" กับ "พีระ" อยู่ และทุกคนต่างมี "วิถี" ทางการเมือง ที่ออกไป เพื่อเตรียมทำการเมืองแข่งกับ "พีระ" ในการเลือกตั้งในปี 2556 และเป้าหมายของ "รองนายกฯ" หลายคน คือ "เก้าอี้" นายกเทศมนตรีนครสงขลา ที่ "พีระ" นั่งอยู่

ส่วนข้าราชการประจำ และ ลูกจ้าง ที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม เชื่อว่า คงจะไม่มีใคร "ลงทุน" ว่าจ้าง "มือปืน" ระดับ "หลายแสน" หรือ เป็น "ล้าน" มาปลิดชีพของ "พีระ" อย่างแน่นอน เพราะ ผลที่จะเกิดขึ้นไม่คุ้มค่า

มีหลายคนตั้ง "โจทย์" เรื่องการขัดแย้งกับ บริษัท ชลัมเบอร์เจอร์ โอเวอร์ซีส์ เอส.เอ. ซึ่งเป็นบริษัทที่ตั้งอยู่ในเขตเทศบาลนครสงขลามากว่า 30 ปี โดยมีการเก็บสารกัมมันตรังสี เพื่อใช้ในอุตสาหกรรมขุดเจาะน้ำมันและก๊าซธรรมชาติในอ่าวไทย เป็นประเด็นที่เพิ่งมีปัญหา และอยู่ระหว่างการ "พูดคุย" เพื่อหาทางออก ซึ่งไม่น่าจะมีผลประโยชน์มากมายจนถึงจะต้อง "กำจัด" นายกฯ "พีระ" เพราะ ถึงแม้จะสิ้น "พีระ" ไป ก็ไม่ได้หมายความว่า ปัญหาจะ "ยุติ" เนื่องจาก "ประชาชน" ต่างหากที่เป็นตัวเคลื่อนไหวให้ บริษัทฯ ย้ายสารอันตรายออกจากเขตเทศบาล ส่วน "พีระ" เป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้น

การ "สั่งตาย" "พีระ ตันติเศรณี" จึงเหลือประเด็นสุดท้าย นั่นคือ ความขัดแย้งทางการเมืองระหว่าง "นักการเมือง" ด้วยกัน ที่อยู่ในเครือข่ายท้องถิ่น ทั้งในระดับเทศบาล และ อบจ. ซึ่งที่ผ่านมา "พีระ" เป็นนักการเมืองที่ประกาศตัวชัดเจนว่า จะสนับสนุนใคร และจะไม่สนับสนุนใคร ในสนามไหน และนอกจากจะใช้ "ปาก" อย่างมีเสรีภาพแล้ว "พีระ" ยังใช้การกระทำในช่องทางของ "กฎหมาย" จนเกิดการแจ้งความฟ้องร้องกันอีกหลายต่อหลายเรื่อง และหลายครั้ง โดยเฉพาะในปี 2555 ตั้งแต่ต้นปี จนถึงปัจจุบัน ซึ่ง "พีระ" ไม่รู้ด้วยซ้ำว่า ที่ผ่านๆมาตัวเองได้ทำอะไรให้ใครโกรธแค้นหรือไม่ ดังนั้น "พีระ" จึงไม่เคยระวังตัวว่า จะตกเป็น "เป้า" ของการ "สั่งตาย" ในครั้งนี้

โดยข้อเท็จจริง "พีระ ตันติเศรณี" ไม่ใช่นักการเมือง "โนเนม" แต่เป็นนักการเมืองที่มาจากตระกูลใหญ่ และมี "สาแหรก" มากคนหนึ่งใน จ.สงขลา และเป็น เครือญาติกับ "ประพร เอกอุรุ" สส.พรรคประชาธิปัตย์ เป็นเครือญาติกับ "สุรินทร์ วัตตธรรม" อัยการชื่อดังของ จ.สงขลา เป็นผู้อยู่ในกลุ่มการเมืองของ "นิพนธ์ บุญญามณี" สส.บัญชีรายชื่อของพรรคประชาธิปัตย์ เข้ามาเป็น รองนายกเทศมนตรีนครสงขลา ในครั้งที่ "อุทิศ ชูช่วย" เป็นนายกเทศมนตรีนครสงขลา แต่เพราะ วิถีการเมือง จึงต้องแข่งขันชิงตำแหน่งนายกเทศมนตรีนครสงขลา กับ "กิตติ ชูช่วย" น้องชายของ "อุทิศ ชูช่วย" และ "พีระ ตันติเศรณี" เป็นฝ่ายมีชัย เพราะ การสนับสนุนของกลุ่มการเมืองของ "นิพนธ์ บุญญามณี"

และนั่นอาจจะเป็นปฐมเหตุของความ "แตกแยก" ของกลุ่มนักการเมืองในชื่อ "มหาคอนเนคชั่น" ที่เกิดขึ้นในจังหวัดสงขลา และทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ จนมีการแยกตัวอย่างชัดเจนระหว่างกลุ่มของ "อุทิศ ชูช่วย" กับกลุ่มของ "นิพนธ์ บุญญามณี" และ "นิพนธ์ บุญญามณี" ก็ได้ประกาศตัวอย่างชัดเจนแล้วว่า ในการเลือกตั้ง นายก อบจ. ปี 2556 จะลงสมัครแข่งกับ "อุทิศ ชูช่วย" เพื่อชิงเก้าอี้ นายก อบจ.สงขลา

ดังนั้นหลายฝ่ายจึงเชื่อว่า ปมการ "สั่งตาย" "พีระ ตันติเศรณี" ครั้งนี้ มีน้ำหนักไปที่เรื่อง "การเมือง" มากกว่าเรื่องความขัดแย้งอื่นๆ และผู้ "บงการ" ฉวยจังหวะที่ "พีระ" เปิดศึกความขัดแย้งรอบด้าน ทั้งกับเพื่อนนักการเมืองในเทศบาลนครสงขลา กับข้าราชการประจำในเทศบาลนครสงขลา และ กับ บริษัท ชลัมเบอร์เจอร์ สั่งเก็บ "พีระ" เพื่อสร้างความ "ไขว้เขว" ให้กับเจ้าหน้าที่

การเสียชีวิตของ "พีระ" จะเป็นเรื่อง "การเมือง" หรือเรื่อง "ส่วนตัว" ที่เป็นเหรียญอีกด้านที่ "สังคม" มองไม่เห็นหรือไม่นั้น นับแต่นี้ไป ย่อมเป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่จะต้อง "สะสาง" ให้ชัดเจน เพื่อจับกุมผู้เป็น "มือปืน" และผู้ที่ "บงการ" มาลงโทษ รวมทั้งนำข้อเท็จจริงเรื่องการตายของ "พีระ" สู่สาธารณชน ซึ่งเชื่อว่า คดีนี้จะต้องเดินด้วยความรวดเร็ว เพราะ ความเป็นคนมี "สาแหรกใหญ่" ของ "พีระ" จะกดดันให้ "ตำรวจ" ต้องเร่งมือในการติดตามจับกุมคนร้าย และสาวไปสู่ผู้บงการ ซึ่งคนในจังหวัดสงขลาจะได้เห็นฝีมือของ "พล.ต.ท.พิสิฏฐ์ พิสุทธิศักดิ์" ผบช.ภ.9 ซึ่งย้ายมาจาก "นครบาล" ว่า จะมี "กึ๋น" ขนาดไหน

แต่สิ่งที่ต้องจับตามอง คือ ถ้า "โจทย์" แห่งการ "สั่งตาย" "พีระ ตันติเศรณี" มาจากเรื่อง "การเมือง" ตามที่ทุกฝ่ายวางน้ำหนัก นับแต่นี้ไป สนามการเมืองของจังหวัดสงขลาจะร้อนระอุ จนกว่าจะจบการเลือกตั้ง "อบจ." ในปลายปี 2556 เพราะ หลังจากนี้จะต้องมีการแย่งชิงตำแหน่ง "นายกเทศมนตรีนครสงขลา" แทนที่ของ "พีระ" และต่อจากนั้น คือ "สงคราม" ใหญ่ของการแข่งขันกันเป็น "นายก อบจ.สงขลา" ซึ่งมีการหาเสียงเดินเกมการเมืองมาตั้งแต่การเลือกตั้งสมาชิก อบจ. เมื่อ 2 เดือน ที่ผ่านมา

สรุปสั้นๆที่ชัดเจน และเป็น "สัจธรรม" คือ "การเมืองไม่มีมิตรแท้" เพราะ คนที่เคยเป็นมิตร คนที่เคยร่วมหัวจมท้ายมาด้วยกันของกลุ่มการเมืองจังหวัดสงขลา วันนี้แตกกันเป็นกลุ่มเป็นก๊ก และพร้อมที่จะหันกระบอกปืนเข้าหากัน เพื่อรักษา "ตำแหน่ง" "อำนาจ" และ "ผลประโยชน์" ของตนเอง

ไชยยงค์ มณีพิลึก
สนับสนุนการขับเคลื่อนโดย
- ฮอนด้าพิธานพาณิชย์-อริยะมอเตอร์ www.phithan.co.th/hondaphithan
- ปาล์มสปริงส์ & ซิตี้รีสอร์ท บ้านและคอนโดคุณภาพจากเครืองศุภาลัย www.hatyainakarin.com
- ธีระการช่าง หาดใหญ่ (เยื้องบิ๊กซีคลองแห) โทร 086-4910345 www.facebook.com/teerakarnchanghy
- เอนกการช่าง ผู้นำการพัฒนาเครื่องจักรกลเกษตร โทร 081-7382622 www.an-anek.com/contact.php
รีวิวธุรกิจ เกาะติดบ้านเมือง ร้อยเรื่องท้องถิ่น TLP 0897384215

puiey

ขอให้ตำรวจจับคนร้ายให้ได้นะครับ เกลียดจริง ๆ พวกฆ่าคนเป็นผักปลา
โกธรกับแฟน ขึ้นสเตตัส "โสด" ถ้าวันนึง แม่มึงโกธร มึงไม่ขึ้นสเตตัส "กำพร้า" เลยเหรอ

การเมืองถอยหลังไปอีก

อ้างจาก: puiey เมื่อ 19:58 น.  09 พ.ย 55
ขอให้ตำรวจจับคนร้ายให้ได้นะครับ เกลียดจริง ๆ พวกฆ่าคนเป็นผักปลา

ที่สำคัญการเมืองถอยหลังไปอีกแน่เลย

คนที่ตั้งใจที่จะมาทำงานการเมืองเข็ดขยาด

เลือกตั้งแพ้แล้วไม่ยอมแพ้  เอากันถึงชีวิต

แล้วถามเถอะว่า  คนดีๆที่ไหนจะมาเสี่ยงแบบนี้

ขอทีเถอะประชาชนมีส่วนอย่างมาก ถึงมากที่สุด

อย่าเลือกพวกที่มีอิทธิพลเข้าไปเลย  สร้างแต่ปัญหา

ถ้าประชาชนไม่เห็นแก่อามิสสินจ้างรับเงินที่เขาแจก

แล้วตั้งใจเลือกคนที่มีความตั้งใจดีจริงๆ  เหตุการณ์นี้ก็ไม่เกิด

นี่ต่างจ้องที่จะชิงตำแหน่งกันแบบไร้เหตุผล เอาเป็นเอาตาย

บ้านเมืองจึงไม่พัฒนาไปไหน  นอกจากแย่งชิงแบ่งปันกันเท่านั้น

Smith&Wesson .357 Magnum


เฝ้าดู

ตอนนี้ทำงานยากครับ คนบงการไปไหน. มือปืน ผู้ติดตาม ล้อมหน้า หลัง เป็นขบวน เหมือนนายกฯ. กลัวตายเหมือนกัน. ที่สั่งฆ่าคนอื่นไม่คิด นรกกินหัวมันครับ

ต้องตาย

ไอคนบงการยังลอยหน้าลอยตาไปงานนุ้นงานนี้อยุ่เลยเพราะคิดว่าตัวเองยังเป็นคนดีศรีสงขลา มันทำคนอื่นมาเยอะคงคิดว่าคดีนี้ก็รอดอีก ขอให้มันชิบหาย ลูกเมียอยุ่ไม่เป็นสุข ตายอย่างสัตว์เดียรัจฉาน