กิมหยง - ตะลุงเว็บบอร์ด

ข้อมูลจากเฟซบุ๊ค นักแผ่นดินไหว คอหงส์

จากเวที่เสวนาที่จุฬาเมื่อวานพบว่าสื่อต่างๆ และผู้ฟังส่วนใหญ่สนใจเรื่อง มายาคติ เรื่องแผ่นดินไหว ซึ่งหมายถึงสิ่งที่เข้าใจผิดๆ จนคิดว่าเป็นเรื่องที่ถูก จึงขอสรุปดังนี้

1. คิดว่ามาตราบอกขนาดแผ่นดินไหวมีเพียงมาตราริกเตอร์เพียงมาตราเดียว
2. หลังจากปี ค.ศ. 2000 แผ่นดินไหวเกิดเพิ่มมากขึ้นผิดปกติ
3. พฤติกรรมของสัตว์บางชนิดเช่น สุนัข แมว รู้ล่วงหน้าว่าจะเกิดแผ่นดินไหว
4. หากเกิดแผ่นดินไหวเล็ก บ่อยๆ จะดีเพราะจะทำให้แผ่นดินไหวใหญ่ไม่เกิดแม้แต่นักวิชาการบางกลุ่มยังเข้าใจผิด
5. แผ่นดินไหวทำนายได้ (นักวิชาการบางราย หมอดูบางคน ไม่เว้นกระทั่งพระบางรูป)
6. แผ่นดินไหวใหญ่เกิดตอนย่ำรุ่ง
7. แผ่นดินไหวเกิดเป็นฤดูกาล หน้าร้อน พื้นดินแห้ง หรือหน้าหนาว
8. หลังแผ่นดินไหวใหญ่คืออาฟเตอร์ช็อก
9. แผ่นดินไหวเกิดจากพลังงานจากพายุสุริยะ (รูปแบบไหนก็แล้วแต่)
10. การเกิดแผ่นดินไหวใหญ่ในทะเลแล้วทำให้เกิดสึนามิทุกครั้ง

สิ่งต่างๆเหล่านี้ คนส่วนใหญ่เข้าใจผิดกันมาตลอดคิดว่าเป็นเรื่องจริง ขอบคุณ ดร. บัญชา ธนบุญสมบัติ (สวทช) ที่แนะนำให้ผมพูดเรื่องนี้

ข้อมูลเพิ่มเติมจากนักแผ่นดินไหวคอหงส์
ติดตามเรื่องราวดีๆของท่านได้ที่ http://www.facebook.com/earthquakeseis

เฉลย มายาคติ เรื่องแผ่นดินไหว ซึ่งหมายถึงสิ่งที่เข้าใจผิดๆ จนคิดว่าเป็นเรื่องที่ถูก ดังนี้

1. คิดว่ามาตราบอกขนาดแผ่นดินไหวมีเพียงมาตราริคเตอร์เพียงมาตราเดียว
- ความจริงมาตราวัดขนาดแผ่นดินไหวมีไม่ต่ำกว่า 10 มาตรา

2. แผ่นดินไหวเกิดเพิ่มมากขึ้นผิดปกติ
- ไม่เป็นความจริงเพราะอัตราการเกิดแผ่นดินไหวใหญ่ใน 50 ปีที่ผ่านมาคงที่ แต่เนื่องจากปัจจุบันเรามีเครื่องมือวัดเพิ่มขึ้นทั่วโลกสามารถวัดขนาดต่ำได้มากขึ้น และสื่อก็รายงานรวดเร็ว คนเข้าถึงสือ่ได้มากจึงเข้าใจว่าแผ่นดินไหว ไหวถี่ขึ้น

3. พฤติกรรมของสัตว์บางชนิดเช่น สุนัข แมว รู้ล่วงหน้าว่าจะเกิดแผ่นดินไหว
-สัตว์บางชนิดอาจรู้สึกไหวต่อแรงสั่นสะเทือน
ของคลื่นบางความถี่มากกว่าคน ดังนั้นก่อนที่คนจะรู้สึกแรงสั่นจากคลื่นพื้นผิว สัตว์อาจรู้สึกได้จากคลื่นพี ซึ่งมาถึงก่อนแต่เป็นเรื่องที่เกิดหลังแผ่นดินไหวแล้ว อย่าง สุนัข แมว เขาจะไวต่อกลิ่น แต่คลื่นแผ่นดินไหวไม่มีกลิ่น

4. หากเกิดแผ่นดินไหวเล็ก บ่อยๆ จะดีเพราะจะทำให้แผ่นดินไหวใหญ่ไม่เกิดแม้แต่นักวิชาการบางกลุ่มยังเข้าใจผิด
-แผ่นดินไหวขนาด 6 จำนวน 1 ครั้งพลังงานเท่ากับแผ่นดินไหวขนาด 3 ประมาณ 32700 ครั้ง ประเทศไทยแผ่นดินไหวขนาด 3 ในแต่ละปี 30-40 ครั้ง ดังนั้นต้องใช้เวลา เป็นพันปี จึงจะเท่ากับแผ่นดินไหว 6 ครั้งเดียว ซึ่งแผ่นดินไหวขนาด 3 อาจเกิดในแขนงรอยเลื่อนเล็กที่ไม่สามารถสะสมพลังงานได้มาก ส่วนแผ่นดินไหวใหญ่เกิดในรอยเลื่อนหลักที่มีขนาดใหญ่ จึงเป็นเรื่องที่นำมาเทียบกันไม่ได้

5. แผ่นดินไหวทำนายได้ (นักวิชาการบางราย หมอดูบางคน ไม่เว้นกระทั่งพระ)
ในทางแผ่นดินไหววิทยา การทำนายถูกคือบอกได้ว่าจะไหว ที่ไหน เมื่อใด และขนาดเท่าใด ถ้าไม่ครบ 3 องค์ประกอบนี้ถือว่าทายไม่ถูก แต่คนที่เข้าใจผิดว่าทายถูกส่วนใหญ่เขาทายถูกเพียงอย่างเดียวคือจะเกิดแผ่นดินไหวใหญ่ แต่แผ่นดินไหวใหญ่ทั่วโลกเกิดปีละ 15-18 ครั้ง เฉลี่ยเดือนละครั้ง ดังนั้นใครทายว่าจะเกิด ก็ทายถูกกันทั้งนั้นแหละแต่ใช้ประโยชน์อะไรไม่ได้เลย

6. แผ่นดินไหวใหญ่เกิดตอนย่ำรุ่ง
- แผ่นดินไหวเกิดที่เกิดหัวรุ่งทำให้คนตายเยอะเพราะนอนอยู่ในที่พัก ทำให้มีข่าวต่อเนื่องมาก คนเลยเข้าในว่ามันไหวตอนย่ำรุ่ง ความจริงไหวตอนบ่าย และกลางคืนก็มาก

7. แผ่นดินไหวเกิดเป็นฤดูกาล หน้าร้อน พื้นดินแห้ง หรือหน้าหนาว
- แผ่นดินไหวไม่มีฟดูกาล ไหวทุกวันทุกนาที

8. หลังแผ่นดินไหวใหญ่คืออาฟเตอร์ช็อก
- ซึ่งความจริงอาจเป็นโฟร์ช็อกหรือดับเบิลช็อกก็ได้ (M7.3 -foreshock, M 9-mainshock และ M7.9-aftershocks) ที่ญี่ปุ่น) (ฟิลิปปินส์ M 7.4, 7.6, 7.3 - tripleshocks)

9. แผ่นดินไหวเกิดจากพลังงานจากพายุสุริยะ (รูปแบบไหนก็แล้วแต่)
-จากการตรวจสอบข้อมูลแผ่นดินไหวใหญ่พบว่าไม่มีความสัมพันธ์กัน
กับ solar activity

10. การเกิดแผ่นดินไหวใหญ่ในทะเลแล้วทำให้เกิดสึนามิทุกครั้ง
-สึนามิจะเกิดได้ต้องมีองค์ประกอบ 3 อย่างคือ
1 แผ่นดินไหวเกิดในทะเลหรือมหาสมุทรขนาดM≥7
2 ความลึก ไม่เกิน 50 กิโลเมตร
3.กลไกการเคลื่อนตัวใกล้แนวดิ่ง

คงจะให้ความกระจ่างได้นะครับ