กิมหยง - ตะลุงเว็บบอร์ด

-

อารมณ์พาไป  เมื่อผลออกมาเป็นแบบนี้ คือ คนไทยทะเลาะกันเอง มันน่าอดสู หดหู่ นะครับ

ผมไม่สะใจเลยที่เสื้อแดงต้องสูญเสีย เช่นกัน หากเสื้อเหลืองโดนทำร้ายผมก็รู้สึกไม่ต่างกัน

นี่แหล่ะ คือผลพวงของการสนับสนุนพรรค นักการเมือง ที่แต่ละคนชื่นชอบ แต่ละฝ่ายมักอ้างความบริสุทธิ์กันเองทั้งนั้น  การนำข้อมูลต่างๆมาอ้างอิง การแสดงออกของแกนนำแต่ละสี ล้วนสร้างความเกลียดชังฝ่ายตรงข้ามได้เสมอ

คุณจะใช้ชีวิตแบบไหนล่ะ คุณจะอยู่เหนือการเมือง หรือจะเอาสีเสื้อมาเป็นส่วนหนึ่งของการใช้ชีวิต  ผมลุกออกจากโต๊ะคอมฯ ก็ไม่คิดเรื่องการเมือง ไม่คิดเรื่องสีเสื้อให้รกสมอง  เท่านี้ก็สบายใจกว่ากันเยอะ

ที่สำคัญ อย่าไปมองสีเสื้อด้วยความเกลียดชัง  วิจารณ์ก็วิจารณ์ในขอบเขตก็พอ

เมื่อไหร่ที่คนในประเทศมีแต่เสื้อเหลือง และเสื้อแดง วันนั้นประเทศจะแบ่งเป็น 2 ประเทศ

แต่ตอนนี้ยังมีคนที่ไม่ใส่เสื้อ อยู่มากมาย จึงไม่มีปัญหา

แต่....

ถ้าเราไม่แก้ไขอะไรเลย คนที่ไม่ใส่เสื้อ อาจจะหนาว หรือร้อน จึงต้องหันมาใส่เสื้อ

เมื่อถึงเวลานั้น คุณก็ไม่สามารถช่วยกันแก้ไขอะไรไม่ได้อีกแล้ว

แมงสาปกำลังสูญพันธ์

เวียตนามเหนือ ใต้
เขมรแดง เขมรเฮงสัมริน
จีนแดง จีนไต้หวัน
ฆ่ากันเพื่ออุดมการณ์ของท่านผู้นำ
แล้วคนไทยที่ฆ่า ๆ ๆ กัน ทุกวันนี้ เพื่อใคร ฆ่าทำไม
เงินดี เงินของใคร ใช่ไหม ใครตายช่างมัน
ประชาธิปไตย คือเสียงข้างมากใช่ไหม
เรามีรัฐมนตรี ที่มาจากม๊อบ มาจากการปลุกระดม ให้เผาบ้านเผาเมือง เข้าไปลัก ขโมย ปล้น
ศูนย์การค้าไกลๆที่แม่ค้าเขา  ไม่รู้เรื่อง พลอยโดนเผาไปด้วย  นี่หรือน้ำหน้า นักการเมืองไทย
นี่หรือรัฐบาลที่เป็นที่พึ่งของประชาชน  นี่หรือคุณภาพของนักการเมืองไทยเลวได้ใจถึงขนาดนี้แล้วครับ

 - แล้วทำอย่างไรให้เหมื่อนเดิม หวังจากนักการเมืองหรือเป็นไปไม่ได้เพราะที่ผ่านมานักการเมืองเป็นต้นเหตุ (อย่าตอบว่าเลือกนักการเมืองดีเข้าสภาที่ผ่านมาเห็นแล้วเงียบ) หวังจากการปฏิวัตหรือเป็นไปไม่ได้เพราะไม่ง่ายเหมื่อนก่อน ปฎิวัตโดยทหารคนไม่ยอมรับ ปฏิวัต โดยประชาชนก็ยากขึ้นเพราะมี คนชนคน นี้แหละที่อัตราย เพราะนักการเมืองกำลังสร้างคนให้ชนกันเอง
- ผมเลิกไม่ไปลงคะแนนเลือกตั้งเพราะเบื้อนักการเมืองระดับชาติ (ทำไมไม่มีใครสำรวจเป็นทางการบ้างว่า เรื่องนักการเมืองประเทศไทย ทำไมคนถึงไปลงคะแนนเสียงน้อยลง )

ถูกต้องเลย!   พวกสีเสื้อทั้ง2 สี เนี่ยก็แค่ถูกปลุกปั่นโดยแกนนำ  ไอ้พวกข้อมูลที่เอามาแฉๆกันน่ะแล้วบอกที่มาอย่างโน้นอย่างนี้  มันข้อมูลจริงหรือข้อมูลเขียนขึ้นมาเองแล้วอ้างคนโน้นคนนี้ให้น่าเชื่อถือ  มาบอกว่าข้อมูลลับ   ลับมากกกกกกกกก     ลับมากจนหลุดมาทั้งกระบิเนี่ย  มันลับตรงไหนกัน

เค้าถึงได้บอกว่า  สติมาปัญญาเกิด   สติเตลิดจะเกิดปัญหา    ตอนนี้สติเตลิดกันจนมีสีเสื้อ   เมื่อไหร่จะมีปัญญาเกิดซะที

อ้างจาก: popi เมื่อ 12:10 น.  02 ธ.ค 55
ถูกต้องเลย!   พวกสีเสื้อทั้ง2 สี เนี่ยก็แค่ถูกปลุกปั่นโดยแกนนำ  ไอ้พวกข้อมูลที่เอามาแฉๆกันน่ะแล้วบอกที่มาอย่างโน้นอย่างนี้  มันข้อมูลจริงหรือข้อมูลเขียนขึ้นมาเองแล้วอ้างคนโน้นคนนี้ให้น่าเชื่อถือ  มาบอกว่าข้อมูลลับ   ลับมากกกกกกกกก     ลับมากจนหลุดมาทั้งกระบิเนี่ย  มันลับตรงไหนกัน

เค้าถึงได้บอกว่า  สติมาปัญญาเกิด   สติเตลิดจะเกิดปัญหา    ตอนนี้สติเตลิดกันจนมีสีเสื้อ   เมื่อไหร่จะมีปัญญาเกิดซะที

เมื่อก่อนประชาชนที่ออกมาประท้วง มีเพียงพวกใครพวกเค้า แบ่งแยกกันไม่ออก ว่าคนใหนพวกใคร

แล้วใครเป็นคนมาเริ่มในการแบ่งแยกสี  ว่าใครสีอะไร คนที่มาทำการแยกประชาชนให้เป็นสีอะไร

เป็นคนที่เลวระยำที่สุด ไม่เช่นนั้น ทุกวันนี้ หากมีการประท้วงโดยไม่แยกสี ก็จะแยกไม่ออกใครพวกใคร

เมื่ไม่มีการแบ่งแยกสี ก็สามารถยืนเปลี่ยนข้างได้ เพราะไม่มีสีมาแบ่งแยก

เรามองว่าความวุ่นวายที่เกิดขึ้นตอนนี้มันถูกวางแผนมา จุดประสงค์เพื่อใช้ฐานเสียงประชาชนที่ชื่นชอบและหลงไหลกับฝ่ายพวกเขาออกเพื่อเดินเกมเปลี่ยนแปลงอะไรหลายๆอย่าง ให้พวกเขาได้มีอำนาจและได้ผลประโยชน์แบบเต็มสูบ โดยไม่ต้องเกรงใจใคร และใครก็มาคัดค้านไม่ได้เพราะพวกเขาถือหมาก(ประชาชน)ฝ่ายเขาอยู่ พร้อมที่จะใช้หมากพวกนั้นออกมาต่อสู้เพื่อพวกเขา

ใครว่าเราคิดผิดบ้าง ? 

เราสังเกตุถึงขนาดว่า ปัจจุบันการบังคับใช้กฎหมายและวินัยประชาชนถอยหลังลงคลองไปเรื่อยๆ มันก็เป็นแผนที่ถูกวางไว้เหมือนกัน เพื่อทำลายโครงสร้างสังคมให้อ่อนแอ เพื่อที่จะได้เปลี่ยนแปลงอะไรหลายๆอย่างได้ง่ายในอนาคต 

ว่าด้วยเรื่องม๊อบ เราสังเกตุว่าไม่ว่าจะสีไหนมักจะมีอยู่ 2 กลุ่ม

- กลุ่มที่ 1 ขอเรียกว่า "กลุ่มปะฉะดะ" มาเพื่อลุย ฟัน แทง กระทืบ ต่อย ตี ยิง ขว้าง ตามแผนที่วางไว้

- กลุ่มที่ 2 ขอเรียกว่า "กลุ่มดราม่า" จะออกมาหลังจากกลุ่มที่ 1 ปฏิบัติการเสร็จ และมักพูดว่า "พวกเรามามือเปล่าปราศจากอาวุธ เราโดนใส่ร้าย" 

ประท้วงต้องมีสีด้วยเหรอ ตอนปีต.ค.16/19  หรือพ.ค.35 ไม่มีสี  แต่ว่านะคนที่เห็นมามากก็อ่านออกล่ะว่าถ้าปล่อยให้ประชาชนจับเป็นก้อนมาประท้วงมักชนะแต่ถ้ามี 2 กลุ่มประท้วงมาชนกัน  ถามว่าใครจะอยู่บนภูดูเสือกัดกัน  แค่นั่งรอเก็บผลประโยชน์จากซากความเสียหาย    ดูง่ายๆในอียิปต์ตอนนี้มีทั้งกลุ่มไม่สนับสนุน/สนับสนุนประธานาธิบดี     ขนาดมาจากการเลือกตั้งเมื่อไม่นานมานี้เพราะข้อกล่าวหาเรื่องความโปร่งใส

ที่น่าห่วงกว่าคือนโยบายประชานิยมนี่แหล่ะ  พอพรรคนึงใช้พรรคอื่นก็ต้องใช้ตามเพราะถ้าไม่ใช้คนก็ไม่เลือกซะอีก  เห็นแล้วอนาคตบ้านเราจะเหมือนกรีซ สเปน อิตาลี โปรตุเกส ที่กู้หนี้จากต่างประเทศเพื่อนโยบายประชานิยม   มันก็ไม่ต่างจากไปใช้บัตรเครดิตของคนธรรมดา  ใช้เงินจากอนาคตแล้วอนาคตมันไม่เคยแน่นอน     พวกนักการเมือง  พวกคนรวยประเทศล้มก็ไม่เป็นไรเพราะเอาเงินออกนอกประเทศไปแล้วก็ใช้ชีวิตในต่างแดนแบบสบายๆ   คนที่รับผลกันจริงๆคือคนที่เคยลั้นลากับนโยบายประชานิยมว่ามีคนเอาโน่นนี่มาให้   แต่จริงๆแล้วเป็นเงินของตัวเองที่ไปกู้มาพอถึงเวลาก็ต้องชดใช้  จะออกไปนอกประเทศก็ไม่ได้  ยิ่งรากหญ้ายิ่งเดือดร้อน  เพิ่มภาษี ตัดลดงบประมาณน่ะโดนอยู่แล้ว  ถ้าชินกับการให้คนอื่นช่วยไม่ชอบพึ่งตนเอง   พอเดือดร้อนกันจริงๆก็จบได้แต่ออกมาประท้วงเหมือนกรีซ  แต่ประท้วงไปก็เท่านั้นเพราะถ้าไม่รัดเข็มขัดก็ล้มกันหมด

ไอ้เชี่ยทักษิณโดนเจาะกะโหลกคนเดียวก็จบ

เรื่องร้าย ๆ ที่เกิดขึ้นมาจากไอ้ทักษิณตัวเดียว

แถมน้องสาวมันมาบริหาร ก็เลวไม่ต่างกัน

เบื่อเสื้อแดง-เสื้อเหลืองมากขึ้นทุกวัน เมื่อไหร่พวกเขาจะหยุดให้เขาจูงจมูกกันซะที

แต่ก่อนในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ไทยเป็นประเทศต้นๆก็ว่าได้ในเรื่องความเจริญก้าวหน้า เศรษฐกิจ และการเมือง ประเทศต่างๆ ต่างก็เกรงกลัวในศักยภาพของประเทศไทยกันทั้งนั้น ลองมาดูปัจจุบันนี้ซิครับ ประเทศเพื่อนบ้านของเราเขาพัฒนากันไปไกลแล้ว ส่วนพี่ไทยเรามัวแต่ทะเลาะกัน โกงกินกัน หาผลประโยชน์ให้เพื่อนฝูงพวกพ้องไม่มีเวลามาพัฒนาประเทศ  จนประเทศเริ่มตกต่ำลงเหวเข้าไปทุกทีแล้ว.......น่าสงสารจริงๆ

ต่างกันที่ความคิดแหละครับ 

อ้างจาก: keroroo เมื่อ 16:59 น.  22 ธ.ค 55
ต่างกันที่ความคิดแหละครับ

แม่น