ข่าว:

ทดลองใช้งานบอร์ดตะลุง ที่อยู่ในขั้นตอนการกู้คืนข้อมูล เบื้องต้นมีแต่กระทู้ (ข้อความ) กำลังกู้รูปภาพ ไฟล์แนบต่าง ๆ คาดว่าจะทยอยสมบูรณ์ภายในไม่ช้า

Main Menu

ปมร้อนอย่าทำเป็นเล่น

เริ่มโดย itplaza, 10:38 น. 05 ม.ค 56

itplaza



ทำท่าจะยื้อกันยาวกับกรณีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ

อย่างที่ "นายกฯปู" ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร บอกไว้ตั้งแต่ปลายปีก่อน เรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญมีความสำคัญ แต่ไม่ใช่ประเด็นเร่งด่วน รวมทั้งแนวทางการแก้ไขที่ยังไม่สะเด็ดน้ำ

หากเลือกการทำประชามติต้องใช้เวลา และอาจไม่ได้เห็นรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ในปี  2556

เพราะ ความเห็นที่แตกต่างยังไม่ตกผลึก นอกจากเรื่องการทำประชามติ ยังมีเสียงหนุนให้ลุยโหวตวาระ 3 ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 291 ไปเลย รวมทั้งข้อเสนอให้แก้ไขเป็นรายมาตราโดยไม่ต้องทำประชามติ

ทาง "3 แพร่ง" ที่ยังหาคำตอบสุดท้ายไม่เจอ และการสัมมนาพรรคเพื่อไทย วันที่ 6–7 ม.ค.นี้ ก็คงไม่จบแถมยังมีข้อเสนอที่เริ่มดังขึ้นทุกที ให้ติดเบรกชะลอเรื่องแก้รัฐธรรมนูญไว้ก่อน

แต่ที่แทรกคิวมาเลย คดีร้อน "ปราสาทพระวิหาร" ที่ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ หรือไอซีเจ กำหนดให้ทีมกฎหมายคู่ประเทศพิพาทคือ ไทยและกัมพูชา ไปแถลงด้วยวาจาและนำเสนอข้อมูลต่างๆกลางเดือน เม.ย.นี้ หลังจากนั้นอีก 6 เดือน ค่อยมาลุ้นระทึกกับผลคำพิพากษากันอีกที

ยังมีเวลาให้หายใจหาย คอ และคงไม่ "ร้อน" ขึ้นมาในทันทีทันใด ถ้าหาก "ด็อกเตอร์ปึ้ง" สุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.ต่างประเทศ ไม่มาตั้งโต๊ะแถลงแบบฟังแล้วน่าใจหายแทนคนไทยทั้งชาติ

ยอมรับว่าหนัก ใจในคดีนี้ แต่คิดว่ารัฐบาลทำดีที่สุดแล้ว เพราะองค์ประกอบในการสู้คดีใช้ทีมงานชุดเดิมตลอด เปลี่ยนแค่รัฐมนตรีต่างประเทศ มองตั้งแต่ตอนเข้ามารับตำแหน่ง คดีนี้ไทยมีแต่แพ้กับเสมอตัว คือ แพ้ก็เสียดินแดน ถ้าอยู่แบบเดิมก็เสมอตัว

เหมือนเอามือมาสะกิดคนไทยให้เตรียม "ทำใจ" ไว้ล่วงหน้ากันเลย

แม้ จะมากลับคำพูดในภายหลังว่ามั่นใจจะชนะคดี หลังโดนเสียงวิพากษ์วิจารณ์ถาโถมเข้าใส่ในเรื่องความอ่อนแอของรัฐมนตรีที่ รับผิดชอบในการสู้คดี

แต่เท่านี้ก็ทำเอาคนที่ได้ยินได้ฟังตกใจกับการท้อแล้วถอยของรัฐมนตรีไปตามๆกัน

อัน ที่จริงก็รู้กันดี ข้อพิพาทกรณีปราสาทพระวิหาร บริเวณพื้นที่ชายแดนไทยด้านจังหวัดศรีสะเกษ และชายแดนกัมพูชา ด้านจังหวัดพระวิหาร จุดเริ่มต้นเริ่มมาตั้งแต่สมัยรัฐบาลจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ ที่ศาลโลกตัดสินให้ตัวปราสาทพระวิหารตกเป็นของกัมพูชาในปี 2505 ท่ามกลางความไม่พอใจของฝ่ายไทย

และทำให้มีปัญหาต่อเนื่องมาจน ปัจจุบัน ในประเด็นของพื้นที่ทับซ้อนบริเวณรอบปราสาท 4.6 ตารางกิโลเมตร เนื่องจากทั้ง 2 ประเทศ ยึดถือแผนที่เพื่อปักปันเขตแดนกันคนละฉบับ

พัฒนาการ จนกลายเป็น "มหากาพย์ความขัดแย้ง" ระหว่างประเทศ ต่อเนื่องมาหลายรัฐบาล และร้อนแรงมากขึ้นถึงขั้นมีการ ชุมนุมประท้วงของประชาชนทั้ง 2 ฝ่าย การเคลื่อนกำลังทหารประชิดชายแดน และเกิดการปะทะกันในพื้นที่ชายแดนไทย-เขมรหลายรอบ บานปลายจนกัมพูชาส่งเรื่องไปยังศาลโลก

และไม่ว่าคำพิพากษาจะออกมา อย่างไร คงต้องรอกันอีกหลายเดือน แต่ ณ เวลานี้ กรณี "ปราสาทพระวิหาร" ได้กลายเป็น "ชนวนร้อน" อย่างที่รองนายกฯและ รมว.ต่างประเทศหวั่นเกรง

ทั้ง นี้ ที่รองนายกฯและ รมว.ต่างประเทศย้อนอดีตเท้าความถึงต้นเหตุที่ทำให้กัมพูชาไปฟ้องศาลโลก โดยโยนกลองไปที่รัฐบาลชุดที่แล้วนั้น คงไม่ช่วยแก้ไขปัญหาให้รัฐบาลหรือประเทศชาติแต่อย่างใด

เพราะแค่ วันนี้ก็เริ่มมองเห็นปัญหาหนักของรัฐบาลที่จะเกิดขึ้นในวันหน้าแล้ว โดยประเมินจากท่าที "คนเสื้อเหลือง" กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย มีมติเตรียมยื่นหนังสือถึงนายกฯยิ่งลักษณ์ ในวันที่ 8 ม.ค.นี้

รวมทั้งการประกาศเงื่อนไขเตรียม "ก่อม็อบ" ชุมนุมใหญ่

เรียก ร้องให้รัฐบาลประกาศไม่ยอมรับอำนาจศาลโลก ไม่ปฏิบัติตามมาตรการคุ้มครองชั่วคราว ไม่ต้องถอนทหารหรือ ตชด.จากชายแดนไทย เร่งผลักดันชุมชนกัมพูชาจากแผ่นดินไทย ให้ยืนยันว่าสหประชาชาติไม่มีอำนาจแทรกแซงเรื่องนี้ และไม่กลับเข้าไปเป็นภาคีอนุสัญญามรดกโลกอีก รวมทั้งเร่งช่วยเหลือ 2 คนไทยที่ถูกคุมขังในกัมพูชา

พันธมิตรฯขยับจ่อไฟจุดชนวนพร้อม รอบอมบ์รัฐบาล

เรื่อง นี้อาจมองได้ว่าเป็นเรื่องของฝ่ายต่อต้าน คือท่าทีของขั้วตรงข้ามที่เคลื่อนไหวในทางลบต่อรัฐบาลอยู่แล้ว เช่นเดียวกับฝ่ายค้านพรรคประชาธิปัตย์ ที่ออกมาวิพากษ์วิจารณ์กรณีนี้

แต่ ก็อย่าได้ประมาทไป โดยเฉพาะหากคำพิพากษาของศาลโลกออกมาทางลบ ประเทศไทยต้อง "ตกผาพระวิหาร" เสียดินแดนบนพื้นที่ 4.6 ตารางกิโลเมตร นั่นแหละเปรียบเสมือนชนวนระเบิดลูกใหญ่ถูกจุดขึ้น

ฉะนั้น รัฐบาลจะมองข้าม ไม่ใส่ใจกับเรื่องละเอียดอ่อนในกรณีนี้คงไม่ได้

เพราะเรื่องชาติ เรื่องอธิปไตย อย่าทำเป็นเล่นไป.



ทีมข่าวการเมือง   ไทยรัฐออนไลน์
ที่มา  http://www.itplaza.co.th/update_details.php?type_id=1&news_id=23846&page=1