ข่าว:

ทดลองใช้งานบอร์ดตะลุง ที่อยู่ในขั้นตอนการกู้คืนข้อมูล เบื้องต้นมีแต่กระทู้ (ข้อความ) กำลังกู้รูปภาพ ไฟล์แนบต่าง ๆ คาดว่าจะทยอยสมบูรณ์ภายในไม่ช้า

Main Menu

คิดอย่างไร สพฐ. ลดการบ้านนักเรียน

เริ่มโดย เด็กไทย 2013, 23:05 น. 07 ก.พ 56

เด็กไทย 2013

เด็กๆเฮ! สพฐ.สั่งครูลดการบ้าน

วันอังคารที่ 29 มกราคม 2556 เวลา 21:35 น.








ไม่สามารถให้การบ้านเด็กตามใจชอบอีกต่อไป ถ้าให้จนเกิดความทุกข์ทรมานของลูกศิษย์ สามารถร้องเรียนได้ที่สพฐ.


เมื่อวันที่ 29 ม.ค. นายชินภัทร ภูมิรัตน เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) เปิดเผยภายหลังการประชุมผู้บริหารสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ว่าที่ประชุมได้หารือเรื่องการปฏิรูปหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ.2544 ฉบับปรับปรุง พ.ศ.2551 ตามนโยบายของนายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รมว.ศึกษาธิการ โดยจะมีการดำเนินการใน 2 ระยะ ได้แก่ 1.ระยะเร่งด่วน ซึ่งจะดำเนินการให้ทันเปิดภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2556 โดยในระยะนี้ สพฐ.จะเน้นบูรณาการทั้งเนื้อหา เวลาเรียน การวัดและประเมินผล ตลอดจนการบ้านที่ต้องมีการบูรณาการทุกกลุ่มสาระวิชา และจะต้องลดภาระงานของนักเรียนด้วย เพราะที่ผ่านมาพบว่าเด็กไทยต้องทำการบ้านเยอะมาก ทำให้เด็กเกิดความเครียด ทั้งนี้ที่ประชุมได้มอบให้สำนักวิชาการและมาตรฐานการศึกษา สพฐ. ไปจัดทำคู่มือการบูรณาการหลักสูตรการเรียนการสอนแบบครบวงจรให้แล้วเสร็จภายในเดือน เม.ย.56 จากนั้นจะจัดอบรมเชิงปฏิบัติการให้กับเขตพื้นที่การศึกษา และครู เพื่อให้มีความพร้อมก่อนเปิดภาคเรียน


"ตั้งแต่ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2556 เป็นต้นไป เด็กไทยทุกคนในทุกระดับชั้นจะมีภาระการเรียนในห้องเรียนลดน้อยลง และจะมีโอกาสเรียนรู้ รวมถึงทำกิจกรรมนอกห้องเรียนมากขึ้น ส่วนการบ้าน และโครงงานที่ครูมอบให้จะมีการบูรณาการในทุกกลุ่มสาระวิชา ขณะที่การวัดและประเมินผลก็จะสอบเท่าที่จำเป็น และเหมาะกับช่วงวัยเท่านั้น ดังนั้นตั้งแต่เดือน พ.ค.นี้ งานทุกอย่างของเด็กจะลดลงทั้งหมด และจะไม่ใช่วิธีการที่ครูจะมีอำนาจเหนือนักเรียน โดยครูจะไม่สามารถให้การบ้านเด็กได้ตามใจชอบอีกต่อไป ถ้าครูให้การบ้านเด็กจนเกินความทุกข์ทรมานของเด็กก็สามารถร้องเรียนมาได้ที่ สพฐ. เพื่อให้เกิดการปรับปรุงต่อไป" นายชินภัทร กล่าว
 

เลขาธิการ กพฐ. กล่าวต่อไปว่า ส่วนระยะที่ 2 ระยะถัดไป สพฐ. จะจัดประชุมเชิงปฏิบัติการในวันที่ 6-8 ก.พ.นี้ เพื่อพิจารณาทบทวนมาตรฐาน และตัวชี้วัดของหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน เพื่อให้ผู้ที่เกี่ยวข้องได้วิพากษ์วิจารณ์ว่ามีมาตรฐานการเรียนรู้ และตัวชี้วัดใดบ้างที่มีมากเกินความจำเป็น เพื่อที่จะได้ตัดทอน และปรับปรุงต่อไป นอกจากนี้จะมีการนำเสนอข้อมูลเชิงเปรียบเทียบในเรื่องเนื้อหา และเวลาเรียนของประเทศไทยกับประเทศอื่นๆ ด้วย อย่างไรก็ตามกรณีที่มีนักวิชาการวิพากษ์วิจารณ์ว่าเนื้อหาในหลักสูตรการเรียนการสอนมีความซ้ำซ้อน 30% นั้น ตนมองว่าเป็นเพียงแค่ความรู้สึก ซึ่งในการประชุมครั้งนี้จะหยิบยกประเด็นดังกล่าวมาหารือด้วย โดยให้ทุกฝ่ายได้นำข้อมูลมาตีแผ่ และวิพากษ์วิจารณ์กันด้วยว่ามีความซ้ำซ้อนจริงหรือไม่ และจะช่วยลดความซ้ำซ้อนได้มากน้อยเพียงใด ซึ่งหากซ้ำซ้อนจริงตนก็ตั้งเป้าว่าจะลดความซ้ำซ้อนให้มากที่สุด

เด็กไทย 2013

ครู นักเรียน และการลงโทษ



ถาม ครูตีนักเรียนผิดกฎหมายหรือไม่ ?

ตอบ ครูหรืออาจารย์ในสถาบันการศึกษามีความเข้าใจคลาดเคลื่อนมานานว่า ครูมีสิทธิ์ตีนักเรียนเมื่อต้องการลงโทษเด็ก และยังมีระเบียบของกระทรวงศึกษาธิการกำหนดให้ครูตีนักเรียนได้ในหัวข้อการลงโทษนักเรียน เมื่อพิจารณาตามหลักกฎหมายและรัฐธรรมนูญไทยรับรองสิทธิเสรีภาพในร่างกายของบุคคลไม่ว่าจะเป็นชาย หญิง หรือเด็ก อีกทั้งยังมีกฎหมายอาญากำหนดบทลงโทษการทำร้ายร่างกายบุคคลไว้ ส่วนกฎหมายแพ่งให้เรียกค่าเสียหายเมื่อถูกทำละเมิดร่างกายได้ ขณะที่กฎระเบียบของกระทรวงฯยังไม่ปรับเปลี่ยนให้เข้ากับรัฐธรรมนูญหรือกฎหมายต่างๆทำให้เกิดความเข้าใจคลาดเคลื่อนว่า ครูมีสิทธิ์ตีทำร้ายเด็กได้ด้วยข้ออ้างว่า เพื่อสั่งสอน ขณะที่ชาวโลกได้เปลี่ยนระบบลงโทษเด็กไปจากการตีให้บาดเจ็บหรือเข็ดหลาบสู่ระบบตัดคะแนนหรือวิธีที่ไม่กระทบต่อสิทธิเสรีภาพทางร่างกายของเด็กแล้ว ครูหรืออาจารย์สัญชาติไทยยังติดอยู่กับระบบส่งเสริมการตอบโต้ด้วยความรุนแรงอยู่ ดังนั้น ณ ยุคไซเบอร์นี้ การตีนักเรียนด้วยวัตถุใดหรือด้วยมือให้เด็กบาดเจ็บไม่ว่าจะรุนแรงหรือน้อยเพียงใด ล้วนถือเป็นความผิดกฎหมายอาญาและขัดต่อรัฐธรรมนูญที่คุ้มครองสิทธิทางร่างกายมิให้ผู้ใดทำละเมิดได้



ถาม นักเรียนมีสิทธิ์ฟ้องคดีเอาผิดกับครูที่ตีเขาได้หรือไม่ ?

ตอบ เมื่อไม่มีกฎหมายให้อำนาจครูตีเด็กโดยหวายหรือไม้เรียวหรือเข็มขัดหนังหรือท่อนเหล็กหรือจับหัวโขกกระดาน ผู้ปกครองของนักเรียนมีอำนาจแจ้งความดำเนินคดีฐานทำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นคดีอาญาได้ ส่วนโทษของครูนั้นขึ้นอยู่กับวิธีทำร้ายว่าทารุณเพียงใด ลักษณะบาดแผล ผลกระทบต่อร่างกายและจิตใจของผู้เสียหาย ศาลจะใช้ประกอบกับดุลพินิจลงโทษผู้กระทำความผิด นอกจากนั้น ผู้ปกครองยังมีสิทธิ์ฟ้องเรียกค่าเสียหายจากครูและโรงเรียนที่เป็นนายจ้างของครู



ถาม ทำอย่างไรให้ครูใช้วิธีอื่นลงโทษ นอกจากการตีเด็ก ?

ตอบ การปรับเปลี่ยนทัศนคติและความเชื่อของครูกับนักเรียนให้เข้ากับกฎหมายในปัจจุบันที่คุ้มครองผู้ใหญ่และเด็กอย่างเท่าเทียมกัน อีกทั้งการตีเป็นการส่งเสริมให้เด็กนิยมความรุนแรงโดยตรงและเป็นการแสดงอำนาจระหว่างผู้ใหญ่กับเด็ก มิใช่การใช้เหตุผลพูดคุยกัน กฎเรื่องการลงโทษของกระทรวงศึกษาธิการควรยกเลิกการโบยตีด้วยหวายหรือไม้บรรทัดได้แล้วเพราะขัดต่อกฎหมาย ทำให้ครูหลายคนต้องโทษคดีอาญาเพราะความหลงผิดว่ามีสิทธิทำได้ ทั้งที่การตีกระทำต่อร่างกายของเด็กจัดเป็นการทำร้ายร่างกายอันผิดต่อกฎหมายอาญาและมีโทษจำคุกด้วย หากกระทรวงฯต้องการให้การตีเด็กทำได้โดยชอบ ก็ควรแก้ไขกฎหมายให้คุ้มครองครูเพื่อจะไม่ต้องรับโทษอาญาเหมือนที่กฎหมายของหมอคุ้มครองการฉีดยา การผ่าตัด คนไข้ซึ่งกระทำเพื่อการรักษาอาการป่วยเจ็บ มิใช่การทำร้ายร่างกาย


ถาม การลงโทษด้วยการตียังมีใช้ในสังคมโลกอยู่หรือไม่ ?

ตอบ ประเทศที่ไม่คุ้มครองสิทธิในร่างกายของคนก็ยังมีใช้กันอยู่บ้าง ณ ปัจจุบันนี้กฎหมายสูงสุดของหลายประเทศจะให้ความคุ้มครองสิทธิในร่างกายของประชาชนอย่างเท่าเทียมกัน ทำให้หลายประเทศที่เจริญทางจิตวิญญาณเปลี่ยนแปลงวิธีลงโทษจากการตีทำร้ายร่างกายเด็กไปสู่วิธีอื่นที่เหมาะสมและช่วยลดความรุนแรงทางสังคมลง อาทิเช่น การตัดคะแนนความประพฤติ การตักเตือนเด็กด้วยวาจาหรือหนังสือ การยืนนอกห้อง การเขียนรายงานหรือคัดลายมือ การรายงานต่อผู้ปกครอง เป็นต้น ญี่ปุ่น จีน สหรัฐ อังกฤษ และชาติยุโรปอื่น ไม่มีการตีเด็กด้วยไม้เรียวหรือท่อนไม้หรือไม้บรรทัดเหล็กกันมานานแล้ว แต่ไทยยังใช้ระบบลงโทษด้วยการตีอยู่ในโรงเรียนของรัฐหรือของเอกชนบางแห่ง มันบ่งบอกชัดว่า โรงเรียนไทยยังไม่พัฒนาตัวเองให้เข้ากับระบบกฎหมายเยี่ยงอารยประเทศอื่น เด็กไทยยังถูกกดขี่ ข่มขู่ และกระทำอย่างไม่เป็นธรรมอยู่ในโรงเรียนไทยอยู่ สิ่งที่ได้รับหลังจากเด็กถูกทำทารุณหนัก คือ สภาพจิตใจที่แย่และทัศนคติเลวร้ายต่อผู้อื่น อันอาจส่งผลให้เปลี่ยนตัวเองไปสร้างปัญหาให้สังคมภายหลังก็ได้ หากเจอผู้ใหญ่ที่มีอำนาจช่วยปกป้องคนผิดหรือสถาบันแล้วมุ่งทำลายล้างเด็กให้ย่อยยับเพื่อแก้แค้นที่เปิดเผยความเลวร้ายนี้ มันจักกลายเป็นแผลเป็นในหัวใจของเด็กต่อระบบการศึกษาของคนไทยวันนี้

เด็กไทย 2013

นักวิชาการชี้ เนื้อหาแท็บเล็ตไม่เหมาะกับเด็ก ป.1
นักวิชาการชี้ เด็กอายุ 6-8 ปี ควรได้เรียนรู้ได้สัมผัสของจริง การเรียนรู้ผ่านแท็บเล็ตจะทำให้พัฒนาการของเด็กแย่ลง มีปัญหาสายตาและสุขภาพ ด้านอาจารย์ผู้นำมาทดลองใช้ เผย เหมาะจะใช้กับเด็กมัธยมปลายมากกว่า



          เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ ดร.วรกร คำสิงห์นอก ผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ได้กล่าวถึงการแจกแท็บเล็ตว่า การแจกแท็บเล็ต 9 แสนเครื่องเป็นนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการยกระดับการเรียนรู้ของเด็กไทยเพิ่มจากตำราเรียน เป็นการเตรียมความพร้อมให้กับเด็กและเยาวชนไทยให้ก้าวสู่ประชาอาเซียน 2558



          โดย ดร.ครรชิต มาลัยวงศ์ ราชบัณฑิต นายกสมาคมครูเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย ก็ได้เสนอความคิดต่อเรื่องนี้ว่า อยากขอให้กระทรวงศึกษาธิการเป็นเจ้าภาพและสถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ดูแลเนื้อหา การจัดซื้อ งบประมาณในการจัดซื้อแท็บเล็ต รวมทั้งการเตรียมความพร้อมให้ครูและสร้างเครือข่ายแท็บเล็ตให้มีผู้เชี่ยวชาญต่างประเทศมาอบรมและรัฐควรร่วมทุนกับต่างประเทศผลิตเอง ขณะที่นายวีรชน ผู้จัดการฝ่ายวิจัยจากบริษัท โคกิริ เองก็เล่าให้ฟังว่า ทางประเทศเกาหลีเองเคยนำแท็บเล็ตมาทดลองใช้ในกลุ่มนักศึกษาระดับอุดมศึกษา ผลปรากฏว่า นักศึกษาเอาแต่สนใจเล่นเกม แท็บเล็ตจึงไม่เหมาะนำมาใช้เพื่อการศึกษา



          ด้านรองศาสตราจารย์แพทย์หญิงนิตยา คชภักดี กุมารแพทย์ คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล ก็คัดค้านการนำแท็บเล็ตมาใช้เนื่องจาก เด็กในวัย 6-8 ขวบ ควรต้องเรียนรู้จากของจริง การสัมผัสจอแท็บเล็ตตลอดเวลาจะทำให้เด็กสายตาสั้น สมองผิดปกติ มีแนวโน้มจะเป็นโรคอ้วนและเตี้ยจากการนั่งนานติดต่อกัน และจะเริ่มมีปัญหากับการสื่อสารกับพ่อแม่ รวมทั้งเด็กอาจจะโหลดภาพหรือเกมที่ไม่เหมาะสมมาเล่น



          ส่วนอาจารย์วราภรณ์ ภาตั้งใจจริง รองผู้อำนวยการราชวินิตประถม ก็กล่าวเช่นกันว่า ได้รับแจกแท็บเล็ตมาทดลองใช้กับนักเรียนชั้น ป.1 ใน 1 วัน จะใช้สอน 1 ชั่วโมง โดยใช้สอนในวิชาภาษาไทย อังกฤษ สังคม คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ อีกทั้งยังมีอาจารย์จากมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ มาทำวิจัยร่วมกับหมอวัดสายตา ซึ่งจากการคลุกคลีกับเด็กพบว่า เนื้อหาที่เปิดให้โหลดไม่เหมาะกับพัฒนาการของเด็ก แต่เหมาะกับกลุ่มเด็กมัธยมปลายมากกว่าและอยากให้สังคมรับรู้ข้อมูลความจริงเรื่องนี้ด้วย

ขุนศึก

ห้ามอบรมสังสอนศิษย์ด้วยการตี-เอาใจเด็กด้วยการอนุญาตให้ไว้ผมยาวได้-จนมาล่าสุด ห้ามครูให้การบ้านเด็กเยอะเกินไป

หลายๆเรื่องมีที่มาการอ้างอิงกับต่างประเทศ โดยอ้างว่าต้องปรับให้ทันสากลสมัย แต่หาได้ดูขนบธรรมเนียมและวัฒนธรรมของตนแม้แต่น้อย ว่าคนไทยเลี้ยงลูกยังกับเทวดา ซึ่งแตกต่างจากประเทศที่เราไปอ้างอิงมากๆที่สอนให้เด็กช่วยเหลือตัวเองและปลูกฝังเรื่องความรับผิดชอบกันมาตั้งแต่เด็กๆ การไปหยิบจับส่วนใดส่วนนึงของเค้ามาใช้แบบนี้นอกจากไม่ส่งผลดีแล้วมันจะส่งผลเสียกลับมาที่เราด้วย

สุดท้ายแล้วก็คงเลี่ยงไม่ได้ที่ผลกรรมจะไปตกกับประเทศ ถ้าเมื่อเด็กในวันนี้คือผู้ใหญ่ในวันหน้า แล้วผู้ใหญ่ในวันหน้าจะเป็นคนที่มีความรู้ ความรับผิดชอบ รู้ผิดรู้ถูก ได้อย่างไร

ยกตัวอย่างง่ายๆ อย่างเมืองนอกการคอรัปชั่นมีความผิดเท่าฆ่าคนตาย ยิ่งเป็นการคอรัปชั่นนั้นมาจากเจ้าหน้าที่รัฐโทษแทบไม่ต่างอะไรกับฆาตกรต่อเนื่อง แต่สำหรับคนไทยทำโพลสำรจแล้วพบว่า คนไทยส่วนใหญ่รับได้ถ้ารัฐบาลทุจริตคอรัปชั่น แต่ขอให้ตนเองได้ประโยชน์ด้วย เรื่องแบบนี้ต่างหากที่ควรจะมาบอกว่า ประเทศไทยไม่พัฒนาตัวเองให้เข้ากับระบบกฎหมายเยี่ยงอารยประเทศอื่น

นายไข่นุ้ย

 ส.โขกกำแพง  นับวัน ยิ่งแย่ลง ของเก่าดีๆใช้กันมานาน เห็นผลทำคนให้เป็นคน  แต่ยุคนี้ ... ส.โขกกำแพง ส.โขกกำแพง
DO YOU KNOW ME? I AM A CAT 28 YEARS. AND YOU?    แมวแท้สู (แมวยิ้ม)

puiey

แสดงว่าประโยคที่ว่า "รักวัวให้ผูก รักลูกให้ตี" ทีมีมาแต่โบราณต้องถูกลบล้างด้วยข้อห้ามที่อ้างว่ากฎหมายไม่อนุญาต โอ้ แล้วบรรพบุรุษต้องย้อนหลังไปลงโทษ ที่ตีเพื่อสั่งสอนศิษย์ที่ดื้อ และหลงผิดมั๊ยอะ (เหมือนรัฐมนตรีบางคนกำลังทำ) ผมว่าควรดูที่นัยยะด้วยนะ ไม่ใช่รักลูกจนเหมือนบทนิทาน "พ่อแม่รังแกฉัน" จนลูกหลงผิดและเอาตัวไม่รอดในสังคม และในส่วนครู อาจารย์ ที่ทำโทษศิษย์เกินไปก็ให้ลดการใช้อารมณ์บ้างนะครับ เพราะครู ไม่ใช่ผู้พิพากษานะครับ
โกธรกับแฟน ขึ้นสเตตัส "โสด" ถ้าวันนึง แม่มึงโกธร มึงไม่ขึ้นสเตตัส "กำพร้า" เลยเหรอ

เด็กไฮเปอร์

การบ้านน้อยลง ติวเตอร์เพิ่มขึ้น ขัดกันมั๊ยเนี่ยยยยยยย   ส.ฉันเอง ส.ฉันเอง

แสงสุดท้าย

การบ้านเยอะหรือน้อย ถ้าเด็กลอกกันไปส่ง อย่าไปตำหนินักเรียนนะครับ อายเด็กมัน เดี๋ยวเด็กจะย้อนได้ว่า ขนาดครูยังลอกผลงานวิชาการ หรือไม่ก็จ้างเขาทำ เพื่อเลื่อนวิทยฐานะของตนเองเลย  ส.หลกจริง ส.หลกจริง ส.หลกจริง

รับพิมพ์สติกเกอร์ PVC/ฉลากสินค้า/วอยด์รับประกัน ฯลฯ  www.smile-ps.com  Line: smile-ps  โทร.085-6405995