กิมหยง - ตะลุงเว็บบอร์ด

นักเรียนทั้งหลาย เข้าห้องได้
อ.Singoraman  มาเปิดห้องเรียนแล้ว อิอิ

ทั้งหมด ตรง
เรื่องมันเป็นพั่นนี้
ขณะนี้กำลังปล้ำอีเอารูปลง
แต่ลงไม่ได้ ไม่โร้พั่นพรือ
หมันว่าอินเตอร์เน็ตมีปัญหา (เด็กช่วยงานบอก)
เพราะครูทำไม่เป็น
จะเอาข้อความที่ป้ายหน้าโบสถ์มาลง
ถ้าพั่นนั่น พิมพ์ลงทีตัวหวา
นักเรียนเตรียมเขียนตามคำบอก
ตัวบรรจงเต็มบรรทัด

ข้อความประวัติโบสถ์วัดแจ้ง มีดังนี้

"อุโบสถวัดแจ้ง สร้างโดยท่านผู้หญิงสุทธิ์ ท่านผู้หญิงในพระยาวิเชียรคิรี (เม่น ณ สงขลา)
เป็นบุตรีของพระยารัตนโกษา (บุญเกิด) เป็นคนกรุงเทพฯ
ขณะพระยาวิเชียรคิรี ดำเนินการพัฒนาเจดีย์หลวงบนเขาตังกวน
ท่านผู้หญิงสุทธิ์ ได้สร้างอุโบสถ ๒ วัด คือ วัดแจ้ง และ วัดศาลาหัวยาง
ท่านได้ดำเนินการสร้างวัดในกรุงเทพฯ แผ่นดินเกิด ๑ วัด คือ
วัดสุทธิวราราม เขตยานนาวา กรุงเทพฯ
อุโบสถวัดแจ้งลักษณะสถาปัตยกรรม แบบรัชกาลที่ ๔
มีสถาปัตย์ตะวันตกผสมบ้าง เป็นอาคารโครงสร้างก่ออิฐถือปูน
ฐานบัวคว่ำบัวหงาย หลังคาทรงจั่ว มีระเบียงหลังคารอบ
หลังคาโครงไม้มุงกระเบื้องปลายแหลม
วัสดุพื้นเมือง ระหว่างเสาระเบียงก่อผนังช่องโค้ง
ตอนล่างระหว่างเสามีลายพนัก ประดับด้วยกระเบื้องปรุ
ประตูหน้าหลังด้านละ ๒ ช่อง หน้าต่างด้านละ ๕ ช่อง
ฝาผนังตั้งแต่หน้าต่างถึงพื้น บุด้วยกระเบื้องเซรามิคสี
เป็นลายใบไม้ ดอกไม้นูน พื้นปูด้วยกระเบื้องเซรามิคสี
อุโบสถ กว้าง ๑๒ เมตร ยาว ๒๐ เมตร"

จบป้ายที่ ๑
ฮาย...หอบ

กำลังเขียนตามคำบอกอยู่ครับ ตื่นเต้นมาก ๆ

พูดถึงหน้าบัน
ในเว็บภาพเก่าเมืองสงขลาของ Dr.Baum มีภาพโบสถ์อยู่ภาพหนึ่ง ที่คุณเอนก นาวิกมูลอ่านภาพได้ว่าเป็นวัดโพธิ์
เพราะบนหน้าบันมีรูปใบโพธิ์ครับ

อ้างจาก: Singoraman เมื่อ 11:08 น.  16 พ.ย 52
ข้อความประวัติโบสถ์วัดแจ้ง มีดังนี้

"อุโบสถวัดแจ้ง สร้างโดยท่านผู้หญิงสุทธิ์ ท่านผู้หญิงในพระยาวิเชียรคิรี (เม่น ณ สงขลา)
เป็นบุตรีของพระยารัตนโกษา (บุญเกิด) เป็นคนกรุงเทพฯ
ขณะพระยาวิเชียรคิรี ดำเนินการพัฒนาเจดีย์หลวงบนเขาตังกวน
ท่านผู้หญิงสุทธิ์ ได้สร้างอุโบสถ ๒ วัด คือ วัดแจ้ง และ วัดศาลาหัวยาง
ท่านได้ดำเนินการสร้างวัดในกรุงเทพฯ แผ่นดินเกิด ๑ วัด คือ
วัดสุทธิวราราม เขตยานนาวา กรุงเทพฯ
อุโบสถวัดแจ้งลักษณะสถาปัตยกรรม แบบรัชกาลที่ ๔
มีสถาปัตย์ตะวันตกผสมบ้าง เป็นอาคารโครงสร้างก่ออิฐถือปูน
ฐานบัวคว่ำบัวหงาย หลังคาทรงจั่ว มีระเบียงหลังคารอบ
หลังคาโครงไม้มุงกระเบื้องปลายแหลม
วัสดุพื้นเมือง ระหว่างเสาระเบียงก่อผนังช่องโค้ง
ตอนล่างระหว่างเสามีลายพนัก ประดับด้วยกระเบื้องปรุ
ประตูหน้าหลังด้านละ ๒ ช่อง หน้าต่างด้านละ ๕ ช่อง
ฝาผนังตั้งแต่หน้าต่างถึงพื้น บุด้วยกระเบื้องเซรามิคสี
เป็นลายใบไม้ ดอกไม้นูน พื้นปูด้วยกระเบื้องเซรามิคสี
อุโบสถ กว้าง ๑๒ เมตร ยาว ๒๐ เมตร"

จบป้ายที่ ๑
ฮาย...หอบ

อาจารย์ พักเหนื่อยก่อนตะเอาทีละป้าย   
ใ้ห้นักเรียนเขียนตามยาวๆ  ก็ต้องอ่านช้าๆ เพราะต้องจินตนาการภาพตามไปด้วย

ถูกต้องครับภาพที่เสนอ
วัดโพธิ์ แน่นอน
ในภาพชุด Dr.Jim
จำได้ว่ามีภาพโบสถ์วัด "หลาหัวยาง" กัน
ผมมีปัญหาเรื่องนำภาพลงเวปจริง ๆ
เลยดูเหมือนเอาเปรียบคนเอิน
ขออภัยด้วยครับ

ฮา....ได้แล้วพี่น้องเหอ

รอเมื่อไหร่บูรณะเสร็จ จะได้เห็นหน้าบันโบสถ์ครับ
สงสัยจังว่าเป็นรูปอะไร มีความหมายว่าพันพรือ

เอารูปจากเขาตังกวน ปี 2458 มาลงอีกครั้งครับ
สังเกตเห็นว่าทิศเหนือของโบสถ์ มีหลังคาของอาคารอีกหลังแบบหน้าจั่วบังอยู่
อาคารหลังนี้ ปัจจุบันคงรื้อไปแล้วนะครับ

เพิ่งทราบว่า วัดสุทธิวราราม มีที่มาจากชื่อของคุณหญิงสุทธิ์นี่เอง  O0

หน้าบันเป็นลายนูนต่ำ
รูป "พระอาทิตย์ทอแสงยามอรุณรุ่ง"
อันหมายถึง "รุ่งแจ้งแสงทอง"
ตรงกับความหมายของ "วัดแจ้ง"
ภาพที่ อ.หม่องวินฯ นำมาลงไว้ก่อนก็ปรากฏนะครับ

ขอบคุณมากครับอาจารย์ Singoraman
น่าสนใจมาก

ภาพวิวสงขลาจากเขาตังกวนในปัจจุบัน
ยังพอมองเห็นโบสถ์วัดแจ้งอยู่ครับ ตามภาพ มีอาคารหน้าจั่วบังด้านเหนือเหมือนในภาพปี 2458 เลยครับ

ลืมทำลูกศรชี้ให้ เดี๋ยวหาไม่พบ

ภาพห่างกันเกือบศตวรรษ
แต่เรายังเชื่อมกันได้
ขอบคุณ "กิมหยง"
ขอบคุณ "อ.หม่องวินฯ"
ขอบคุณ "แผ่นดินสงขลา"
ขอบคุณครับ

ภาพนี้คือวัดโพธิ์ ถูกต้องเลยครับ ผมเคยใช้ google translate แปลจากภาษาเชค เป็นภาษาอังกฤษ ได้ว่า  Siam, the temple Vat Poh, Singora, 8.VII.1929 เพิ่งสังเกตตามที่ อ บอกมาเหมือนกันว่ามีรูปใบโพธิ์ อยู่ที่หน้าบันจริงๆด้วยครับ

งั้นขอถามท่านพระอาจารย์ทั้งหลายในห้องนี้ต่อครับ จากภาพนี้ไม่ทราบว่าคือวัดอะไรครับ รูปถ่ายชุดเดิมครับของDr.Jim ผมเห็นทรงคล้ายๆกันกับภาพวัดข้างบน

วัดที่มีสถาปัตยกรรมแบบนี้ มีอยู่อย่างน้อย 4 วัดในสงขลาครับ
คือวัดกลาง วัดโพธิ์ วัดแจ้งและวัดศาลาหัวยาง
(ไม่แน่ใจว่าวัดเลียบด้วยหรือไม่)

สงสัยต้องพิมพ์ภาพออกมา แล้วเดินไปดูเปรียบเทียบเสียแล้วครับ
อาจารย์ Singoraman พอมีเบาะแสไหมครับ  ;D

เท่าที่ผ่านตานะครับ สถาปัตยกรรมทรงเดียวกัน ยุคใกล้เคียงกัน ในบ่อยางยังมีอีกหลายวัด ขอเพิ่มเติม ดังนี้
ใน "บ่อยาง" มีวัดทั้งสิ้น ๑๘ วัด (เดิม ๒๐ วัด ร้างไป ๒ วัด คือ วัดนาถม และวัดชายน้ำ) คือ
๑. วัดแหลมทราย  ๒. วัดไทรงาม ๓.วัดแจ้ง ๔. วัดดอนรัก ๕. วัดกลาง ๖. วัดโรงวาส ๗.วัดสระเกษ  ๘. วัดตีนเมรุ ๙. วัดชัยมงคล   
๑๐. วัดเพชรมงคล  ๑๑. วัดท่าทาง  ๑๒. วัดหัวป้อมใน  ๑๓. วัดอุทัย ๑๔. วัดหลาหัวยาง ๑๕. วัดโพธิ์  ๑๖. วัดเลียบ ๑๗. วัดดอนแย้
๑๘. วัดหัวป้อมนอก
เกือบทุกวัดมีสถาปัตย์เช่นว่าอยู่ อาจเป็น โบสถ์ วิหาร ศาลา กุฏิ ซุ้มประตู คงต้องออกบันทึกแบบที่ อ.หม่องวินฯ ว่าไว้

โห ไม่ยักจะรู้นะครับนี่ว่าบ่อยางวัดเยอะมากขนาดนี้ แต่ก่อนคิดว่าคงมีประมาณเกือบๆ 10 วัดเอง
จะย้อนเวลาหาอดีตคงต้องใช้กำลังภายในเยอะสักหน่อยครับ

ไม่รู้ว่าลูกเณรในภาพนี้จะยังบวชเป็นพระอยู่อีกหรือเปล่านะครับเนี่ย ตอนนี้คงจะอายุเยอะมากทีเดียว จะได้ไปถามท่าน ว่าวันนั้นไปถ่ายรูปกันที่วัดไหนขอรับ หุหุ

ภาพถ่ายปี 2472 ผ่านมาแล้ว 80 ปี
ความหวังเลือนรางครับ

ผมก็ว่างั้นครับ คงยากเต็มทีครับ

เพิ่งสังเกตเห็นจากภาพที่บานประตู มีรอยติดทองเต็มไปหมดเลยครับ

โฟกัสภาคใต้ รายสัปดาห์ วันที่ 5 - 11 ธันวาคม 2552

ขอบคุณพี่มากครับ  ;D

รอบูรณะวัดแจ้งเสร็จเมื่อไหร่ จะแวะเข้าไปถ่ายรูปมาครับ