ข่าว:

ทดลองใช้งานบอร์ดตะลุง ที่อยู่ในขั้นตอนการกู้คืนข้อมูล เบื้องต้นมีแต่กระทู้ (ข้อความ) กำลังกู้รูปภาพ ไฟล์แนบต่าง ๆ คาดว่าจะทยอยสมบูรณ์ภายในไม่ช้า

Main Menu

คนขี่หลังเสือ

เริ่มโดย steven, 14:48 น. 20 ก.พ 56

steven

เรื่องของ ความโลภ นั้น...ลองถ้าหากมันถูกปลุก ถูกกระตุ้น อย่างเป็นกิจจะลักษณะ ถูกขับเคลื่อนให้เดินหน้าแบบเต็มสูบ เต็มกำลัง อะไรๆ ก็เอาไม่อยู่ รั้งไม่หยุด ฉุดไม่อยู่ ไปด้วยกันทั้งนั้น และจนกว่าที่มันจะหมดเรี่ยว หมดแรง หมดพลังงาน เผาผลาญ ภายในตัวมัน...ทุกสิ่ง ทุกอย่าง รอบๆ ข้าง อาจหลงเหลืออยู่แค่เศษซากปรักหักพัง มีแต่ต้องฉิบหาย วายวอด กันไปเป็นแถบๆ...
-----------------------------------------------
สำหรับธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ ซึ่งถูกออกแบบมาให้เป็นผู้รองรับ การปลุกกระแสความโลภแบบต่อเนื่อง ยาวนาน มาเป็นปีๆ จะถึงขั้นต้องฉิบหายในปีนี้ หรือปีหน้า ปีโน้น หรือไม่ อย่างไร ก็ยังมิอาจสรุปได้ ชัดเจน แต่ที่แน่ๆ ก็คือ...ถ้าหาก นโยบายจำนำข้าว ของรัฐบาล ยังคงเดินหน้าต่อไป แบบไม่คิดจะบันยะ บันยังใดๆ เอาเสียเลย ไม่วันหนึ่ง วันใด...คงไม่น่าจะเหลือเศษซากใดๆ เอาไว้ทำยา หรือเอาไว้ดูต่างหน้าแน่ๆ เรียกว่า ขนาดต้องควักเอาเงินรักษาสภาพคล่องออกมาใช้กันแล้ว...ก็ยังใช้ไม่พอ ขาดไปอีกนับเป็นหมื่นล้าน แสนล้าน เหลือ ตัวช่วย เพียงอีกตัวเดียวเท่านั้น นั่นก็คือ ต้องสวดมนต์ภาวนาให้ ภาวะภัยแล้ง เป็นตัวช่วยหยุดยั้ง ช่วยลดปริมาณข้าวนาปรัง และนาปี ให้เหลืออยู่น้อยที่สุด เท่าที่จะน้อยได้...
--------------------------------------------------
แต่ไม่ใช่เฉพาะกลไก ที่ถูกออกแบบให้รองรับความโลภ อย่างธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์เท่านั้น กระทั่งผู้ที่ถูกปลุกให้โลภ ถูกกระตุ้นให้โลภโดยตรง อย่างบรรดาเกษตรกร หรือชาวนาทั้งหลาย ผลพวงแห่งความโลภ ที่มันกำลังย้อนกลับกลายมาเป็น ผลกรรม นับวันดูจะแสดงตัวตน ให้เห็นชัดเจนยิ่งขึ้นเรื่อยๆ ดังที่ท่านผู้รู้ ผู้เชี่ยวชาญ ในด้านการเกษตรและด้านสุขภาพ ท่านได้รวมตัวจัดสัมมนา เพื่อชี้ให้เห็นคุณและโทษ ของการนำเอาสารเคมีการเกษตรมาใช้ เพื่อเร่งผลผลิตการเกษตร ณ เวทีสำนักงานสุขภาพแห่งชาติ และ เอ็กซ์ไซท์-ไทยโพสต์ ได้นำมารายงานเอาไว้เมื่อวานนี้ ซึ่งพอสรุปโดยคร่าวๆ ได้ว่า ด้วยเหตุที่ต้องการจะเร่งผลผลิต หรือต้องการจะปลูกข้าวให้ได้มากๆ เข้าไว้ จะได้เอามาจำนำกับรัฐบาลกันให้เยอะๆ บรรดาเกษตรกรส่วนใหญ่ จึงหันไปโหมใช้สารเคมีการเกษตร ระดับที่ทำให้ปริมาณการสั่งเข้า เพิ่มขึ้นเป็นกองภูเขา เลากา สูงกว่าตึกใบหยก ไปแล้วถึงขั้นนั้น...
----------------------------------------------------
ยิ่งแต่ละคน แต่ละราย ล้วนมีบัตรเครดิต รูดปรื๊ด...รูดปรื๊ด อยู่ในมือ ยิ่งส่งผลให้การใช้สารเคมีแต่ละประเภท เป็นไปแบบระเบิดเถิดเทิง หนักขึ้นไปใหญ่ เพราะการปลูกข้าว ผลิตข้าว ในแต่ละรุ่น มันได้กลายเป็น การลงทุน หรือกลายเป็น อุตสาหกรรมการเกษตร ไปแล้ว ไม่ใช่เป็น วิถีชีวิต แบบชาวนารุ่นก่อนๆ ดังนั้น...ไม่ว่าสารเคมีแต่ละประเภท มันจะ อันตราย หนักหนาสาหัสขนาดไหน หรือถึงขั้นบางประเทศ สั่งห้ามใช้กันไปแล้วก็มี แต่เพื่อให้ได้ปริมาณข้าวมากๆ เข้าไว้ เพื่อเอามาจำนำกับรัฐบาลกันให้เยอะๆ โดยจะเอาเงินที่ได้ ไปซื้อโทรศัพท์มือถือ ตู้เย็น ทีวี เอาไปซื้อรถคันแรก บ้านหลังแรก หรือเอาไปใช้หนี้ค่าหวย ฯลฯ หรือไม่ อย่างไร ก็แล้วแต่ แต่ปริมาณเงินที่เพิ่มขึ้นจากราคารับจำนำ จากปริมาณผลผลิตที่เร่งปลูก เร่งใช้สารเคมี แทนที่จะทำให้ คุณภาพชีวิต ของเกษตรกรเหล่านี้ดีขึ้น มันกลับทำให้ชีวิตของเกษตรกรแต่ละชีวิต ถูกนำไปแขวนอยู่บนเส้นด้ายเปื่อยๆ ยิ่งขึ้นทุกที...
--------------------------------------------------
อันตรายจากสารพิษที่อยู่ในสารเคมีการเกษตร ซึ่งถูกนำมาใช้ในการเร่งผลผลิตให้เยอะๆ เข้าไว้ เท่าที่ผู้รู้ ผู้เชี่ยวชาญ ท่านได้แจกแจงเอาไว้ ต้องเรียกว่า...น่าขนหัวลุกเอามากๆ!!! ไม่ว่าไล่มาตั้งแต่การทำให้เกิดความผิดปกติในดีเอ็นเอ ก่อให้เกิดมะเร็ง และโรคเรื้อรังนานาชนิด เกิดอัตราเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งในต่อมน้ำเหลือง เพิ่มขึ้นถึง 4.4 เท่า เกิดการแบ่งตัวอย่างผิดปกติของเซลล์ตับ กระตุ้นให้เกิดเนื้องอก เกิดการรบกวนระบบต่อมไร้ท่อ ทำลายเอนไซม์ที่เยื่อหุ้มสมอง เกิดความผิดปกติของอสุจิ และการตายของอสุจิ สำหรับหญิงตั้งครรภ์ ทำให้น้ำหนักลด กล้ามเนื้อกระตุก กินน้อย โลหิตจาง เกิดอาการสั่น สูญเสียการทรงตัว น้ำนมลดลง ลูกอาจตายตั้งแต่เกิด ไปจนกระทั่งสามารถทำให้เกิดอาการ กลายพันธุ์ ไปเลยถึงขั้นนั้น ฯลฯลฯลฯ และจากการสำรวจ โดยโครงการประเมินความเสี่ยงของเกษตรกร จากสารกำจัดศัตรูพืช ในปีที่ผ่านมา จากจำนวนเกษตรกรทั่วประเทศกว่า 500,000 ราย พบว่า เกษตรกรที่ตกอยู่ในอัตราเสี่ยงจากสาเหตุชนิดนี้ มีสูงถึง 30 เปอร์เซ็นต์เข้าไปแล้ว...
-------------------------------------------------------
พูดง่ายๆ ว่า...ถึงจะได้เงิน ได้ทอง มาสนองตอบความต้องการ สนองตอบความโลภกันในวันนี้ แต่ในวันข้างหน้า โอกาสที่จะตายกับตาย หรือถึงไม่ตายก็เลี้ยงไม่โตนั้น ย่อมมีความเป็นได้สูงเอามากๆ และไม่ใช่แต่เฉพาะตัวเอง ที่เป็นพ่อๆ-แม่ๆ ผัวๆ-เมียๆ เท่านั้น แต่ในอนาคตที่ยาวไกลไปถึงลูกๆ หลานๆ ซึ่งจะเกิดมาในแต่ละรุ่น ดีไม่ดีอาจต้อง กลายพันธุ์ ไปเป็นสัตว์ประหลาด เป็นมนุษย์ต่างดาว เอาเลยก็ไม่แน่ ทั้งนั้น ทั้งนี้...ล้วนเนื่องมาจากสาเหตุของความโลภ ที่ถูกปลุก ถูกกระตุ้น กันอย่างเป็นระบบ อย่างเป็นกระบวนการ ไล่มาตั้งแต่ยอดถึงฐานนั่นเอง...
---------------------------------------------------------
ด้วยเหตุนี้...การที่มีผู้ออกมา เชลียร์เช็ด รัฐบาล ชนิดขนติดปาก ด้วยการให้ความยกย่อง เชิดชู นโยบายรับจำนำข้าว ถึงขั้นถือเป็นแนวนโยบาย ที่จะนำไปสู่การปฏิรูปประเทศ การเปลี่ยนแปลงประเทศ ก็อาจไม่ถึงกับผิดพลาดอะไร มากมายซักเท่าไหร่นัก เพียงแต่ว่ามันอาจไม่ใช่การปฏิรูป อันมีความหมายเป็นไปในทางที่ดีขึ้น แต่ออกจะเป็นไปในแบบ ปฏิรูด ซะมากกว่า คือมีแต่รูดลงไปกองกับพื้น ก่อนจะไปไม่กลับ-หลับไม่ตื้น-ฟื้นไม่มี ไปอีกนานเท่านาน หรือเป็นการเปลี่ยนแปลงประเทศจาก หน้ามือ ให้กลายเป็น หลังตีน ในชั่วเวลาข้ามคืน เพราะในเมื่อความโลภ มันได้ถูกปลุก ถูกกระตุ้น ถูกขับเคลื่อนให้เดินหน้าแบบเต็มสูบ เต็มกำลังเช่นนี้ ไม่ว่าใครก็คงเอาไม่อยู่ กระทั่งรัฐบาลชุดนี้ ที่เป็นผู้คิดค้นนโยบายชนิดนี้เองก็เถอะ ลักษณะอาการทุกวันนี้...คงไม่ต่างอะไรไปจาก คนขี่เสือ ไม่กล้าลง หาทางลงไม่เจอ และเพื่อไม่ให้ตัวเองต้องโดนเสือรับประทาน ก็คงต้องปล่อยให้ประเทศทั้งประเทศ โดนแดก จนกว่าจะฉิบหาย วายวอด กันไปทั้งประเทศ ด้วยประการฉะนี้...เทอญญ์ญ์ญ์!!!
-------------------------------------------------------------
ปิดท้ายด้วยวาทะวันนี้ จากสุนทโรวาท อิหม่าม อาลี....ความละโมบโลภมาก...คือ ระบบทาสที่ถาวร.

: ท่านขุนน้อย

puiey

นโยบายจำนำข้าว เป็นการปฎิรูปประเทศจริง ๆ ด้วย นำความเปลี่ยนแปลงไปสู่ความฉิบหายนะ
โกธรกับแฟน ขึ้นสเตตัส "โสด" ถ้าวันนึง แม่มึงโกธร มึงไม่ขึ้นสเตตัส "กำพร้า" เลยเหรอ