ข่าว:

ทดลองใช้งานบอร์ดตะลุง ที่อยู่ในขั้นตอนการกู้คืนข้อมูล เบื้องต้นมีแต่กระทู้ (ข้อความ) กำลังกู้รูปภาพ ไฟล์แนบต่าง ๆ คาดว่าจะทยอยสมบูรณ์ภายในไม่ช้า

Main Menu

พ่อเฒ่ากระบี่โวยตกเป็นผู้ต้องหาคดีลักทรัพย์ที่หาดใหญ่

เริ่มโดย JaY_SoniC, 14:20 น. 12 มี.ค 56

JaY_SoniC

เมื่อเวลา 17.00 น วันที่ 11 มี.ค. 56 นายนู คลังเจ็ด อายุ 79 ปี อยู่บ้านเลขที่ 18 ม.4 ต.บ้านกลาง อ.อ่าวลึก จ.กระบี่ พร้อมด้วย นายสงคราม คลังเจ็ด บุตรชาย และ นายมงคล หวานนิมิตร ทนายความ ได้เดินทางเข้าพบกับ พ.ต.ท.หญิง ภัทรียา ปานนิ่ม สารวัตรสอบสวน สภ.หาดใหญ่ เพื่อให้ปากคำ หลังตกเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดสงขลา ที่ 278/2554 ลงวันที่ 23 พ.ค. 54 ในคดีลักทรัพย์ในเคหะสถาน โดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองบุคคลหรือทรัพย์หรือโดยผ่านสิ่งเช่นว่านั้นเข้าไปด้วยประการใดๆ โดยเหตุเกิดเมื่อวันที่ 21 ก.ย. 53 ที่บ้านเลขที่ 133 ซ.2 ถ.ประชาอุทิศ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา โดยมี น.ส.ปุทนิกา ไกรแก้ว เป็นผู้เสียหาย

และต่อมาเมื่อวันที่ 1 มี.ค. 56 ได้ถูกชุดสืบสวนตำรวจภูธร จ.สงขลา เข้าทำการจับกุมที่บ้านพักใน จ.กระบี่ หลังกลับจากปฏิบัติศาสนกิจที่มัสยิด ซึ่งถึงกับงง เพราะ ไม่รู้ไม่เห็นกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เนื่องจากในช่วงเวลาเกิดเหตุอยู่ที่ จ.กระบี่  รวมถึงญาติๆและเพื่อนบ้านต่างไม่เชื่อว่าจะเป็นผู้ต้องหาในคดีนี้ เนื่องจากในชีวิตไม่เคยเดินทางมาหาดใหญ่แม้แต่ครั้งเดียว รวมทั้งอายุมากแล้วเดินเหินก็ไม่สะดวก ต้องใช้ไม้เท้าประคองตัวเองตลอดเวลา และเชื่อว่าน่าจะเป็นการจับผิดตัว

ขณะที่ตำรวจยืนยันจับกุมตามหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ โดยหลังเกิดเหตุทางพนักงานสอบสวน สภ.หาดใหญ่ และเจ้าหน้าที่วิทยาการ ได้เดินทางไปตรวจที่เกิดเหตุ พร้อมเก็บลายนิ้วมือแฝงของคนร้ายไว้เป็นหลักฐาน เพื่อนำไปพิสูจน์ และผลออกมาตรงกับลายนิ้วมือของ นายนู คลังเจ็ด จึงได้ขออนุมัติศาลออกหมายจับดังกล่าว

ด้าน พ.ต.ท.หญิง ภัทรียา ปานนิ่ม เจ้าของคดี เปิดเผยว่า คดีนี้ได้ดำเนินการไปตามพยานหลักฐาน โดยไม่ได้มีเจตนากลั่นแกล้งใคร จึงได้นัดให้ผู้ต้องหาและญาติมาพบ เพื่อนำเอกสารทางด้านการแพทย์มายืนยันประกอบสำนวน เพื่อดำเนินการตามขั้นของกฎหมายต่อไป ซึ่งเท่าที่สังเกต นายนู น่าจะไม่ใช่คนร้ายตัวจริง และจะได้ดำเนินการส่งเรื่องให้ทางเจ้าหน้าที่วิทยาการตรวจสอบความถูกต้องอีกครั้งหนึ่งว่า โอกาสผิดพลาดมีมากน้อยเพียงใด แต่จากการตรวจสอบพบลายนิ้วมือแฝงของคนร้ายตรงกับ นายนู เป็นไปได้ว่า นายนู เคยต้องคดีมีไม้ต้องห้ามไว้ในครอบครองเมื่อประมาณ 20 ปี ที่แล้ว และศาลได้ยกฟ้อง เพราะ ไม่มีเจตนา เลยทำให้มีประวัติอยู่ในแฟ้มของคนร้าย

ทั้งนี้ นายนู ได้ยืนกรานปฏิเสธ โดยยืนยันว่า ตนเองไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีนี้ เนื่องจากในชีวิตยังไม่เคยมา อ.หาดใหญ่ และที่เดินทางมาพบกับพนักงานสอบสวนก็เป็นครั้งแรกที่ได้มาเหยียบหาดใหญ่ แต่เมื่อได้มาพบกับพนักงานสอบสวน และได้รับฟังคำอธิบายแล้วก็รู้สึกสบายใจที่ยังได้รับความเป็นธรรมจากเจ้าหน้าที่ที่จะดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงในคดีนี้อีกครั้ง
/////

จิตอาสา

สมัยนี้อยู่ยากจริงๆครับ ไหนจะต้องระวังโจรที่ชุมยิ่งกว่ายุง ไหนจะต้องคอยระวังว่าอยู่ดีๆตกเป็นผู้ต้องหาโดยไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรเลย(แพะ)

ซัมเบ้ Note 7 Jr.

ฟ้องกลับเลยครับคุณตา
ตำรวจหาดใหญ่นอกจากเก่งแต่ดักจับรับส่วย แล้วยังหน้ามืดอีกด้วย แกล้งคนสูงอายุ แกไม่ช๊อคตั้งแต่เจอหมายจับก็ดีแค่ไหนแล้ว

แต่หากคุณตาไม่เอาเรื่อง    ....
ขอเป็นข้ารองพระบาททุกชาติไป

DIDE


เท่าทีเห็น

จับแต่คนไม่ใส่หมวกกับรถที่จอดตรงที่ห้ามจอดกลัวไม่ได้ยอด รถซิ่งเต็มเมืองมองกันเฉย

จ่าหรอย

ยอมรับว่าผมไม่เชื่อถือ ไม่ศรัทธาตำรวจไทยเอาเสียเลย ขยะแขยงด้วยซ้ำ ให้อำนาจคนพวกนี้มากเกินไป ใน100คนหาที่ดีๆสมกับ
"เป็นผู้พิทักษ์สันติราษฏร์"ทำงานมีศักดิ์ศรี คุ้มเงินเดือนและรู้จักละอายต่อบาป
ได้สักกี่คน?