ข่าว:

ทดลองใช้งานบอร์ดตะลุง ที่อยู่ในขั้นตอนการกู้คืนข้อมูล เบื้องต้นมีแต่กระทู้ (ข้อความ) กำลังกู้รูปภาพ ไฟล์แนบต่าง ๆ คาดว่าจะทยอยสมบูรณ์ภายในไม่ช้า

Main Menu

Google Glass อนาคตของคอมพิวเตอร์

เริ่มโดย itplaza, 15:34 น. 13 มี.ค 56

itplaza


ช่วงสองสามเดือนที่ผ่านมา คุณผู้อ่านอาจเห็นข่าวแว่นตา Google Glass ของกูเกิลผ่านตามาบ้างนะครับ เพราะมันเป็นอุปกรณ์ที่แสดงให้เห็น "อนาคต" ของโลกไอทีได้ดีทีเดียว

ระหว่างที่สงครามสมาร์ทโฟนระหว่างแอปเปิลกับ กูเกิลยังดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง ฝ่ายกูเกิลเองก็มองข้ามช็อตไปยัง "โลกหลังยุคสมาร์ทโฟน" บ้างแล้ว (แอปเปิลคงมองเห็นเหมือนกันแต่อุบไว้ไม่บอกออกมา) สิ่งประดิษฐ์และนวัตกรรมที่น่าสนใจและโดดเด่นของกูเกิลมี 2 อย่าง ได้แก่ รถยนต์ไร้คนขับ และแว่นตา Google Glass

คอลัมน์ตอนนี้ผมเน้นไปที่แว่นตา Google Glass ก่อน ส่วนรถยนต์ไร้คนขับจะหาโอกาสมาเขียนถึงต่อไปในอนาคต

วิธี คิดของกูเกิลมองว่าสมาร์ทโฟนมีข้อจำกัดสำคัญอย่างหนึ่งตรง "มันอยู่ในกระเป๋า" เวลาจะใช้งานต้องควักขึ้นมาดูและโฟกัสกับมัน ซึ่งทำให้เราพลาดโอกาสสำคัญไปหลายอย่าง เช่น การถ่ายภาพหรือวิดีโอช็อตสำคัญไม่ทัน หรือ การใส่ใจกับสมาร์ทโฟนมากเกินไปจนละเลยสภาพแวดล้อมรอบข้าง กูเกิลจึงแก้ปัญหาด้วยการสร้าง "แว่นตา" ที่แสดงผลข้อมูลบนหน้าจอขนาดเล็กๆ ตรงมุมขอบแว่น สำหรับแสดงข้อมูลที่ผู้ใช้อยากรู้หรือควรรู้อยู่ตลอดเวลา นอกจากนี้แว่นตา Google Glass ยังมีกล้องถ่ายภาพ-วิดีโอขนาดเล็กฝังมาด้วย สามารถถ่ายภาพได้ทันทีเมื่อต้องการ

วิธีใช้งานแว่นตาอันนี้ตามที่กู เกิลแสดงให้เห็นคือ มีปุ่มเล็กๆ ที่ข้างแว่นสำหรับสั่งงาน และแว่นตานี้รองรับการสั่งงานด้วยเสียงเช่นกัน เมื่อต้องการสั่งงานแว่น ให้เราพูดว่า "OK Glass" จากนั้นตามด้วยประโยคคำสั่งพื้นฐาน เช่น ถ่ายภาพ ค้นหาข้อมูล แสดงข้อมูล เป็นต้น เพื่อให้เห็นภาพชัดเจนว่า Glass ทำอะไรได้บ้าง ผมแนะนำให้ดูวิดีโอที่กูเกิลทำมาโปรโมตครับ (มีสั่งให้แปลคำว่า "อร่อย" เป็นภาษาไทยด้วย)

http://www.youtube.com/watch? v=v1uyQZNg2vE

แว่น ตาอันนี้สามารถต่อเชื่อมกับอินเทอร์เน็ตได้ (ปัจจุบันยังต้องเชื่อมกับสมาร์ทโฟนที่ต่อเน็ตอีกทอดหนึ่ง แต่อนาคตน่าจะต่ออินเทอร์เน็ตได้โดยตรง) แบตเตอรี่ทำงานได้นานประมาณหนึ่งวัน มีชุดเลนส์กันแดดมาให้ในตัว และอนาคตคงมีรุ่นใส่เลนส์สายตาสั้น-ยาวตามมา

กูเกิลจะวางขายแว่น Google Glass ภายในปีนี้ โดยราคารุ่นแรกสำหรับกลุ่มนักพัฒนาจะแพงหน่อย ประมาณ 1,500 ดอลลาร์หรือ 4-5 หมื่นบาท แต่กูเกิลก็สัญญาว่าจะออกรุ่นราคาถูกกว่านั้นสำหรับตลาดบุคคลทั่วไปในภาย หลัง เท่าที่ดูท่าทีแล้วงานนี้กูเกิลเอาจริง และในอีก 2-3 ปีข้างหน้าเราคงเห็น Google Glass วางขายกันอย่างแพร่หลาย

จากวิดีโอ คุณผู้อ่านคงเห็นภาพว่า Google Glass ทำงานได้ใกล้เคียงกับสมาร์ทโฟนในปัจจุบัน เช่น การหาข้อมูล แปลภาษา ส่งข้อความ แต่วิธีการใช้งานนั้นเป็นธรรมชาติมากกว่าสมาร์ทโฟนเยอะ แทนที่จะสั่งงานด้วยการจิ้มด้วยนิ้วและดูผลลัพธ์บนจอภาพอย่างในสมาร์ท โฟนหรือแท็บเล็ต กรณีของ Google Glass เรากลับใช้วิธีดูภาพที่อยู่ในระยะสายตาและสั่งงานด้วยเสียงพูดโดยตรงแทน อธิบายง่ายๆ ว่าแค่เหลือบตามองก็พอ ไม่ต้องก้มลงมองหน้าจอมือถืออีกต่อไป

ตัวอย่าง ของ Google Glass เป็นหนึ่งในความพยายามยกระดับคอมพิวเตอร์ไปอีกขั้นหนึ่ง ตัวไส้ภายในของ Glass ใช้ชิปแบบเดียวกับที่ใช้ในสมาร์ทโฟน แต่บีบขนาดให้เล็กลง ประหยัดพลังงานมากขึ้น เมื่อชิ้นส่วนสำคัญๆ ของคอมพิวเตอร์มีขนาดเล็กลง เราจึงเห็นการนำคอมพิวเตอร์หรือการประมวลผลไปใส่ในอุปกรณ์ชนิดใหม่ๆ ทั้งแว่นตา นาฬิกา เสื้อผ้า รถยนต์ จักรยาน ลำโพง โคมไฟ ฯลฯ ช่วยดันให้พรมแดนของคอมพิวเตอร์ไปไกลกว่าเดิมมาก อีกไม่ช้าไม่นานเราจะเห็นอุปกรณ์ลักษณะนี้ออกตามมาอีกเพียบ ไม่ใช่มีแต่แว่นตาของกูเกิลเท่านั้น ตอนนี้มีข่าวว่าทั้งแอปเปิลและซัมซุงกำลังทำนาฬิกา Smart Watch กันอยู่ทั้งคู่

แน่นอนว่าเหรียญมีสองด้านเสมอ แว่นตา Google Glass ไม่ได้มีแต่เพียงข้อดีเท่านั้น หลังเปิดตัวไม่ทันไร มันถูกวิจารณ์ว่าจะช่วยให้การแอบถ่ายภาพทำได้ง่ายขึ้น ความเป็นส่วนตัวของคนในสังคมจะลดลงมาก และตอนนี้เริ่มมีร้านอาหารบางแห่งในสหรัฐประกาศล่วงหน้าว่าห้ามนำแว่น Google Glass เข้ามาใช้ในร้าน เพราะเป็นห่วงเรื่องความเป็นส่วนตัวของลูกค้า ตรงนี้คงไม่ต่างอะไรกับเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่เข้ามาเปลี่ยนแปลงจนสังคมเดิมรับมือไม่ทัน สมัยที่เรามีมือถือติดกล้องใหม่ๆ ก็มีคนเป็นห่วงในลักษณะเดียวกัน หลังจากนั้นเราก็เห็นปัญหากรณี "แอบถ่าย" ตามมาอีกมากมาย แต่ปัจจุบันเมื่อคนส่วนใหญ่ของสังคมเรียนรู้ว่าจะรับมือกับกล้องมือถือได้ อย่างไร ปัญหาก็คลี่คลายลงไปบางส่วน ซึ่งผมมองว่า Google Glass ก็น่าจะเผชิญสถานการณ์คล้ายๆ กันอีกพักใหญ่ จนกว่าจะหาจุดร่วมที่ลงตัวกับสังคมได้นั่นเองครับ



มาร์ค Blognone      ไทยรัฐออนไลน์
ที่มา  http://itplaza.co.th/update_details.php?type_id=5&news_id=25416&page=1