ข่าว:

ทดลองใช้งานบอร์ดตะลุง ที่อยู่ในขั้นตอนการกู้คืนข้อมูล เบื้องต้นมีแต่กระทู้ (ข้อความ) กำลังกู้รูปภาพ ไฟล์แนบต่าง ๆ คาดว่าจะทยอยสมบูรณ์ภายในไม่ช้า

Main Menu

เบื้องหลัง"ตอบโจทย์" เผา TPBS ไล่ภิญโญ?

เริ่มโดย ผีตานี ขอใบตองแห้ง, 00:30 น. 21 มี.ค 56

ผีตานี ขอใบตองแห้ง

เผา TPBS ไล่ภิญโญ?
Published on Tue, 03/19/2013 - 18:48
ใบตองแห้ง


ภิญโญ ไตรสุริยธรรมา ผู้ดำเนินรายการตอบโจทย์ประเทศไทย  (ภาพ: มีเดีย อินไซด์ เอ้าท์)

"ตอบโจทย์" ตอนสถาบันพระมหากษัตริย์ภายใต้รัฐธรรมนูญ ตอนที่ 5 กลับมาออกอากาศแล้ว ไม่เห็นมีใครเดือดร้อนอะไร สถาบันพระมหากษัตริย์ยังดำรงอยู่อย่างมั่นคง พวกที่โวยวายจะเป็นจะตาย ทั้งคนนอกคนใน ก็ไม่ยักมาคัดค้านอีก ยังกับว่าบรรลุวัตถุประสงค์แล้ว

แต่ TPBS สิ เสียเครดิตไปแล้ว เสียความเชื่อถือ เสียโอกาสที่จะก้าวข้ามความเคลือบแคลงแบ่งฝ่ายไปสู่การเป็น "ทีวีสาธารณะ" ที่แท้จริงทั้งยังเสียภิญโญ ไตรสุริยธรรมา และทีมงาน "ตอบโจทย์" ไปด้วย

เอ๊ะ หรือว่านี่จะเป็นวัตถุประสงค์ที่บรรลุแล้ว สำหรับคนนอก คือกลุ่มผู้ประท้วง ที่ต่อไปนี้คงไม่มีสื่อไหนกล้าเปิดเวทีถกเรื่องสถาบันพระมหากษัตริย์อีก ไม่มีสื่อไหนกล้าเชิญสมศักดิ์ เจียมธีรสกุล ไปออกอากาศอีก ทุกสื่อจะก้มหน้าก้มตาสรรเสริญพระบารมีแต่ถ่ายเดียวต่อไป (ไม่ต่างจากมติชนที่กลัวขึ้นหัวขมองจนยกข้อเขียนของเกษียร เตชะพีระ แล้วก็เสียเกษียรไป)

เอ๊ะ หรือว่านี่จะเป็นวัตถุประสงค์ที่บรรลุแล้ว สำหรับคนใน ที่ลุกฮือให้ "ชะลอ" การออกอากาศไปก่อน เพราะ "ชะลอ" จนภิญโญกับทีมงานออกไปแล้ว

ตอบโจทย์ Outsource

ใครที่เป็นแฟนประจำ คงทันสังเกตว่าตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2556 รายการ "ตอบโจทย์" ได้เปลี่ยนชื่อเป็น "ตอบโจทย์ประเทศไทย" และเพิ่มเวลาจาก 20-25 นาทีมาเป็น 45 นาที

"ตอบโจทย์" เดิมเป็นรายการของฝ่ายข่าว หรือสำนักข่าว ออกแบบมาคู่กับ "ที่นี่ทีวีไทย" ซึ่งต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็น "ที่นี่ Thai PBS" หะแรกกะให้เทพชัย หย่อง เป็นพิธีกร ซึ่งคงมันส์น่าดู แต่น่าเสียดาย กรรมการนโยบายท้วงว่าไม่เหมาะ ผอ.ไม่ควรเป็นพิธีกรเอง จึงหาพิธีกรมาเรื่อยจนได้ภิญโญเป็นพิธีกรเอก สลับกับคนอื่นๆ (ช่วงหลังเป็น ดร.ณัฏฐา โกมลวาทิน) โดยตอนแรก ทั้ง 2 รายการนี้ยังเป็นทีมงานเดียวกัน แต่ต่อมา "ตอบโจทย์" แยกเป็นอีกทีมหนึ่ง แต่ยังสังกัดฝ่ายข่าว

จนกระทั่งสมชัย สุวรรณบรรณ มาเป็น ผอ.คนใหม่ เห็นว่า "ตอบโจทย์" เป็นรายการ "เรือธง" ของ TPBS เรียกคนดูได้กว้างขวางที่สุด มีพลังที่สุด จึงปรับเปลี่ยนให้ "ตอบโจทย์" ไปอยู่ฝ่ายรายการ หรือสำนักรายการและสร้างสรรค์ ซึ่งมีสุวิทย์ สาสนพิจิตร์ เป็นผู้อำนวยการ โดยฝ่ายรายการจัดเวลาเพิ่มให้อีก 20 นาที เปลี่ยนชื่อ เปลี่ยนโลโก้ และเปลี่ยนรูปแบบเป็น outsource หมายถึงจ้างคนนอกหมด ตั้งแต่พิธีกร ทีมงาน ค่าใช้จ่าย เดินทาง ค่าเช่าตั้งแต่กล้องไปถึงสตูดิโอ คงมีเพียงโปรดิวเซอร์ หรือบรรณาธิการรายการ อรพิน ลิลิตวิศิษฎ์วงศ์ กับทีมงาน 2-3 คนยังเป็นพนักงาน TPBS พิธีกรก็เป็นภิญโญคนเดียว ดร.ณัฏฐาไม่ได้มา "ตอบโจทย์" อีก

นัยว่าการสังกัดอยู่ฝ่ายข่าว ไม่สามารถทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ ต้องไปแย่งกันใช้อุปกรณ์และห้องสตูดิโอ ฯลฯ



การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้สร้างความไม่พอใจให้ใครบ้างไม่ทราบ แต่ที่แน่ๆ เมื่อ "ตอบโจทย์ประเทศไทย"    ไปสัมภาษณ์จินตนา แก้วขาว แล้วเรตติ้งกระฉูด ก็เจอใครบางคนวีนใส่ เพราะคุณเธอถือว่า NGO เป็นลูกค้าส่วนตัว อย่ามาแย่งตลาด

และที่แน่ๆ เมื่อวันที่ 8 มีนาคม อรพินได้ส่งอีเมล์ถึงคนในกองบรรณาธิการร่วม 80 คน โวยว่าเธอไม่ได้รับความเป็นธรรมในการจัดเวร

"เรียน ทุกท่าน

ดิฉัน อรพิน ลิลิตวิศิษฎ์วงศ์ ซึ่งก่อนหน้านี้ ได้แจ้งคุณอำไพและคุณก่อเขตด้วยวาจาแล้วว่าตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์และมีนาคม 56 ว่าวันเสาร์ติดเรียน ที่ ม.ธรรมศาสตร์ และวันอาทิตย์ ติดเรียนภาษาเวียดนาม ไม่สามารถเข้าเวรบรรณาธิการได้ในวันหยุดเสาร์อาทิตย์ จึงขอไม่เข้าเวร ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์เป็นต้นไป

ดังนั้น หากในตารางเวร บก.เดือนมีนาคม 56 มีชื่อดิฉันเป็น บก.ค่ำในวันอาทิตย์ที่ 10 มี.ค.56 และ 24 มี.ค.56 จึงขอเรียนแจ้งอีกครั้งว่า ดิฉันไม่สามารถทำได้

อนึ่ง ก่อนหน้านี้ ในช่วงที่ยังมีตำแหน่ง Chief Editor หากไม่ติดเรียน ...แม้จะไม่ได้มีตำแหน่งเป็นบรรณาธิการกลุ่มอย่างChief Editor ทั่วไป ดิฉันก็มาทำหน้าที่เข้าเวร บก.อย่างเต็มใจ

ดังนั้น ดิฉันจึงขอเรียนอีกครั้งว่า

1.วันที่ 10 และ 24 มี.ค. 56 ดิฉันคงมาปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งบก.ค่ำไม่ได้เนื่องจากเหตุผลข้างต้น

2.การจัดตารางเวร บก.มีความไม่ยุติธรรมและไม่เคยยุติธรรมก่อนหน้านี้มาตลอด

หากตำแหน่งบรรณาธิการกลุ่ม เป็นตำแหน่งที่ทรงภูมิ และเป็นผู้กุมประเด็นและทิศทางของฝ่ายข่าว ผู้ที่เป็นบก.เวร ซึ่งจะเป็นผู้รับผิดชอบ โดยเฉพาะในช่วงข่าวค่ำ ซึ่งเป็นหัวใจหลัก ควรจะเป็นบรรณาธิการกลุ่ม และเมื่อมีการยุบ ตำแหน่ง Chief Editor กลับเห็น บก.กลุ่มมาทำหน้าที่เป็น บก.เวรน้อยลง

แล้วคำถามที่ตามมา บก.กลุ่ม ทำอะไร...?

โดยเฉพาะที่ผ่านมา ผู้ที่จัดตารางเวร ก็ไม่สามารถจัดการให้บก.กลุ่มทุกคนมาเข้าเวรได้อย่างยุติธรรม...กรุณาอย่าเลือกปฏิบัติค่ะ

อรพิน"

อรพินทำหน้าที่ บก.รายการ "ตอบโจทย์ประเทศไทย" แล้วนะครับ เพียงแต่ตัวเธอยังสังกัดสำนักข่าว

บก.กลุ่มคนหนึ่งปรี๊ดแตก! เขียนอีเมล์โต้ทันที

"เรียนเพื่อนร่วมงานทุกท่าน

ก่อนอื่นต้องขออภัยทุกท่านที่เมล์นี้อาจจะรบกวนหลายท่านที่ไม่ทราบ ว่าตัวเองเกี่ยวข้องอย่างไร แต่เพราะว่าท่านถูกนำเข้ามาเกี่ยวข้องโดยรับทราบข้อร้องเรียนและอารมณ์ของอี เมล์ก่อนหน้านี้ ดิฉันจึงคิดว่าจำเป็นต้องมีข้อมูลประกอบในด้านอื่นบ้าง

ดิฉันหาคำตอบไม่ได้ว่า ทำไมคุณอรพินจึงเลือกใช้วิธีเขียนอีเมล์ส่งถึงคนทั้งในสำนักและนอกสำนักข่าวมากถึงเกือบ 80 คน แต่ถ้าหากเป็นไปอย่างที่สงสัยในใจก็จะสร้างบรรยากาศที่ไม่ดีเลยในหมู่เพื่อนร่วมงาน ทั้งที่ปัญหาของคุณอรพินนั้นแก้ไขได้โดยไม่ยากเลย หากคุยกันแบบมิตร จริงจังในการแก้ไขปัญหา รับฟังและให้โอกาส แม้กระทั่งโอกาสที่คุณอรพิน จะต้องรับผิดชอบกับเรื่องส่วนตัวคือการเรียนเพิ่มเติมความรู้ของตัวเอง

เหตุผลที่ดิฉันต้องตอบเมล์มายังเพื่อนๆ ครั้งนี้ เป็นเพราะไม่อยากให้สิ่งที่สงสัยอยู่ในใจถูกละเลยให้คนบางคน กระทำบางสิ่งบางอย่างทำลายผู้อื่นเพื่อสร้างความชอบธรรมให้ตัวเองอยู่ร่ำไป โดยไม่รู้ตัว โดยเฉพาะถ้าผู้มีอำนาจบริหารฟังข้อมูล input ที่ผิดพลาดนำไปสู่การตัดสินใจที่ผิดพลาด ก็จะเสียหายไปถึงผู้ใหญ่ท่านนั้นด้วย ดังเช่น การบริหารจัดการรายการตอบโจทย์ในเวลานี้ ที่ยังไม่มีคำอธิบายว่า การตัดสินใจจ้างคนนอกผลิตรายงานด้วยการเสนอราคาในช่วง 3 เดือน กว่าสิบล้านบาทนั้นเกิดขึ้นได้อย่างไร ยังไม่รวมถึงการตัดขาดรายการตอบโจทย์ซึ่งเป็นรายการข่าวออกจากความรับรู้ของ กองบรรณาธิการข่าว และการจ้างคนจำนวนมากเข้ามาเป็นพนักงานโดยไม่มีโครงการรองรับ ไม่มีการดำเนินการตามขั้นตอน สิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นเหล่านี้มิใช่หรือที่กำลังถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าเลือกปฏิบัติ โดยที่ไม่แคร์คนส่วนใหญ่

ดิฉันเพียงแต่สงสัยว่า การป้อนข้อมูลที่จริงไม่หมด ทำให้ผู้ใหญ่ตัดสินใจเช่นนั้น โดยไร้การปรึกษาหารือ ตรวจสอบข้อมูล ปรับปรุง พัฒนางานด้วยกัน ตามวิธีการที่พึงกระทำ ซึ่งน่าเสียดายอย่างยิ่งที่การพูดกันเพียงข้อมูลซ้ำๆ กล่าวร้ายเพื่อนร่วมทีมคนอื่นๆ อาทิ "ฝ่ายข่าวเฮงซวย" "บก.ห่วยแตก" "คนในฝ่ายข่าวเป็นพวกเดทวู้ด" "โปรดักชั่นไม่เวิร์ค" ทำให้เกิดปรากฏการณ์ละทิ้งคนส่วนใหญ่ อุ้มชูคนที่ดูเหมือนเป็นฮีโร่ เปิดทางใช้งบประมาณในยามที่บอกว่ายากลำบาก และไม่ไว้วางใจคนทำงานทั้งหมดเพราะคำพูดในลักษณะนั้นของคนเพียงไม่กี่คน

สำหรับครั้งนี้ ข้อมูล และอารมณ์ของคุณอรพิน คล้ายคลึงกับเหตุการณ์ที่นำไปสู่การแก้ปัญหารายการตอบโจทย์อีกครั้ง และคนที่มีรายชื่อในเมล์นี้เกือบ 80 รายชื่อ ก็คงไม่ทราบข้อมูลที่เป็นจริง ว่ามีเหตุผลใดบ้าง และมีปัญหาจริงๆ ใดบ้าง จึงเสี่ยงเกินไปสำหรับองค์กรที่ผู้เกี่ยวข้องจะเพิกเฉยต่อกรณีนี้อีกครั้ง

ดิฉันเสนอว่า ผู้รับผิดชอบ ควรรีบพูดคุยและพิจารณาแก้ปัญหานี้ให้กับคุณอรพินอย่างจริงจัง โดยกองบรรณาธิการข่าวต้องทำหน้าที่อย่างเข้มแข็ง เพื่อที่จะได้สามารถแสดงจุดยืนที่สมควรในยามที่มีสถานการณ์อ่อนไหวต่างๆ เข้ามาท้าทาย เช่นการถูกโจมตีจากสังคม, การใช้งบฯผลิตรายการข่าวที่สูงเกินไป หรือแม้กระทั่งการตัดสินใจยกเลิกข่าวเที่ยงวันอาทิตย์ เป็นต้น

ท้ายที่สุดนี้ ดิฉันขอบอกเล่าประสบการณ์จากการทำงานเลือกตั้งร่วมกับเพื่อนๆ หลายคนว่า ปัญหามีอยู่จริง แต่ก็เป็นธรรมดาของผู้คนที่หลากหลาย ท่ามกลางปัญหาเหล่านั้นมีความงดงามมากมายของคนไทยพีบีเอส ทั้งฝ่ายข่าว ฝ่ายผลิต ฝ่ายเทคนิค ฝ่ายอำนวยการ ฝ่ายประชาสังคม และทุกๆ ฝ่ายที่เกี่ยวข้อง แม้บางคนจะมีปัญหาส่วนตัวกันบ้างแต่เป้าหมายที่มีอยู่ร่วมกัน และการทำหน้าที่ด้วยความเป็นมืออาชีพ ทำให้หลังงานเลือกตั้งเป็นที่ประจักษ์ชัดว่า "ไทยพีบีเอส มีต้นทุนที่มีคุณค่าอยู่ในความเป็นทีม" งานใหญ่ครั้งนั้นสร้างผลลัพธ์และความรู้ใหม่ๆ ให้เราโดยไม่ต้องจ้างคนนอกเพราะดูถูกคนใน อย่างไร้เหตุผล

ก่อนที่งานเลือกตั้งจะเสร็จสิ้นด้วยความสำเร็จ ดิฉันแอบคิดว่า แม้ว่าจะล้มแต่เราก็ยังมีเพื่อนล้มด้วยกันมากมาย ในฐานะกัลยาณมิตร

.............. / บก.กลุ่มข่าวที่ไม่ได้ทรงภูมิ เพียงแต่ทำงานไม่เคยมีวันหยุด

หมายเหตุ(สำคัญ)โปรดอย่านำจดหมายฉบับนี้ไปขยายความขัดแย้งสู่นอกองค์กร"

ขออภัยที่หมายเหตุตอนท้ายไม่สามารถเป็นไปได้ ฮิฮิ แต่อ่านเอาเองแล้วกันว่าความรู้สึกของคนในฝ่ายข่าวเป็นอย่างไร ต่อการแยกรายการตอบโจทย์ออกไป อรพินเธอโวยเรื่องจัดเวร บก.ไม่ยุติธรรม แต่โดนสวนเรื่องรายการตอบโจทย์เป็นชุด

3 เดือน 10 ล้านบาท ฟังเหมือนแพง แต่จัดทุกวัน จันทร์ถึงศุกร์ เดือนละ 22 วัน หารคร่าวๆ ตอนละ 1.5 แสนบาท จะแพงไปไหมก็ต้องไปเทียบมาตรฐานที่ TPBS จ้างคนนอกทำรายการอื่น แต่เท่าที่จำได้ "ตอบโจทย์ประเทศไทย" ก็ยกทีมลงไปทำรายการ 3 จังหวัดชายแดนใต้ยาวนาน 10 วัน ซึ่งเขาจ่ายเองทั้งหมด

ไม่เป็นไร ตอนนี้ภิญโญไปแล้ว "ตอบโจทย์" ก็จะกลับไปอยู่กับฝ่ายข่าว แต่ตอนแรกๆ คนที่อยากทำจะโดดมาทำเองก็น่าเกลียด ได้ยินว่าจะบังคับปวีณมัย บ่ายคล้อย ให้มาทำรายการตอนค่ำคล้อย รับหน้าแทนไปก่อน หลังจากนั้นสักพัก "ตัวจริง" จึงจะโผล่มาเสียบแทนปวีณมัย

กว่าจะตอบสมศักดิ์

การเอา "เสด็จพ่อสมศักดิ์ เจียมฯ" ออกจากเฟซบุคมาขึ้นจอทีวีสาธารณะ ไม่ใช่เรื่องที่ใครจะกล้าทำโดยพลการ

ก็รู้กันอยู่จะสร้างความขัดแย้งแค่ไหน แต่เนื่องจากสมศักดิ์ท้ายิกๆ ให้เอาตัวเองไปออก TPBS บ้างสิ           ทีมงาน "ตอบโจทย์ประเทศไทย" จึงเสนอไปยังผู้บริหาร ซึ่งก็ได้ไฟเขียว โดยในการถ่ายทำก็ยังเพลย์เซฟสุดขีด คือเอาสุรเกียรติ์ เสถียรไทย มาปะหน้า เอา พล.ต.อ.วสิษฐ เดชกุญชร มาปะหลัง เทปสมศักดิ์ถ่ายทำไว้เป็นเดือนแล้ว ถ่ายสมศักดิ์ก่อน แล้วเอาประเด็นที่สมศักดิ์พูดมาให้ พล.ต.อ.วสิษฐหักล้าง พูดจริงๆทำอย่างนี้ไม่ค่อยเป็นกลางนะครับ แต่อย่างว่า เรื่องคอขาดบาดตาย เป็นใครก็เพลย์เซฟไว้ก่อน



แขกรับเชิญรายการตอบโจทย์ตอน "สถาบันพระมหากษัตริย์ภายใต้รัฐธรรมนูญ" จากซ้าย พล.ต.อ.วสิษฐ เดชกุญชร, สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล, สุลักษณ์ ศิวรักษ์, สุรเกียรติ์ เสถียรไทย  (ขอบคุณภาพจากมติชน)

หลังจากนั้น ระหว่างเลือกตั้งผู้ว่าฯ ก็เกิดวิวาทะระหว่ง สศจ.กับ ส.ศิวรักษ์ จนนัดมาประลองกันในวันอาทิตย์ที่ 17 มี.ค.งานครบรอบ 80 ปี อาจารย์ ส.(ซึ่งต้องยกย่องว่าท่านแน่ เป็นปัญญาชนแท้ เชิญคนมาด่าตัวเองฉลองวันเกิด)

"ตอบโจทย์ประเทศไทย" ก็ปิ๊งไอเดีย อย่ากระนั้นเลย เอา สศจ.กับ สศร.มาดวลกันในจอวันที่ 14-15 ก่อนดีกว่า

ท่าน บก.เสริมสุข กษิติประดิษฐ์ โกรธแค้นว่าให้ราคาอะไรกับสมศักดิ์ เชิญมาตั้ง 3 วัน (อ้าว ทีเสธอ้ายมีราคาอะไร ใครทาบทามมาตั้ง 4 วัน แถมยังช่วยแนะนำคำตอบอยู่ข้างหลังอีกต่างหาก ใครก็ไม่รู้นะ)           ในขณะที่พวกสาวก สศจ.มองตรงข้าม ว่า 3 รุม 1 แถมยังด่าภิญโญเป็นสลิ่ม รุม สศจ.อีกคน (ซวยทั้งขึ้นทั้งล่อง)

อย่าลืมว่ากิตติศัพท์ สศจ.เนี่ยใครๆ ก็กลัวนะครับ คือกลัวออกอากาศแล้วจะพากันโดน "พระบารมีถล่ม" สศร.ยิ่งน่ากลัวใหญ่ เพราะถือตัวเป็นผู้จงรักภักดีแล้วพูดตามอำเภอใจ ตอนผมสัมภาษณ์ลงไทยโพสต์แทบลอยด์ฉบับทิ้งท้าย ต้องตัดทิ้งไปเกือบครึ่ง ไม่ผิดกฎหมายหรอกแต่กลัวโดนถล่ม

ฉะนั้นเทปที่จะออกอากาศทั้งหมด ก่อนจะออกโปรโมท ผู้บริหารทุกคนได้ดูแล้ว กรรมการนโยบายทุกคนได้ดูแล้ว ถ้ามีอะไรไม่เหมาะสม ใครเขาจะยอมให้เอาคอไปขึ้นเขียง

แต่แน่นอน นี่เป็นงานของฝ่ายรายการ สำนักรายการ ผู้บริหาร กรรมการ เขาตัดสินใจ เขาเป็นผู้รับผิดชอบ เขาไม่ต้องมาถามคุณเสริมสุข กษิติประดิษฐ์, คุณณาตยา แวววีรคุปต์, คุณบุตรรัตน์ บุตรพรม หรือ        ดร.ณัฏฐา โกมลวาทิน ซึ่งเป็นบรรณาธิการอยู่ในฝ่ายข่าว



ทีมบรรณาธิการข่าวTPBS, จากซ้าย ณาตยา แวววีรคุปต์, เสริมสุข กษิติประดิษฐ์, ณัฏฐา โกมลวาทิน, และ อรพิน ลิลิตวิศิษฎ์วงศ์  บรรณาธิการรายการ "ตอบโจทย์ประเทศไทย"

กรรมการนโยบายทุกคนได้ดูเทปตั้งนานแล้ว เมื่อเกิดปัญหาขึ้นในวันศุกร์ จึงมีมติเอกฉันท์ ของกรรมการเท่าที่อยู่ตรงนั้น ให้ออกอากาศได้ เป็นคำแถลงชัดเจนในเวลาสองทุ่มเศษ

ไล่ชื่อกรรมการให้ดูอีกทีนะครับ พวก สว.งี่เง่าที่ออกมาโจมตีจะได้รู้ว่าคนเหล่านี้เขากลั่นกรองแล้ว และคนเหล่านี้ก็ไม่ใช่เสื้อแดงที่ไหน พวกคุณก็รู้จักกันดี ผมเคยนินทาไปแล้วว่าบางคนก็มาจากเสื้อเหลือง หรือสาย NGO ที่พัวพันกับพันธมิตรด้วยซ้ำ

ร.ศ.มาลี บุญศิริพันธ์, ศิริชัย สาครรัตนกุล, ผศ.จุมพล พูลภัทรชีวิน, รศ.ธีรภัทร สงวนกชกร, ศ.ปราณี ทินกร, ศ.วิริยะ นามศิริพงศ์พันธุ์, สมพันธ์ เตชะอธิก, สมศรี หาญอนันตสุข, สุวรรณา จิตประภัสสร์

ย้อนกลับไปดู อรพิน ลิลิตวิศิษฎ์วงศ์ ผู้เพิ่งลาออกจากอุปนายกสมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย      ด้านสิทธิเสรีภาพ ประชดการที่ไม่สามารถปกป้องสิทธิเสรีภาพของรายการตัวเอง (ในขณะที่สมาคมวิชาชีพสื่อทั้งหลายยังอมเสือกระบากอยู่) เธอเป็นใครมาจากไหน ก็เป็น 1 ใน 21 กบฏไอทีวี อดีตประธานสหภาพแรงงานไอทีวี ที่ถูกปลดในยุคชินคอร์ปนั่นเอง เคยตกระกำลำบากถึงขั้นไปเป็นแม่ค้าขายน้ำส้มคั้น เคยทำงาน ASTV ตั้งแต่สมัยเป็น 11 News 1 ก่อนจะมา TPBS เมื่อ คมช.ยึดไอทีวี

อ้อ แล้วฝากบอกรสนา โตสิตระกูล ที่เรียกร้องให้เอาตัวเองไปสัมภาษณ์ถล่ม ปตท.ด้วยนะว่า รายการ      "ตอบโจทย์ประเทศไทย" เขาอัดเทป ชื่นชม สง่าราศี กรีเซ่น วิพากษ์ ปตท.และกระทรวงพลังงานไว้แล้ว โดยเมื่อวันศุกร์ ที่ม็อบนอกม็อบในบุก TPBS ชื่นชมก็อัดเทปอยู่กับภิญโญนั่นแหละ แต่น่าเสียดาย เทปนี้ไม่ได้ออก เพราะทีมงานถอนตัวไปก่อน ตามคิว จะเป็นซีรีส์พลังงาน ซึ่งแน่นอนว่าเดี๋ยวเขาจะเชิญรสนา แต่ตอนนี้ หมดโอกาสแล้วจ้ะ

ม็อบน่ากลัวจริงหรือ

คืนวันศุกร์ตอนที่ได้ข่าว มีพวก "คนไทยผู้รักชาติ" แห่ไปประท้วงรายการตอบโจทย์ประเทศไทย เจรจากันไม่ได้ ม็อบเรียกระดมคนทางเฟซบุค โดยใช้ถ้อยคำรุนแรง ผมก็ยังคิดว่าสถานการณ์น่ากลัว เพราะรู้กันอยู่ว่าคนที่โกรธแค้นเรื่องสถาบันมักมีอารมณ์รุนแรง

แต่หลังจากลำดับเหตุการณ์ได้ มองย้อนไปก็เห็นว่า เอ๊ะ คนก็ยังมี 20-30 คนเท่าเดิม จนเวลาสามทุ่มเศษ ที่ว่าเรียกคนมา 500-600 มีแต่ราคาคุย ไม่เห็นมีใครมาเพิ่ม ไม่ใช่ม็อบล้อมตึก TPBS เหมือนสมัย            ม็อบเนวินล้อมคมชัดลึกซักหน่อย ม็อบ นศ.มุสลิมเมื่อหลายวันก่อนยังน่าวิตกกว่า



กลุ่ม "คนไทยผู้รักชาติ" เดินทางมาประท้วงรายการตอบโทย์ประเทศไทยที่สถานีไทยพีบีเอส

ก็ไม่ได้เชื่อ น.ส.ซินเทีย เอี่ยมสะอาด แกนนำกลุ่มเสียทั้งหมดหรอกนะครับว่าแค่ไปขอดูเทปรายการก่อน ถ้าสถานียังฉายก็จะกลับไปอย่างสงบ วันจันทร์ค่อยมาใหม่

แต่ต่อให้คน 20-30 คนนี้คุกคาม อาละวาดยังไง ก็ไม่น่าถึงขั้นเป็นอันตรายต่อชีวิตและความปลอดภัยของพนักงาน TPBS เพราะจนก่อนเวลาออกอากาศ 15 นาที ที่ ผอ.สมชัยตัดสินใจ ก็ยังมีคนแค่ 20-30 คนนี้นั่งอยู่ในตึก

ปัญหาในการจัดการตั้งแต่แรกคือ TPBS ส่งรอง ผอ.มงคล ลีลาธรรม ไปเจรจา ซึ่งหลายคนแซวว่า           "ตื่นไฟ" ก็ไม่แปลกหรอก คุณมงคลเป็นรอง ผอ.บริหาร มาจากซีอีโอและกรรมการผู้จัดการใหญ่      ธนาคารไทยเครดิต ไม่ได้มาจากสายสื่อ ทั้งชีวิตแกไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้มาก่อน แถมไปเจอม็อบรักเจ้าถือกระเป๋าแบรนด์เนมเสื้อผ้าราคาแพง (ไม่ใช่ไพร่-ฮา) แกก็เกรงอกเกรงใจเชิญมานั่งในห้องกระจก พร้อมกับแจก "เก้าอี้" คนละตัว ปล่อยให้เขายึดจุดยุทธศาสตร์ไป แล้ว ผอ.สมชัยยังมาบอกว่าตึก TPBS เป็นกระจก เอาก้อนอิฐขว้างก็แตกแล้ว

บก.ฝ่ายข่าวบางคนก็ตื่นไฟไปด้วย เพราะดูช่อง Blue Sky ทั้งด่าทั้งปลุกระดม ตลกไหม ใครบางคนเป็น บก.TPBS แต่วันทั้งวันดูข่าว Blue Sky เปล่า ไม่ได้เลือกสีเลือกข้าง ถ้าคุณเป็น บก.ทีวีสาธารณะ แล้ววันทั้งวันมานั่งดูช่องเล็กกว่าอย่าง Voice TV ผมก็แซวเหมือนกันแหละ

ฝ่ายข่าวเข้ามาผสมโรงในการเจรจา และในการเสนอความเห็น ผอ.สมชัยแม้ปฏิเสธว่าไม่มีการตบเท้ากดดัน แต่ก็ยอมรับเองว่า มาออกันอยู่ในห้อง 10 กว่าคน แต่ไม่มีทีมงานตอบโจทย์



สมชาย สุวรรณบรรณ ผู้อำนวยการสถานี TPBS (ขอบคุณภาพจากมติชน)

"ถามทุกคนอาจจะพลาดไปคนเดียวที่ไม่ได้มาคือทีมงานรายการตอบโจทย์ ผมไม่ได้เช็กทุกคน แต่ว่าฝ่ายข่าว รายการ พีอาร์มาหมด เสียงส่วนใหญ่บอกว่าควรจะถอยเพื่อระงับเหตุ"

ท่านถามความเห็นฝ่ายข่าว ทั้งที่ตอบโจทย์ประเทศไทยไม่ได้สังกัดฝ่ายข่าวแล้ว เอาละ ถ้าถามความเห็นไม่เป็นไรเพราะไม่ใช่ลงมติ แต่ถือว่าคุณสมชัยรับผิดชอบคนเดียวนะครับ ที่ไปฟังผู้ไม่เกี่ยวข้องจนเขว

แล้วจริงหรือเปล่าที่ว่า สุวิทย์ สาสนพิจิตร์ ผู้อำนวยการสำนักรายการและสร้างสรรค์ ผู้รับผิดชอบโดยตรง ก็ไม่ถูกเรียกเข้าประชุมด้วย

นี่เป็นการประชุม การหารือ หรือว่าตบเท้า ผมก็ไม่สามารถฟันธง เพราะไม่ได้อยู่ในวงกับเขาด้วย ไม่รู้หรอกว่าใครชักมีดชักกริชกันยังไง แต่ถ้าภิญโญและทีมงานตอบโจทย์ประเทศไทย ไม่รู้สึกว่ามีแผลเหวอะหวะกลางหลัง พวกเขาก็คงไม่ประกาศถอนตัวยกยวง มติเอกฉันท์เสียด้วย

คือถ้าม็อบมาเป็นร้อยๆ ล้อมตึก น่าอันตรายจริง ทีมงานตอบโจทย์ประเทศไทยก็น่าจะเข้าใจความจำเป็น ไม่มาแง่งอนอะไรหรอก

ที่สำคัญก่อนหน้านั้นมีการประชุมกรรมการนโยบาย ร่วมกับทีมงานตอบโจทย์ ผอ. รอง ผอ. แล้วกรรมการนโยบายมีมติเอกฉันท์ให้ออกอากาศได้ แต่วันเสาร์ยินดีจัดรายการพิเศษ เชิญตัวแทนผู้ประท้วงมาออกอากาศ หรือหาใครมาออกอากาศ

ประชุมกันเป็นทางการแล้วนะครับ เป็นมติบอร์ดแล้ว แต่คุณสมชัยไปเปลี่ยนใจในที่ประชุม (หรือหารือ หรือตบเท้า) อย่างไม่เป็นทางการ โดยไม่มีทีมงานอยู่ด้วย คุณสมชัยใหญ่กว่าบอร์ด?  คุณสมชัยเป็นผู้บริหารแบบไหนที่ปล่อยให้ "ม็อบใน" มาทำให้การตัดสินใจไขว้เขว

หลังจากนั้นก็ยังมีคนในฝ่ายข่าวไป "ขอยืม" เทป เด่น โต๊ะมีนา อ้างว่าจะเอาไปประกอบการทำสกู๊ป          ที่ไหนได้ จะเอามาฉายแทนตอนที่ 5 แต่ไม่กล้าบอกตรงๆ

ใครรับผิดชอบ

อ.ไชยันต์ ไชยพร กัลยาณมิตรของ ผอ.สมชัย (เล่าว่าเคยอยู่ด้วยกันที่อังกฤษ) เรียกร้องว่าคุณสมชัยควรรับผิดชอบด้วยมาตรฐาน BBC ซึ่ง ผอ.BBC เพิ่งลาออกเมื่อเสนอข่าวผิด กล่าวหานักการเมืองล่วงละเมิดทางเพศเด็ก

ในความเห็นผม คุณสมชัยน่าเห็นใจ เป็นคนที่น่าชื่นชม ท่านกล้าหาญมากที่กล้าไฟเขียวให้ทำรายการมาแต่แรก ถ้าคุณสมชัยตัดสินใจอีกอย่าง จะเป็นการ "ฝ่าด่านสำคัญ" เพื่อก้าวไปสู่ความเป็นทีวีสาธารณะอย่างแท้จริง

TPBS มาจากรัฐประหารยึดไอทีวี แล้วก็เอาคนอีกข้างมาทำ เอา "ภาคประชาสังคม" มาครองอำนาจ ในการเสนอข่าว จึงมีแต่ทัศนะข้างเดียว ในการทำรายการ ก็มีแต่ "คนชายขอบ" ที่เข้ามาอยู่ในขอบไม่ได้ซักที

คุณสมชัยเป็นคนที่ แน่ละ ทัศนะอยู่ข้างนั้นอยู่แล้ว ไม่งั้นไม่ได้มาเป็นหรอก แต่คุณสมชายเป็นลูกหม้อ BBC ผ่านการทำงาน "แบบฝรั่ง" จึงไม่คับแคบ พร้อมจะเปิดกว้างให้ TPBS เป็นเวทีของทุกฝ่าย เป็นทีวีสาธารณะอย่างแท้จริง

ซึ่งถ้า "ตอบโจทย์ประเทศไทย" สามารถออกอากาศได้ต่อเนื่องทั้ง 5 ตอน ก็จะเป็นนิมิตของการเข้าสู่ TPBS ใหม่ ทำให้คนอีกข้าง ที่ดู Voice ดู Asia Update อยู่ทุกวันนี้ หันมาให้เครดิตให้ความเชื่อถือ TPBS มากขึ้น

แต่คุณสมชัยก็มาเขวเอา 15 นาทีสุดท้าย ทำให้ทุกอย่างเสียหายหมด ตอนนี้รายการที่ฝ่ายแดงยังดู เห็นจะมีแต่รายการของ ดร.ณัฏฐาเท่านั้น คนที่ดูบอกว่าเพราะเธอน่ารักจัง น่ารักเกินห้ามใจ เลยใช้วิธีดูแบบปิดเสียง (ฮา)

คุณสมชัยมีเวลาทบทวนการตัดสินใจ 15 นาที เพราะทีมงานตอบโจทย์ได้ทักท้วงแล้วว่าถ้าทำอย่างนี้ เสียหาย และพวกเขาจะอยู่ไม่ได้ แต่คุณสมชัยก็ยังตัดสินใจเช่นเดิม

คุณสมชัยเสียไปแล้วครับ ทั้งเสียทีมงานตอบโจทย์ และเสียเครดิต แต่ถ้าถามว่าอยากเรียกร้องให้คุณสมชัยลาออกไหม ผมก็ก้ำกึ่ง เพราะเสียดาย ควานหาคนในวิชาชีพสื่อที่มีทัศนะเปิดกว้างมาบริหาร TPBS ไม่ใช่ง่าย

กระนั้นผมก็คิดว่าต่อจากนี้ไป คุณสมชัยคงทำงานได้ยากเต็มที อย่าลืมว่าคุณสมชัยมาแบบหัวเดียวกระเทียมลีบ ในฝ่ายบริหาร ไปดึงคุณมงคลมาจากแบงก์ พยายามจะสะสางเรื่องระเบียบ บัญชี ในฝ่ายข่าวที่เป็นฝ่ายสำคัญ และมี บก.เต็มไปหมด ตอนนี้ก็ไม่มี ผอ. ก่อเขต จันทเลิศลักษณ์ รักษาการ ผอ.ก็ป่วยอยู่ ฝ่ายข่าวเพิ่งผิดพลาดครั้งสำคัญที่ปล่อยเทปข่าว นศ.มุสลิมออกมาโดยบรรณาธิการไม่กลั่นกรอง

คุณสมชัยจะอยู่ยังไง ในเมื่อ บก.บางคนโพสต์เฟซบุคทำนองว่า เรื่องอย่างนี้ถ้าเป็นสมัย "เฮียสิ่ว" ไม่มีทางเกิดขึ้น บก.บางคนก็วิพากษ์วิจารณ์อยู่ข้างต้นว่าเลือกปฏิบัติ ทำอะไรไม่ปรึกษาหารือ

มีข่าวแว่วๆว่า คุณสมชัยจะดึง "จอบ" วันชัย ตันติวิทยาพิทักษ์ ที่พ้นตำแหน่งรอง ผอ.ไปตามวาระเมื่อ      16 มกราคม กลับมาเป็นรอง ผอ.อีกครั้ง แต่ "จอบ" จะกลับมาได้ไง ในเมื่อโพสต์เฟซบุคว่า

"เมื่อวานไทยพีบีเอส กล้าหาญมากด้วยการจุดดวงไฟเล็ก ๆขึ้นมาท่ามกลางความมืดมิด เพื่อเป็นการเปิดพื้นที่ให้แก่ทุกฝ่ายที่เห็นต่างกัน แต่วันนี้กลับเป่ามันดับด้วยมือตัวเอง เกิดอะไรขึ้นกับทีวีสาธารณะหรือ"

แล้วเสริมสุข (เป๊ปซี่ ตอนนี้ต้องเปลี่ยนเป็น est) ก็สวนทันทีว่า

"....เอาความเห็นท่านวันชัยอดีตรองผอ.ข่าวไทยพีบีเอส มาปะไว้ในหน้า ไม่ชี้แจงเลยจะสับสน..ถามว่าเสรีภาพการเสนอข้อมูลข่าวสารน้อยลงกว่าสมัยที่ท่านวันชัยอยู่หรือเปล่า ผมว่าอันนี้ชัดเจนไม่ได้เกี่ยวกันเลย ลองสอบถามคนที่ทำงาน หากมีปัญหาเรื่องเสรีภาพในการนำเสนองานที่รอบด้าน แล้วนำเสนอไม่ได้ คงเป็นปัญหาใหญ่ ปัญหาที่ผ่านมาเสนอแล้วไม่รอบด้านเกิดปัญหา สำหรับทุกท่านที่ได้ติดตามรายการจากต้นสัปดาห์มาที่เอาเรื่องสถาบันมาพูดคุยเห็นถึงความพยายามของฝ่ายรายการที่ต้องการให้สังคมได้พูดคุย มีทั้งท่านวสิษฐ์ ท่านอจ. ส. ศิวรักษ์ แล้วตามด้านท่านสมศักดิ์ ที่มาทั้งเดี่ยวและดีเบต ลองกลับไปดูย้อนหลังนะครับ มีสาระอะไรมากมายที่ต้องให้ท่านสมศักดิ์ มาแช่ยาวสามวันต่อเนื่องในสัปดาห์ หากเทียบต้นทุนกับสองท่านแรก ห่างกันฟ้ากับเหวครับ สังคมส่วนหนึ่งรวมทั้งผมติดใจเรื่องนี้ครับ ที่ออกไปก็เห็นว่าไม่ได้มีสาระอะไรน่าติดตามมากกว่ามาออกวันเดียว หรือจะทำให้สังคมได้อะไรมากกว่า อยากให้ท่านวันชัยไปดูย้อนหลังครับ ประเภทมาแล้วมาอย่างที่เห็นน่าจะไม่เหมาะสมกับวุฒิภาวะของคนที่เคยเป็นผู้บริหารที่นี่ ..คนที่นี่เขายังสงสัยกันอยู่เลยนะครับว่าอะไรเป็นพื้นฐานของความคิดในการยกข่าวเช้าหกโมงออก ไม่เคยมีการชี้แจงคนข้างใน เป็นสถานีข่าวแต่ยกข่าวเช้าออก คิดบนพื้นฐานของอะไรครับ ..."

คุณสมชัยครับ ผมนึกภาพไม่ออกจริงๆ ว่าคุณสมชัยจะอยู่ต่อไปอย่างไร และจะสร้างเครดิตความเชื่อถือต่อ TPBS ได้อย่างไร จากเดิมที่ถูกมองว่าไม่เป็นสื่อมืออาชีพอยู่แล้ว พอคุณสมชัยจะตั้งลำ ก็ล้มคว่ำเสียอีก และยังเสียทีมงานตอบโจทย์ ที่เป็น "เรือธง" ในภารกิจนี้ไปแล้ว

คุณสมชัยจะดึงทีมงานตอบโจทย์กลับ? โดยศักดิ์ศรีสื่อ ประกาศใน fb มีคนเข้ามาดูเป็นล้าน ใครเขาจะกลับ คุณสมชัยจะเล่นงานฝ่ายข่าวหรือใครก็ตามที่เป็นข่าว "ตบเท้า" เขาก็บอกได้ว่าคุณสมชัยตัดสินใจเอง ยอมรับเอง และปฏิเสธไปแล้วว่าไม่มีการตบเท้า

บ๊ายบาย ทีวีสาธารณะ TPBS ไม่มีทางเป็นอย่าง BBC เพราะที่นี่ประเทศไทย คนไทย นักข่าวไทย



                                                                                    ใบตองแห้ง

                                                                                    19 มี.ค.56



หมายเหตุเพิ่มเติม

กรณีที่ว่า TPBS จ้างทีมงาน "ตอบโจทย์ประเทศไทย" ทำรายการ 3 เดือน 10 ล้าน ตามที่ระบุในอีเมล์ของ บก.คนหนึ่งนั้น ผมได้รับคำชี้แจงเพิ่มเติมว่า นั่นเป็นเพียงข้อเสนอ ในเงื่อนไขที่จัดทำรายการเต็มรูปแบบ คือจะมีสกู๊ปข่าว 3-4 ชิ้น ก่อนเข้ารายการทอล์ค (ซึ่งจะลดเวลาลงเหลือราว 25 นาทีเท่าเดิม) ซึ่งทีมงานต้องจ้างผู้สื่อข่าว ช่างภาพ เช่ากล้องและอุปกรณ์เองทั้งหมด ราว 4 ทีม

ข้อเสนอนี้ยังไม่ได้รับการอนุมัติ เพราะต้องนำไปประเมินราคา เปรียบเทียบมาตรฐานที่ TPBS จ้างทำรายการอื่นๆ แต่ในระหว่างนี้ TPBS ให้ทีมงานตอบโจทย์ประเทศไทยทำรายการไปก่อน ในรูปแบบทอล์คอย่างเดียว ซึ่งก็ยังไม่ได้ตกลงกันเลยว่า ในรูปแบบนี้จะคิดตอนละเท่าไหร่ และเท่าที่ทำมา 2 เดือนครึ่ง ภิญโญกับทีมงานก็ยังไม่ได้สตางค์จาก TPBS แต่ยินดีทำไปก่อน

แต่ในระหว่างนี้เอง ที่เอกสารข้อเสนอซึ่งเวียนไปตามฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ถูกนำมาเผยแพร่ในฝ่ายข่าว โดยไม่ได้พูดถึงรายละเอียดทั้งหมด ว่ามีการเพิ่มงานอย่างไรบ้าง และก็ถูกกระพือสร้างความไม่พอใจว่าจ้างคนนอกแพงเกิน

puiey

มันยังคิดว่าเรื่องสถาบัน เอามาพูดจาบจ้วงแล้วจะมีคนเข้าข้างอีกเหรอ หยุดได้แล้วพวกล้มเจ้า ธงชาติไทย มีสามสี หมายถึงอะไรก็คงรู้ดีกันทุกคน แล้วจะไม่รักสถาบันได้ยังไงหละครับ ถามตัวเองดีกว่าว่าทำไมอยากจะเกลียดสถาบันกันนัก
โกธรกับแฟน ขึ้นสเตตัส "โสด" ถ้าวันนึง แม่มึงโกธร มึงไม่ขึ้นสเตตัส "กำพร้า" เลยเหรอ