ข่าว:

ทดลองใช้งานบอร์ดตะลุง ที่อยู่ในขั้นตอนการกู้คืนข้อมูล เบื้องต้นมีแต่กระทู้ (ข้อความ) กำลังกู้รูปภาพ ไฟล์แนบต่าง ๆ คาดว่าจะทยอยสมบูรณ์ภายในไม่ช้า

Main Menu

เรื่องจริง เรื่องผี เรื่องที่ต้องอ่าน

เริ่มโดย นายหัว, 17:08 น. 20 ก.พ 52

นายหัว


                    ผีถูกรถชนตาย ๓๓ ปี

เล่าเรื่อง : คุณเชาวลิต - คุณอรวิภา สาครวิมล จ.สมุทรสาคร
รวบรวมโดย : เมตตาเจโตวิมุติ

เรื่องที่ท่านจะได้อ่านต่อไปนี้เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริง
เมื่อประมาณเดือนกันยายน พ.ศ. 2549 ที่จังหวัดสมุทรสาคร

เรื่องมีอยู่ว่า...
วันหนึ่ง น้องชายซึ่งเป็นลูกของน้าสาวของข้าพเจ้า
โทรศัพท์มาขอความช่วยเหลือ
บอกว่าภรรยาเขามีอาการปวดท้องอย่างรุนแรง
ไปหาหมอรักษาที่โรงพยาบาลสมุทรสาคร
หมอได้ตรวจอย่างละเอียดเอ๊กซ์เรย์ แล้วก็หาสาเหตุไม่พบ
ได้แต่ฉีดยาบรรเทาปวดเท่านั้น

เป็นอย่างนี้มาร่วมเดือน
เขาจึงอยากจะย้ายโรงพยาบาลแต่ไม่มีเงิน
จึงโทรมาขอความช่วยเหลือ
ข้าพเจ้ารับปากว่าจะช่วยเหลือเรื่องเงินในการรักษา

แต่พอดีข้าพเจ้าได้รู้จัักและติดตามอาจารย์อยู่ท่านหนึ่งมา 5-6 ปีแล้ว
ท่านเป็นฆราวาส ที่รักษาศีลไหว้พระสวดมนต์อย่างเคร่งครัด
สามารถรักษาคนเจ็บป่วยที่ไปรักษาหมอหลวงแล้วไม่หาย
ถ้าผู้นั้นหมดกรรมได้รักษากับท่าน
ผู้นั้นก็จะหายจากอาการเจ็บปวด หรือ ทุเลาลงได้แล้วแต่บุญ – กรรม
จึงแนะนำให้ภรรยาของน้องชายมาลองรักษากับอาจารย์ดูก่อน
ถ้าไม่หายจริงๆ ค่อยย้ายโรงพยาบาล

เมื่อมาพบอาจารย์ ภรรยาของเขาได้แต่ร้องไห้ตัวสั่น
เห็นดังนั้น ข้าพเจ้าก็คิดว่าในร่างกายของเขาคงไม่ได้เจ็บปวดธรรมดา
ด้วยความสงสารและอยากช่วยเหลือ

ข้าพเจ้าจึงถามเขาว่า...
อยากให้เราช่วยก็ขอให้สื่อสารออกมาให้รู้
ตอนหลังเขาก็ร้องไห้อย่างน่าเวทนาเหมือนคนกำลังทุกข์ทรมาน

ข้าพเจ้าก็เอามือลูบหลังเขาด้วยความสงสาร
บอกว่าจะช่วยเหลือเขาทุกอย่างด้วยความบริสุทธิ์ใจ
ก่อนหน้านี้ที่เขาไม่ยอมพูดกับใคร
เพราะเขากลัวคนมีวิชาจะดึงจิตเขาไปเป็นบริวาร

เหมือนเขารู้ว่าเราจริงใจ เขาจึงยอมบอก
ตอนแรกคิดว่าเขาพูดไม่ได้ จึงให้เขาเขียนใส่กระดาษ
ทุกวันนี้ยังเก็บไว้ เขาเขียนชื่อ นามสกุล บ้านเลขที่อย่างละเอียด
ร้องไห้บอกว่าอยากกลับบ้านไปหาพี่อ แม่ พี่ น้อง

เขาค่อยๆเล่าหลายครั้งกว่าจะรวบรวมเรื่องราวให้ครบ
เพราะเวลาเขามามีอาการเหมือนคนทุกข์ทรมาน
รวมทั้งจะทำให้ภรรยาของน้องชายปวดท้องมากทุกครั้งที่เขามา
เราจึงถามเขา เก็บข้อมูลทีละเล็กละน้อย

สรุปได้ว่า เขาเป็นคนจังหวัดน่าน มาทำงานเป็นช่างไม้
สร้างวัดเกตุมวดี เมื่อปี พ.ศ.๒๕๑๕ โดยที่ทางบ้านไม่ทราบ
ตอนนั้นเค้าอายุ ๑๗ ปี พอมา พ.ศ.๒๕๑๙ เขาโดนรถชนตาย
ขณะยืนซื้อของอยู่ข้างทางหน้าวัดบางปิ้ง เขาเช่าบ้านอยู่แถวนั้น

เขาเล่าว่า ตอนนั้นมืดแล้ว รถกะบะพุ่งชนเขาอย่างแรง
โดนทับที่ท้องกลางลำตัว แหลกละเอียดตายคาที่
จึงเป็นเหตุให้ภรรยาของน้องชายปวดท้อง
เวลาเดินต้องเอามือกุมท้องเหมือนคนไส้จะไหลออกมาอย่างนั้น

ทางบ้านก็ไม่ทราบว่าเขาตายแล้ว เพราะเขามาทำงานกับเพื่อน ๒ คน
แต่แยกกันอยู่คนละที่ นั่นหมายถึงเขาตายไปแล้ว ๓๓ ปี
ถ้ายังมีชีวิตอยู่ตอนนี้เขาก็อายุประมาณ ๕๐ ปี
และเขายังไม่หมดอายุขัย

ที่สำคัญเขาบอกว่าตอนมีชีวิตอยู่ไม่ค่อยได้ทำบุญทำทานเอาไว้
จึงยังไม่ไปไหน เขาจึงทุกข์ทรมานกับความเจ็บปวดจากการโดนรถทับ
วนเวียนอยู่จนมาอาศัยอยู่ที่สะพานท่าจีนใกล้กับวัดกลางอ่างแก้ว
ซึ่งภรรยาของน้องชายต้องผ่านไปมาทุกวัน

เขายังบอกอีกว่าเหตุที่อยากมาเจอข้าพเจ้ากับสามี
เพราะเขาเคยได้รับอานิสงส์ผลบุญจากการ
'สวดมนต์เมตตาใหญ่ แบบพิสดาร'
แล้วแผ่เมตตาของข้าพเจ้ากับสามีอยู่ครั้งหนึ่ง

เขาเล่าให้ฟังอย่างน่าสงสารว่า เวลามีคนแผ่เมตตาส่งบุญมาให้
พวกเขาจะต้องแย่งกัน เขาบาดเจ็บแย่งไม่ไหว
ก็ไม่ได้รับเขาบอกว่าทุกคนอยากได้ แต่จะไม่ได้กันทุกคน
ต้องนั่งกอดเข่ารอ (เขาทำท่าประกอบด้วย) แล้วลุกขึ้นแย่งกัน
เวลาได้รับผลบุญจะเป็นแสงสีเหลืองทองส่องลงมาที่ตัวเขา

ดังนั้น เขาจึงพยายามที่จะได้เจอข้าพเจ้ากับสามี
โดยการเกาะมากับร่างของภรรยาของน้องชาย
แล้วดลใจให้น้องชายโทรศัพท์หาข้าพเจ้าทั้งที่ก่อนหน้านี้
ข้าพเจ้ากับน้องชายคนนี้ก็ไม่ค่อยได้ติดต่อกัน

หลังจากนั้นข้าพเจ้ากับสามีก็รับปากว่าจะพาเขาไปส่งกลับบ้าน
แต่ขอให้เขารับปากว่า
ถ้าถึงบ้านแล้วต้องทำให้ภรรยาของน้องชายหายจากอาการปวดท้องอย่างเด็ดขาด
เขาก็รับปาก

ระหว่างนั้น เขาได้มาเข้าฝันภรรยาของน้องชายว่า
ให้หาศาลพระภูมิไม้และรูปปั้นผู้ชายแล้วปิดทอง
เพราะเมื่อกลับถึงบ้านเขาจะได้อาศัยอยู่ในนั้น แล้วนำไปลอยน้ำ

ที่ให้ปิดทองเพราะเขาบอกว่าไปอยู่ในน้ำจะได้สว่างไม่ต้องใช้เทียน
เราก็ทำตามทุกอย่าง นอกจากนั้น
เขายังให้จัดซื้อเสื้อผ่าพร้อมเงิน 90 บาท
อธิษฐานให้จิตวิญญาณทั่วไปที่มีอีกมากมาย
เพราะบางคนไม่มีเสื้อผ้าใส่หรือไม่ก็เก่ามากแล้ว
แล้วนำไปบริจาคให้คนยากไร้

ช่วงเวลาที่ได้พูดคุยกับเขาได้รู้อะไรมากมาย
เช่น คนจีนชอบเผากระดาษส่งของให้บรรพบุรุษเขาบอกว่า
จริงๆแล้ว เขาไม่ได้รับหรอกต้องไปซื้อหาสิ่งของที่จะส่งให้
แล้วนำมาอธิฐาน เอ่ยชื่อให้คนรับนำไปถวายเป็นสังฆทาน
แล้วนำไปบริจาคให้คนยากจนให้ได้ใช้ประโยชน์จริง
บรรพบุรุษจึงจะได้รับ

ใครทำความดี ทำบุญมากๆ สวดมนต์ภาวนา
ผู้นั้นจะมีเกราะเป็นแสงสีเหลืองทองสุกสว่างป้องกันตัว
ไม่มีใครทำ อะไรได้

หลังจากนั้นประมาณ ๑ สัปดาห์
ข้าพเจ้ากับสามีและญาติๆ ก็ออกเดินทางไปจังหวัดน่าน
ก่อนหน้านั้นจากการช่วยเหลือของลูกศิษย์ของอาจารย์ที่ข้าพเจ้านับถือ
ได้เช็คข้อมูลของเขาก็ปรากฎว่ามีชื่อ นามสกุล บ้านเลขที่นั้นอยู่จริง
แต่ไม่ได้ติดต่อกับทางการมานานแล้วจนกลายเป็นคนสาบสูญไปแล้ว
จึงทำให้พวกเรามั่นใจว่าเราคงไม่โดนเขาหลอกไปถึงจังหวัดน่าน

ไปถึงประมาณบ่าย ๒ โมงกว่า วนหาบ้านเขาอยู่นาน
เขาก็พยายามนึก เขาบอกว่าผ่านไป ๓๐ กว่าปีแล้ว
ทุกอย่างเปลี่ยนไปมาก
พวกเรานัดกับลูกศิษย์กับอาจารย์ที่หน้าวัดภูมินทร์

เมื่อเขาเห็นวัด เขาทำท่าดีใจอยากจะลงไปกราบพระ
เราก็พาลงไปแต่เขาเข้าโบสถ์ไม่ได้
ต้องให้อาจารย์อธิฐานขอพระประธานในโบสถ์ให้
เขาจึงเข้าไปกราบได้ ข้าพเจ้า ส่งเงินให้เขา ๑๐๐ บาท
บอกว่ายกเงินให้เขาเอาไปหยอดตู้ทำบุญ
จะได้มีผลบุญติดตัวกลับไป

ลูกศิษย์อาจารย์ก็ช่วยขับรถนำพวกเราไปบ้านเขา
พอใกล้จะเจอบ้านเขา เขาก็บอกว่าให้รีบพาเขาไปส่ง
เพราะวันนั้นเป็นวันพระ เดี๋ยวท่านไม่ให้กลับ เขาบอก
เราจึงนิมนต์พระสงฆ์จากวัดพระธาตุแช่แห้ง
มาสวดส่งวิญญาณให้เขาตามที่เขาขอ

พอทำพิธีเสร็จก็เอาศาลพระภูมิพร้อมกับมอเตอร์ไซด์ (เด็กเล่น)
ที่เขาอยากได้สมัยมีชีวิตอยู่ลอยลงไปในแม่น้ำน่าน
ใกล้กับบ้านของเขาที่ตอนเล็กๆ เขาเคยว่ายน้ำเล่น

จากนั้นเขาก็มาผ่านร่างภรรยาน้องชายอีกครั้ง
เขาร้องไห้น้ำตาไหล บอกว่าดีใจมากที่ได้กลับบ้าน
และรู้สึกเสียใจที่จะไม่ได้เจอกับพวกเราอีกแล้ว
ข้าพเจ้าเองก็อดใจหายไม่ได้
ได้แต่บอกว่าจะทำบุญสวดมนต์อุทิศไปให้
คอยรับนะเกิดชาติหน้าค่อยมาเจอกันใหม่ก็แล้วกัน

และบอกเขาอีกว่าทุกคนในที่นี้ดีใจที่ได้ช่วยเหลือเขา
เขายกมือไหว้ขอบคุณทุกคน
พร้อมกับร้องไห้ก้ม ลงกราบข้าพเจ้าที่ตัก
ข้าพเจ้ารู้สึกตื้นตันใจมาก หันไปหาสามีของข้าพเจ้า
แล้วบอกให้เขาขอบคุณเพราะเขาเป็นคนสำคัญที่สุด
เป็นทั้งคนขับรถมาส่งจากมหาชัยจนถึง จังหวัดน่านภายในวันเดียว

แล้วยังออกค่าใช้จ่ายทั้งหมดโดยไม่ได้หวังผลตอบแทน
เขาน้ำตาไหลก้มลงกราบที่เท้าของสามีของข้าพเจ้า
ภาพนั้นทำให้ทุกคนอดกลั้นน้ำตาไว้ไม่ได้จริงๆ
แล้วเขาก็ล้มลงที่ตักข้าพเจ้าแล้วจากไป

นับจากวินาทีนั้นภรรยาของน้องชายก็มีความรู้สึกเบาเนื้อเบาตัว
และที่สำคัญไม่ได้มีอาการปวดท้องอีกเลย
นั่นคือสิ่งที่เขารับปากไว้แล้วทำตามจริงๆ
จนถึงทุกวันนี้เวลาข้าพเจ้านึกถึงเหตุการณ์นั้นเมื่อไหร่
ก็อดที่จะมีความรู้สึกอิ่มเอมใจเสียทุกครั้ง
เพราะเชื่อว่า คงไม่เคยได้มีใครได้มีโอกาสช่วยเหลือจิตวิญญาณ
ที่ทนทุกข์ทรมานมากกว่า ๓๐ ปีให้ได้กลับบ้านเกิด

เรื่องทั้งหมดที่ท่านได้อ่านมานี้
อาจจะเป็นเรื่องเหลือเชื่อเกินจริง
แต่ข้าพเจ้าขอรับรองว่าเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริง
และสาเหตุที่ข้าพเจ้านำมาเขียนบอกเล่ากับท่าน
ให้ทำความดี ทำบุญทำทานสร้างกุศล
ไหว้พระสวดมนต์เสียตั้งแต่ตอนมีชีวิตอยู่

แล้วแผ่เมตตาให้ตัวท่านเอง ให้แก่เทพ เทวาประจำตัวท่าน
เทพเทวาจะได้มีบารมีสูงพอที่จะช่วยเหลือท่านในยามคับขัน
ให้แก่ผู้อื่นตามแต่ใจท่าน
ยิ่งแผ่ยิ่งเพิ่มพูนมากมายทวีคูณ

ข้าพเจ้าขอให้อานิสงส์ผลบุญแห่งความดี
ที่ท่านจะได้สร้างต่อไปนับจากนี้
ขอจงส่งถึงเจ้าของเรื่องโดยตรง คือนายสมบูรณ์ ภูมินทร์
จิตวิญญาณแห่งลุ่มน้ำน่าน
ที่แม้เป็นเพียงจิตวิญญาณก็ยังรักษาคำพูด
รวมทั้งผู้เกี่ยวข้องกับการช่วยเหลือนายสมบูรณ์ ภูมินทร์ ทุกคน

โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับตัวผู้อ่านเอง
เพราะแค่ท่านได้อ่านไม่ได้ประสพกับตัวเองจริงๆ
ท่านยังเกิดแรงบันดาลใจในการทำความดี
ดังนั้น ก็ขอให้สิ่งดีๆที่ท่านจะได้ทำ
ส่งผลให้ท่านพร้อมทั้งคนที่ท่านรักทุกคน
มีแต่ความสุข ความเจริญ
พบเจอแต่สิ่งดี คิดหวังสิ่งใดในทางที่ดี
ก็ขอให้สมปรารถนาทุกประการทั้งภพนี้
และภพหน้าด้วยเทอญ


ขอให้ท่านที่อ่านส่งต่อไปเพื่อเป็นการบอกบุญด้วย 
ขอขอบพระคุณ
จากใจคนชาวพุทธ 



,มุมหมอน....

.....สาธุ...สาธุ....เป็นเรื่องที่ดีมากเลยค่ะ    เราทำดี แล้วแนะนำให้คนอื่นทำดีดว้ย ขอบคุณมากเลยค่ะ..

เนส ป๊อป

อ้างจาก: ,มุมหมอน.... เมื่อ 19:50 น.  13 ก.ค 52
.....สาธุ...สาธุ....เป็นเรื่องที่ดีมากเลยค่ะ    เราทำดี แล้วแนะนำให้คนอื่นทำดีดว้ย ขอบคุณมากเลยค่ะ..

บิ๊กจอน

19 เรื่องผี ๆ ใน หาดใหญ่ และ สงขลา

1. หน้าโรงเรียนอุดมศึกษาพานิช......สมัยก่อนล่วงผ่านเลยมามีเรื่องเล่ากันปาก ต่อปากจากผู้สูงวัยว่าที่เชิงสะพานตอนเช้าตรู่(ราวตี 4-6 โมงเช้า)มักจะมีสาวสวยผมยาวผิวขาวมากๆ  ใส่ชุดขาวมายืนโบกรถอยู่  หากใครจอดรถรับ  เธอจะหายไปพร้อมกับความซวย  หรือเรื่องร้ายๆที่เข้ามาเยือนคนดวงซวยคนนั้น...บรื๋ออออ

2. บริเวณถนนศรีภูวนารถ มีซอยหลายซอยมากๆ  มีอยู่ซอยหนึ่งคือซอย 12  ซอยนี้เองมีโรงเก็บหัวหอมร้างอยู่ซอยหนึ่ง  เล่าลือกันว่าผีดุมากๆ  มีเรื่องเล่าว่าเมื่อหลายสิบปีก่อนมีลูกจ้างโรงเก็บหัวหอมถูกบานประตูเหล็ก ตกใส่ ทับจนร่างกายเเหลก เละทั้งตัว  ไม่มีใครสามารถจะนอนค้างคืนในโรงเก็บหัวหอมร้างซอย 12 ได้เพราะถูกหลอกกันมานับไม่ถ้วนเเล้ว

3. สะพานรถไฟ(มีราวเหล็ก)ที่ตั้งอยู่ในบริเวณบ้านน้ำน้อย  เคยมีคนตายกว่า 400 ศพ  ที่สำคัญเป็นการตายโหง ในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2  โดยเชื่อกันว่าที่นี่เฮี๊ยนมาก  คนเฒ่าคนแก่หลายคนเรียกสะพานรถไฟแห่งบ้านน้ำน้อยว่าสะพานสายมรณะ  บ้างก็ว่าเป็นสะพานผีตายโหง  เคยมีเรื่องเล่าในอดีตว่า  เคยมีกลุ่มคนมายืนโบกรถอยู่ที่แถวๆสะพานรถไฟดังกล่าว  โบกรถเพื่อจะไปสงขลา  พอรถให้ขึ้นมาปรากฏว่าระหว่างขับกลุ่มคนดังกล่าวก็อันตรธานหายไปอย่างไร้ ร่องรอย  ทำเอาคนขับรถถึงกับจับไข้ไปหลายวัน

4. ซอยๆหนึ่งข้างวัดโคกนาว กับห้างโลตัส เด็กหาดใหญ่เรียกกันว่า...." ซอยคุณยายสปีด " เชื่อกันว่าหากขับรถมอเตอร์ไซด์เข้ามาในซอยคนเดียวหลังเที่ยงคืนในคืนเดือน มืดเเล้วจะเจอกับผีคุณยายสปีดหลอกเอา  ด้วยการกระโดดขึ้นมาซ้อนท้ายมอเตอร์ไซด์  ใครดวงซวยอาจถึงตายได้

5. ถนนสายหาดใหญ่-สงขลา(สายใหม่)ก่อนถึงปั้นน้ำมันมีเรื่องสยองเล่าว่า  เคยมีกลุ่มรถซิ่งถูกสายสลิงที่ขึงไว้กับต้นไม้ใหญ่ 2 ข้างทาง  ตัดเอาคนนั่งซ้อนท้ายซึ่งเป็นผู้หญิงจนหัวขาดมาเเล้ว.........เชื่อกันว่า หากขับรถมาตอนกลางคืนเเล้วเห็นคนขับมอเตอร์ไซด์ไม่มีหัว.....อย่ามอง หรือชี้มือไปหา  เพราะท่านอาจจะซวยเอาได้

6. บริเวณเปิดท้ายกรีนเวย์(ข้างป่าช้าโคกโพธิ์).......เเต่เดิมเป็นวังน้ำขนาด ใหญ่  ชาวบ้านคลองเรียนเรียกกันว่า " วังน้ำดำ "  เชื่อว่าเป็นดินเเดนอาถรรณ์ที่ผู้มีวิชาอาคมมักมาลองปล่อยของกัน

7. วัดโคกนาว......สมัยก่อนเรียก " โคกเน่า "  เพราะเคยมีการฝังศพกันเป็นจำนวนมาก  เเต่ปรากฏว่ามีน้ำท่วงขังในบริเวณดังกล่าวในปีหนึ่ง  ชาวบ้านเลยจำต้องนำศพไปผูกติดเอาไว้กับกิ่งไม้ใหญ่  บ้างก็ว่ามีนายพรานหลายคนไปยิงสัตว์ในโคกเน่า  ถูกซากศพที่เน่าเปื่อยตกใส่จนขวัญหนีตามๆกัน  ผู้เขียนเคยสัมภาษณ์ผู้เฒ่าผู้เเก่ท่านหนึ่ง  ท่านกรุณาเล่าให้ฟังว่า.....หากมืดค่ำจะไม่ยอมเดินทางผ่านโคกเน่าเป็นอันขาด เพราะผีที่นี่หลอกเก่งที่สุด

8. หน้าสวนสาธารณะเทศบาลนครหาดใหญ่..........เชื่อกันว่าเฮี๊ยนน่าดูชม...... เพราะจะต้องมีคนถูกรถชนตาย หรือรถทับตายทุกปี  หลายคนบอกว่าเขาต้องการ  " ตัวตายตัวเเทน "

9. หน้าวิทยาลัยเทคนิคหาดใหญ่......บริเวณใต้สะพานลอยหน้าวิทยาลัย  เชื่อกันว่ามีผีเฝ้าอยู่ใต้สะพานลอย.....ใครดวงถึงฆาตจะถูกผีผลักให้รถชน เพื่อเป็นตัวตายตัวเเทนตน(เด็กเทคนิคหาดใหญ่เล่ากันภายใน)

10. เจ้าที่ที่มหาวิทยาลัยทักษิณเด็กที่นี่เรียกกันว่า......" ทวดเลียบ "  เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ของที่นี่  เชื่อกันว่าหากใครขวัญอ่อน หรือต้องการเจริญก้าวหน้าในการเรียน หรือการงานด้านต่างๆให้บูชาท่านด้วยยาคูลท์ เท่านั้น

11. หน้าตึกเรียนอาคาร 13 ภายในมหาวิทยาลัยทักษิณ  เชื่อกันว่ามีความเฮี๊ยนระดับสูงมากๆ  เเละที่หน้าตึกเรียนอาคาร 13 นี้เองที่มีฮวงซุ้ยขนาดใหญ่ตั้งอยู่หน้าตึก(น่าจะเป็นตึกเรียนตึกเดียวใน ประเทศไทยที่มีฮวงซุ้ยตั้งอยู่ด้านหน้า)  เล่าลือกันว่าบางครั้งดึกๆจะมีคนเดินไปเดินมาที่หน้าฮวงซุ้ย  มองนานๆเเล้วท่านก็จะหายไป

12. ภายในมหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา  เชื่อกันว่าสระน้ำหน้าอาคารตึกอำนวยการหลังเก่า.........เคยมีเด็กผู้หญิง ที่มาเข้าค่ายที่นี่จมน้ำตาย  เธอมักชอบออกมาเล่นงานคนที่ดวงถึงฆาตด้วยการดึง หรือลากลงไปในน้ำ

13. ภายในมหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา  อาคารหอสมุด(หลังเก่า).........เชื่อกันว่าที่ บล็อก ฮ. นกฮูก  มีดวงวิญญาณของนักศึกษาที่นี่สิงอยู่  ท่อนบนเป็นผู้ชายใส่ชุดช่างอุตสาหกรรม  ท่อนล่าง........ไม่มี !!!

14. เเถวๆท้ายวัดคลองเรียน........ในอดีตยังมีต้นยางใหญ่อยู่ต้นหนึ่ง  บนต้นยางปรากฏเป็นฝูง "ชิน" จำนวนมากลอยอยู่(ชิน  หลายคนเชื่อว่าเป็นผีชนิดหนึ่ง รูปลักษณะเป็นดวงไฟสีขาวขุ่นใหญ่ประมาณเท่าลูกฟุตบอล-1 เมตร) ปัจจุบันเชื่อว่าต้นยางใหญ่ดังกล่าวไม่มีเเล้ว  เเละน่าจะเป็นสถานที่ตั้งของหมู่บ้านร่มเย็น(ตรงบริเวณไหนไม่อาจคาดเดาได้ เเน่ชัด)

15. รถเมล์สายหาดใหญ่-สงขลา(เด็กหาดใหญ่เรียก รถโพธิ์ทอง)......เชื่อกันว่ามีรถโพธิ์ทองอยู่คันหนึ่งมักปรากฏหญิงสาวในชุด นักศึกษา  ผมยาว  เธอมักชอบนั่งอยู่เก้าอี้เกือบท้ายสุดในยามหัวค่ำ  พอมองไปนานๆเธอจะหายไป

16. หลังวัดคลองเเห  ตำบลคลองเเห  อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา.......เชื่อกันว่ามีเนินดินสูงอยู่เนินหนึ่ง เรียก...." โคกนกคุ่ม " ภายในเนินดินว่ามีทรัพย์สมบัติฝังอยู่  เเละมีผีนานาชนิดเฝ้าดูเเล  อาทิ ผีปลาหัวกระโหลก

17. เเถววัดคูเต่า ตำบลเเม่ทอม สงขลา(วัดคูเต่าหลังเเรก....วัดสระเต่า)เคยมี "เสือสมิง" อาศัยอยู่ใกล้บริเวณวัดได้เข้าทำร้ายสามเณรมรณภาพ 1 รูป คือสามเณรถูกกัดจนศีรษะขาดและถูกกินเป็นอาหารเป็นที่เล่าลืออย่างสยดสยอง ต่างๆนานา(เสือสมิง คือ เสือร้ายที่เชื่อกันว่าเกิดจากอิทธิฤทธิ์ของวิญญาณร้ายที่แปลงร่างขึ้นมา)   

18. วัดโลการาม  บ้านสะทิ้งหม้อ  สิงหนคร สงขลา...........มีเจ้าที่ประจำวัดเป็นพญางูจงอางขนาดใหญ่  เรียก " ทวดตาหลวงรอง " เชื่อว่าใครบูชาเเล้วจะเจริญก้าวหน้าในด้านต่างๆ.....นอกจากนี้ยังเชื่ออีก ด้วยว่าหากใครจะเข้ามาขโมยทรัพย์สมบัติของทางวัดจะโดนงูทวดเล่นงานจนต้องหนี กระเจิงทุกรายไป

19. หน้าอุโบสถวัดพรุเตาะ  หาดใหญ่  สงขลา มีต้นโพธิ์อยู่ต้นหนึ่ง........เชื่อว่าต้นโพธิ์นี้เเต่เดิมคือเจ้าอาวาสวัด พรุเตาะ  ครั้งหนึ่งท่านได้ใช้น้ำมันราดเเละเผาตนเองจนมรณภาพ  เเล้วท่านก็ได้เกิดใหม่เป็นต้นโพธิ์หน้าอุโบสร(ชาวบ้านเขาเชื่อกัน)
กรุณาส่งต่ออีก  25  คน  ไม่เช่นนั้นผีจะหลอกคุณ



คุณาพร.

รู้สึกเรื่องผีๆที่ผมเขียน(จากประสบการณ์เก่าๆ)ถูกก๊อปไปลงหลายเว็บเลย  อิอิ   

ปล.   ใหม่สุดนี่เลย(ฮา)   ;D


รวมเรื่องผี.........ในจังหวัดสงขลา ภาค 2 !!!!(เชื่อก็ได้.....ไม่เชื่อก็ได้)

เรื่องที่จะนำมาเล่าต่อจากนี้เป็นเรื่องที่ผู้เขียนได้รับทราบจากการออกเดินทางไปทำงานวิจัยตามสถานที่ต่างๆในจังหวัดสงขลา  เเน่นอนล่ะว่าการออกเก็บข้อมูลงานทางไทยคดีศึกษาในเรื่องต่างๆ ตามสถานที่ต่างๆย่อมต้องได้รับทราบข้อมูลทั้งเชิงประจักษ์ เเละความเชื่อในเเนวทางเฉพาะถิ่น  อาทิ ความเชื่อเกี่ยวกับเรื่องภูติผี เเละดวงวิญญาณ(ลัทธิวิญญาณนิยม)  เพื่อนๆหลายๆคนของผู้เขียนเลยขอให้ทำการรวบรวมนำมาเล่าสู่กันฟัง(บ้าง)  เพื่อเป็นประสบการณ์เเลกเปลี่ยนกัน

ปล.  เชื่อก็ได้.....ไม่เชื่อก็ได้..........เเล้วเเต่จะคิดนะครับ


1. หน้าโรงเรียนอุดมศึกษาพานิช......สมัยก่อนล่วงผ่านเลยมามีเรื่องเล่ากันปากต่อปากจากผู้สูงวัยว่าที่เชิงสะพานตอนเช้าตรู่(ราวตี 4-6 โมงเช้า)มักจะมีสาวสวยผมยาวผิวขาวมากๆ  ใส่ชุดขาวมายืนโบกรถอยู่  หากใครจอดรถรับ  เธอจะหายไปพร้อมกับความซวย  หรือเรื่องร้ายๆที่เข้ามาเยือนคนดวงซวยคนนั้น...บรื๋ออออ

2. บริเวณถนนศรีภูวนารถ มีซอยหลายซอยมากๆ  มีอยู่ซอยหนึ่งคือซอย 12  ซอยนี้เองมีโรงเก็บหัวหอมร้างอยู่ซอยหนึ่ง  เล่าลือกันว่าผีดุมากๆ  มีเรื่องเล่าว่าเมื่อหลายสิบปีก่อนมีลูกจ้างโรงเก็บหัวหอมถูกบานประตูเหล็กตกใส่ ทับจนร่างกายเเหลก เละทั้งตัว  ไม่มีใครสามารถจะนอนค้างคืนในโรงเก็บหัวหอมร้างซอย 12 ได้เพราะถูกหลอกกันมานับไม่ถ้วนเเล้ว

3. สะพานรถไฟ(มีราวเหล็ก)ที่ตั้งอยู่ในบริเวณบ้านน้ำน้อย  เคยมีคนตายกว่า 400 ศพ  ที่สำคัญเป็นการตายโหง ในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2  โดยเชื่อกันว่าที่นี่เฮี๊ยนมาก  คนเฒ่าคนแก่หลายคนเรียกสะพานรถไฟแห่งบ้านน้ำน้อยว่าสะพานสายมรณะ  บ้างก็ว่าเป็นสะพานผีตายโหง  เคยมีเรื่องเล่าในอดีตว่า  เคยมีกลุ่มคนมายืนโบกรถอยู่ที่แถวๆสะพานรถไฟดังกล่าว  โบกรถเพื่อจะไปสงขลา  พอรถให้ขึ้นมาปรากฏว่าระหว่างขับกลุ่มคนดังกล่าวก็อันตรธานหายไปอย่างไร้ร่องรอย  ทำเอาคนขับรถถึงกับจับไข้ไปหลายวัน

4. ซอยๆหนึ่งข้างวัดโคกนาว กับห้างโลตัส เด็กหาดใหญ่เรียกกันว่า...." ซอยคุณยายสปีด " เชื่อกันว่าหากขับรถมอเตอร์ไซด์เข้ามาในซอยคนเดียวหลังเที่ยงคืนในคืนเดือนมืดเเล้วจะเจอกับผีคุณยายสปีดหลอกเอา  ด้วยการกระโดดขึ้นมาซ้อนท้ายมอเตอร์ไซด์  ใครดวงซวยอาจถึงตายได้

5. ถนนสายหาดใหญ่-สงขลา(สายใหม่)ก่อนถึงปั้นน้ำมันมีเรื่องสยองเล่าว่า  เคยมีกลุ่มรถซิ่งถูกสายสลิงที่ขึงไว้กับต้นไม้ใหญ่ 2 ข้างทาง  ตัดเอาคนนั่งซ้อนท้ายซึ่งเป็นผู้หญิงจนหัวขาดมาเเล้ว.........เชื่อกันว่าหากขับรถมาตอนกลางคืนเเล้วเห็นคนขับมอเตอร์ไซด์ไม่มีหัว.....อย่ามอง หรือชี้มือไปหา  เพราะท่านอาจจะซวยเอาได้

6. บริเวณเปิดท้ายกรีนเวย์(ข้างป่าช้าโคกโพธิ์).......เเต่เดิมเป็นวังน้ำขนาดใหญ่  ชาวบ้านคลองเรียนเรียกกันว่า " วังน้ำดำ "  เชื่อว่าเป็นดินเเดนอาถรรณ์ที่ผู้มีวิชาอาคมมักมาลองปล่อยของกัน

7. วัดโคกนาว......สมัยก่อนเรียก " โคกเน่า "  เพราะเคยมีการฝังศพกันเป็นจำนวนมาก  เเต่ปรากฏว่ามีน้ำท่วมขังในบริเวณดังกล่าวในปีหนึ่ง  ชาวบ้านเลยจำต้องนำศพไปผูกติดเอาไว้กับกิ่งไม้ใหญ่  บ้างก็ว่ามีนายพรานหลายคนไปยิงสัตว์ในโคกเน่า  ถูกซากศพที่เน่าเปื่อยตกใส่จนขวัญหนีตามๆกัน  ผู้เขียนเคยสัมภาษณ์ผู้เฒ่าผู้เเก่ท่านหนึ่ง  ท่านกรุณาเล่าให้ฟังว่า.....หากมืดค่ำจะไม่ยอมเดินทางผ่านโคกเน่าเป็นอันขาดเพราะผีที่นี่หลอกเก่งที่สุด

8. หน้าสวนสาธารณะเทศบาลนครหาดใหญ่..........เชื่อกันว่าเฮี๊ยนน่าดูชม......เพราะจะต้องมีคนถูกรถชนตาย หรือรถทับตายทุกปี  หลายคนบอกว่าเขาต้องการ  " ตัวตายตัวเเทน "

9. หน้าวิทยาลัยเทคนิคหาดใหญ่......บริเวณใต้สะพานลอยหน้าวิทยาลัย  เชื่อกันว่ามีผีเฝ้าอยู่ใต้สะพานลอย.....ใครดวงถึงฆาตจะถูกผีผลักให้รถชนเพื่อเป็นตัวตายตัวเเทนตน(เด็กเทคนิคหาดใหญ่เล่ากันภายใน)

10. เจ้าที่ที่ปกป้องรักษาวิทยาลัยเทคนิคหาดใหญ่นอกจากจะมีพระวิษณุกรรมแล้ว  บริเวณเชิงเขา(ข้างแผนกช่างยนต์)ยังมีเจ้าที่เก่าของที่นี่ปรากฏให้ได้เห็น  ครู-อาจารย์ เรียกท่านว่า "ทวดตาเดียว"  ส่วนนักศึกษาวิทยาลัยเทคนิคหาดใหญ่เรียก "เจ้าพ่อตาเดียว"  ถือกันว่าท่านนั้นศักดิ์สิทธิ์มากๆ  บูชาหรือเซ่นด้วยอะไรก็ได้  ยกเว้นเนื้อสุกร(เพราะท่านเป็นมุสลิม)

11. เจ้าที่ที่มหาวิทยาลัยทักษิณเด็กที่นี่เรียกกันว่า......" ทวดเลียบ "  เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ของที่นี่  ปรากฏในรูปของต้นไม่ใหญ่  เชื่อกันว่าหากใครขวัญอ่อน หรือต้องการเจริญก้าวหน้าในการเรียน หรือการงานด้านต่างๆให้บูชาท่านด้วยยาคูลท์ เท่านั้น

12. หน้าตึกเรียนอาคาร 13 ภายในมหาวิทยาลัยทักษิณ  เชื่อกันว่ามีความเฮี๊ยนระดับสูงมากๆ  เเละที่หน้าตึกเรียนอาคาร 13 นี้เองที่มีฮวงซุ้ยขนาดใหญ่ตั้งอยู่หน้าตึก(น่าจะเป็นตึกเรียนตึกเดียวในประเทศไทยที่มีฮวงซุ้ยตั้งอยู่ด้านหน้า)  เล่าลือกันว่าบางครั้งดึกๆจะมีคนเดินไปเดินมาที่หน้าฮวงซุ้ย  มองนานๆเเล้วท่านก็จะหายไป

13. ภายในมหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา  เชื่อกันว่าสระน้ำหน้าอาคารตึกอำนวยการหลังเก่า.........เคยมีเด็กผู้หญิงที่มาเข้าค่ายที่นี่จมน้ำตาย  เธอมักชอบออกมาเล่นงานคนที่ดวงถึงฆาตด้วยการดึง หรือลากลงไปในน้ำ

14. ภายในมหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา  อาคารหอสมุด(หลังเก่า).........เชื่อกันว่าที่ บล็อก ฮ. นกฮูก  มีดวงวิญญาณของนักศึกษาที่นี่สิงอยู่  ท่อนบนเป็นผู้ชายใส่ชุดช่างอุตสาหกรรม  ท่อนล่าง........ไม่มี !!!

15. เเถวๆท้ายวัดคลองเรียน........ในอดีตยังมีต้นยางใหญ่อยู่ต้นหนึ่ง  บนต้นยางปรากฏเป็นฝูง "ชิน" จำนวนมากลอยอยู่(ชิน  หลายคนเชื่อว่าเป็นผีชนิดหนึ่ง รูปลักษณะเป็นดวงไฟสีขาวขุ่นใหญ่ประมาณเท่าลูกฟุตบอล-1 เมตร) ปัจจุบันเชื่อว่าต้นยางใหญ่ดังกล่าวไม่มีเเล้ว  เเละน่าจะเป็นสถานที่ตั้งของหมู่บ้านร่มเย็น(ตรงบริเวณไหนไม่อาจคาดเดาได้เเน่ชัด)

16. รถเมล์สายหาดใหญ่-สงขลา(เด็กหาดใหญ่เรียก รถโพธิ์ทอง)......เชื่อกันว่ามีรถโพธิ์ทองอยู่คันหนึ่งมักปรากฏหญิงสาวในชุดนักศึกษา  ผมยาว  เธอมักชอบนั่งอยู่เก้าอี้เกือบท้ายสุดในยามหัวค่ำ  พอมองไปนานๆเธอจะหายไป

17. หลังวัดคลองเเห  ตำบลคลองเเห  อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา.......เชื่อกันว่ามีเนินดินสูงอยู่เนินหนึ่ง เรียก...." โคกนกคุ่ม " ภายในเนินดินว่ามีทรัพย์สมบัติฝังอยู่  เเละมีผีนานาชนิดเฝ้าดูเเล  อาทิ ผีปลาหัวกระโหลก

18. เเถววัดคูเต่า ตำบลเเม่ทอม สงขลา(วัดคูเต่าหลังเเรก....วัดสระเต่า)เคยมี "เสือสมิง" อาศัยอยู่ใกล้บริเวณวัดได้เข้าทำร้ายสามเณรมรณภาพ 1 รูป คือสามเณรถูกกัดจนศีรษะขาดและถูกกินเป็นอาหารเป็นที่เล่าลืออย่างสยดสยองต่างๆนานา(เสือสมิง คือ เสือร้ายที่เชื่อกันว่าเกิดจากอิทธิฤทธิ์ของวิญญาณร้ายที่แปลงร่างขึ้นมา)   

19. วัดโลการาม  บ้านสะทิ้งหม้อ  สิงหนคร สงขลา...........มีเจ้าที่ประจำวัดเป็นพญางูจงอางขนาดใหญ่  เรียก " ทวดตาหลวงรอง " เชื่อว่าใครบูชาเเล้วจะเจริญก้าวหน้าในด้านต่างๆ.....นอกจากนี้ยังเชื่ออีกด้วยว่าหากใครจะเข้ามาขโมยทรัพย์สมบัติของทางวัดจะโดนงูทวดเล่นงานจนต้องหนีกระเจิงทุกรายไป

20. หน้าอุโบสถวัดพรุเตาะ  หาดใหญ่  สงขลา มีต้นโพธิ์อยู่ต้นหนึ่ง........เชื่อว่าต้นโพธิ์นี้เเต่เดิมคือเจ้าอาวาสวัดพรุเตาะ  ครั้งหนึ่งท่านได้ใช้น้ำมันราดเเละเผาตนเองจนมรณภาพ  เเล้วท่านก็ได้เกิดใหม่เป็นต้นโพธิ์หน้าอุโบสถ(ชาวบ้านเขาเชื่อกัน)

21. บริเวณหัวเขาแดง-สงขลา  เชื่อกันว่ามีสิ่งศักดิ์สิทธิ์คอยป้องปกดูแลอยู่เรียกว่า "ทวดหัวเขาแดง"  เชื่อกันว่าท่านนั้นมักปรากฏกายให้ได้เห็นในรูปของจระเข้ใหญ่มีนัยตาสีแดงเพลิง

22.  น้ำตกโตนงาช้างที่ตั้งอยู่ในจังหวัดสงขลาในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโตนงาช้าง  ปรากฏมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ป้องปกอยู่เรียกว่า "ทวดตาขุนดำ-ทวดโต๊ะปะหวัง"  ซึ่งชาวบ้านในพื้นที่ใกล้เคียงกับน้ำตกเชื่อว่าท่านนั้นมีรูปกายเป็นเสือดำขนาดใหญ่ มีเรื่องเล่าว่าราวปี พ. ศ. 2549 ได้มีนักท่องเที่ยวชาวสิงคโปร์คนหนึ่งเดินทางมาเที่ยวน้ำตกโตนงาช้าง  จนตกช่วงเย็นชายคนดังกล่าวได้ออกเดินทางปีนขึ้นไปชมทัศนียภาพบนน้ำตกโตนงาช้าง จากนั้นจึงหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย  เพื่อนๆที่มาด้วยกันจึงออกตามหาแต่ก็หาไม่พบจึงแจ้งให้เจ้าหน้าที่ของทางน้ำตกทราบช่วยกันตามหาจนช่วงดึกจึงต้องยกเลิกไปแล้วออกหาตอนเช้าอีกที  หาอยู่ 3 วัน 3 คืนก็ยังหานักท่องเที่ยวชายชาวสิงคโปร์คนดังกล่าวไม่พบ  จึงได้เชิญหมอไสยศาสตร์มาทำพิธีกรรม "เข้าทรง"  และพอได้รับข้อมูลมาว่านักท่องเที่ยวชาวสิงคโปร์ที่หลงป่ายังมีชีวิตอยู่  ประทังชีพด้วยการกินยอดไม้ และน้ำเป็นอาหาร เขาเพียงโดน "ผีบังตา" เอาไว้ท่านมิต้องเป็นห่วงแต่ประการใด  ถึงเวลาเขาก็จะกลับมาเอง  แต่หลังจากนั้นก็ขอให้ช่วยสร้างศาลให้เราอยู่ด้วย  หัวหน้าทีมค้นหาจึงสัญญาว่าหากหาเจอก็จะสร้างศาลสถิตบูชาให้  วันที่ 4 ที่ออกค้นหาจึงหานักท่องเที่ยวคนดังกล่าวจนพบแล้วสร้างศาลให้เรียกว่า "ทวดตาขุนดำ-ทวดโต๊ะปะหวัง"

23.  ห้องเบอร์ 333  ณ โรงพยาบาลใหญ่แห่งหนึ่งในอำเภอหาดใหญ่ซึ่งตั้งอยู่เยื้องๆกับฟาร์มจระเข้เก่า.........เชื่อกันว่ามีผีฝรั่งสิงสถิตอยู่  หากใครจิตอ่อนเวลานอนอยู่บนเตียงจะถูกลากขา  หรือบีบนวดขาให้ในเวลากลางคืน........ให้แก้เคล็ดด้วยการนำเหรียญบาท 3 เหรียญมาวางไว้ตรงมุมบานประตูทางเข้าห้อง(ด้านใน)แล้วบอกกล่าวขอเช่าห้องกับผีเจ้าของห้องก่อนจึงจะอยู่ได้อย่างปกติสุข(เจอกันหลายคนแล้วห้องเบอร์นี้)

24.  ชาวอำเภอเมืองสงขลา  เชื่อกันว่า ณ เขารูปช้างมีผีฟ้า-เทวดาป้องปกรักษาอยู่เรียกกันว่า "ทวดช้าง" – "พ่อทวดช้าง"  เชื่อว่าเป็นดวงวิญญาณของควาญช้างและพญาช้างใหญ่ 2 เชือก(พ่อพลายแก้ว  และแม่พังงา) 

25.  แถวน้ำตกโตนงาช้าง  และย่านหูแร่ในสมัยก่อนเชื่อกันว่ายังมี "ผีหลังกลวง" อาศัยอยู่เชื่อกันว่าผีหลังกลวงเป็นความเชื่อของชาวไทยภาคใต้มีลักษณะเป็นเหมือนกับคนธรรมดาแบบเราๆท่านๆนี่แหล่ะ แต่มันไม่ชอบใส่เสื้อผ้า(ประมาณว่าใส่แต่กางเกงที่ขาดรุ่งริ่ง)และที่สำคัญคือมันมีสันหลังที่กลวงโบ๋วมีน้ำหนองไหลออกมาอย่างน่ากลัว ผีหลังกลวงชอบอาศัยอยู่ในแถบสถานที่ๆมีอากาศเย็นโดยเฉพาะในบริเวณน้ำตกต่างๆของทางภาคใต้ เชื่อกันว่ามันชอบกินของดิบๆเป็นนิสัย ส่วนกรรมวิธีในการหลอกคนก็คือ มันจะมาทำทีพูดจา-เจรจาเป็นมิตรกับผู้ที่ผ่านถิ่นที่อยู่ของมันในยามค่ำคืน  จากนั้นมันจะแกล้งคันหลังแล้วขอให้มิตรใหม่ช่วยเกาหลังให้........หันหลังให้คนที่มันจะหลอกดู(หลายคนพอได้เห็นหลังอันกลวงโบ๋วของมันแล้วก็อาจจะกลัวจนวิ่งหนีไปเลยก็มี) แต่ผีหลังกลวงในบางพื้นที่ เช่น ที่จังหวัดพัทลุงนั้นมันมีวิธีหลอกโดยการเดินมาตอนกลางคืนแล้วอาสาว่าจะช่วยตำข้าวให้ พอเจ้าของบ้านเผลอมันจะฉวยโอกาสหักคอกับครกตำข้าว(คนพัทลุงในสมัยก่อนเลยไม่ค่อยมีใครนิยมตำข้าวตอนเวลากลางคืน)

26.  บ้านคูเต่า  อำเภอบางกล่ำ  จังหวัดสงขลา  ยังเชื่อว่าในเครื่องดนตรีของถิ่นตนมีผีชนิดหนึ่งสถิตอยู่เรียก "โต๊ะเคร็ง"  เชื่อกันว่าโต๊ะเคร็งเป็นผีที่สถิตอยู่ในเครื่องดนตรีชนิดหนึ่งของทางภาคใต้ โดยหากมีการเซ่นสรวงที่ดีโต๊ะเคร็งจะทำให้การประกอบอาชีพทางด้านเป็นนักดนตรีเจริญก้าวหน้า แต่หากทำผิดกฎการเซ่นสรวงบูชาแล้วโต๊ะเคร็งจะนำพาความวิบัติมาให้ได้

27.เชื่อกันว่าในคลองอู่ตะเภาในอดีตยังมีจระเข้ผีสิงสถิตอยู่  มีตำนานเล่าว่า  ในอดีตลำคลองอูตะเภายังอุดมสมบูรณ์มีจระเข้อาศัยอยู่กันอย่างหนาแน่น  เนื่องด้วยมีปลาอย่างชุกชุมทำให้วิถีทางการดำเนินชีวิตของคน และจระเข้ไม่ยุ่งเกี่ยวกัน  จวบอยู่มายุคหนึ่งเกิดเหตุจระเข้กินคนเกิดขึ้นลือว่าเป็นจระเข้ผีสิง  ขึ้นมาจากน้ำ  คาบ กัดกินเด็กที่เล่นน้ำบริเวณท่าน้ำวัดท่าแซไปหลายรายจนเป็นที่ประหวั่นพรั่นพรึงของผู้คนในสมัยนั้นเป็นยิ่ง  จวบจนความเจริญได้เดินทางเข้ามาสู่ชุมชนคลองอูตะเภามากขึ้น  ตำนานจระเข้กินคนเลยลบหายไปกับกาลเวลาเหลือเพียงคำเล่าลือจากผู้เฒ่าผู้แก่ว่า......ในอดีตลำคลองแห่งนี้ยังเคยมีจระเข้ผีสิงที่ชอบกินเด็กเป็นอาหารอาศัยอยู่ 

28. เชื่อกันว่าทะเลสาบสงขลายังมีนางเงือก(ผีนางเงือก)อาศัยอยู่  ณ ยามใดก็ตามที่เป็นคืนจันทร์เดือนเพ็ญสว่างเต็มท้องน้ำ  ผีนางเงือกจะขึ้นมาจากท้องน้ำ  นั่งอยู่บนโขดหิน  ใช้หวีที่ทำจากก้างปลาหวีผมอย่างน่าดูชม.......ใครดวงถึงฆาตนางจะลากลงไปในท้องน้ำเอาบุรานายนั้นทำสามี

29. ถนนสายบ้านในไร่-เขากลอย(ทางโค้งข้อศอก)...........ยามค่ำคืน   หากเห็นหญิงสาวรถมอเตอร์ไซด์เสีย  ยืนคนเดียว.........อย่าชี้นิ้วไปหา-อย่ารับขึ้นรถ.........เพราะไม่ใช่คน!!!

30. ต้นไทรใหญ่หน้าวัดคลองเรียน  มีอายุนานมากแล้ว(อาจจะถึง หรือเกิน 100 ปี).......ยามค่ำคืนมักปรากฏผู้คนมากมายพร้อมเทียนส่องสว่าง  พวกเขามาหาตัวเลขก่อนวันหวยออกกันน่ะ  แต่......หากเห็นผู้คนมากมายอันตรธานหายไปในพริบตาที่ชี้มือไปหา..........ท่านจะซวยเอาได้!!!

31. พระคเณศ  หน้าภาควิชาศิลปะ  ว.ค.สงขลา  เชื่อกันว่าศักดิ์สิทธิ์มากๆ........หากใครอยากลองดีให้มาตอนเที่ยงคืน  พร้อมกับหันก้นเข้าหาและ....เกาใส่หน้าท่าน(เชื่อกันว่าจะโดนดีทุกรายไป)

32. ข้างภาคศิลปะ ว.ค.สงขลา  สมัยก่อนยังมีต้นมะพร้าวใหญ่อยู่ต้นหนึ่งข้างสระน้ำ(ปัจจุบันตัดทิ้งแล้ว)........ยามดึกๆเด็กๆที่นี่อาจจะเห็นชายหนุ่มร่างกำยำผิวดำหัวหยิก  ไม่ใส่เสื้อผ้า  พุ่งดิ่งลงมาจากต้นมะพร้าว  ลงสู่สระน้ำข้างภาควิชา.......หายลงไปไม่โผล่ขึ้นมาอีกเลย.......ไม่ต้องตกใจ  เขาแค่ทักทายเด็กศิลป์น่ะ(สมัยก่อนเจอกันบ่อย)

33. ชุดนักศึกษาศิลปะที่ ว.ค.สงขลา...............มีสีดำ  เกิดขึ้นราวปี 2540(ในยุคของผู้เขียนเข้าปี 1 ศิลป์)พวกเราชาวศิลป์ช่วยกันเลือกว่าจะเอาสีอะไร  สุดท้ายลงเอยที่สีดำ...........มันเทร์ และยังไม่มีใครใช้  อิอิ...........นี่แถม  ^ - ^



คุณาพร/23 พฤษภาคม 2552     
ห้องคุยกับคุณาพร(ศิลปวัฒนธรรมไทยภาคใต้-สงขลา)   
http://www.siamsouth.com/smf/index.php/board,11.0.html

กิมหยง

ครับ ท่านพระอาจารย์ดังใหญ่แล้วครับ

วันหนึ่งในมุม "เดะคนดังบ้านเรา" จะมีท่านอาจารย์ปรากฎนะขอรับ
สร้าง & ฟื้นฟู

คุณาพร.

อ้างจาก: กิมหยง เมื่อ 21:02 น.  20 ก.ค 52
ครับ ท่านพระอาจารย์ดังใหญ่แล้วครับ

วันหนึ่งในมุม "เดะคนดังบ้านเรา" จะมีท่านอาจารย์ปรากฎนะขอรับ





555....................ดังอะไรท่านกิมหยง  ผมเเค่เขียนในสิ่งที่เป็นประสบการณ์ส่วนตัว+ความชอบส่วนบุคนคล.........ก็เเค่นั้นเองล่ะท่าน..............เอ่อ.......ถ้าจะพูดถึงเรื่องความชอบส่วนตัว(ชอบดูหนังสยองขวัญ)ผมมีงานเขียนเรื่องหนึ่งนะชื่อ........." 13 ภาพยนต์สยองขวัญต้องห้ามตลอดกาล"   เขียนเล่นๆ........ลงในเว็บสยามเศร้า+กิมหยง(คงพอจำกันได้)..............ปรากฏหลังจากนั้นราว 2 เดือน  เพื่อนๆหลายท่านก๊อปไปลงเว็บต่างๆกว่า 20 เว็บ(โดยเฉพาะเว็บหนังโหด)............สุดท้ายก็ถามกันว่าคนจัดอันดับนี่ใคร(ฮา)  ^  -  ^   

;D

กิมหยง

5555  แบบนั้นแหละ พวกนี้ก๊อปกันไปก๊อปกันมา
ไม่บอกที่มาที่ไป ไม่ให้เกียรติเจ้าของบทความเลยครับ

แต่ก็จริง ๆ นะครับ ท่านพระอาจารย์เรานี่ดัง
มีฟอร์เวิร์ดเมลล์ ร่อนกันทั้งโลกแล้วครับ

ที่ขำ ๆ ไม่มีชื่อท่านเลยนั้นซิครับ
น่าจะให้เครดิตสักนิด  อาจเป็น อ.คุณาพร. เทคนิคหาดใหญ่

อะไรประมาณนี้ขอรับ
สร้าง & ฟื้นฟู

คุณาพร.

อ้างจาก: กิมหยง เมื่อ 23:10 น.  20 ก.ค 52
5555  แบบนั้นแหละ พวกนี้ก๊อปกันไปก๊อปกันมา
ไม่บอกที่มาที่ไป ไม่ให้เกียรติเจ้าของบทความเลยครับ

แต่ก็จริง ๆ นะครับ ท่านพระอาจารย์เรานี่ดัง
มีฟอร์เวิร์ดเมลล์ ร่อนกันทั้งโลกแล้วครับ

ที่ขำ ๆ ไม่มีชื่อท่านเลยนั้นซิครับ
น่าจะให้เครดิตสักนิด  อาจเป็น อ.คุณาพร. เทคนิคหาดใหญ่

อะไรประมาณนี้ขอรับ



ถือว่าเป็นเบื้องหลังการถ่ายทำเเล้วกันครับท่านกิมหยง


ปล.   ตอนนี้เเอบไปดูในอากู.........13 หนังสยองที่ผมเขียนกระจายไปกว่า 50 เว็บเเล้ว  อิอิ ;D

กิมหยง

ผมไม่เห็นด้วยกับการเผยแพร่โดยไม่ให้เครดิตครับท่าน

ใครนะใจร้ายจังไม่ลง เครดิตให้พระอาจารย์เลย
สร้าง & ฟื้นฟู