(จะยังไงดี แยงกี้) สหรัฐฯแตะเบรคแผนคว่ำบาตรไทยปมค้ามนุษย์

[itplaza]

23 มิ.ย.2557 นายลูอิส ซีเดบากา เอกอัครราชทูตประจำสำนักงานเฝ้าระวังและต่อต้านภัยการค้ามนุษย์ ประจำกรุงวอชิงตันสหรัฐอเมริกา กล่าวกับสื่อมวลชนว่า


        สหรัฐฯยังไม่มีมาตรการคว่ำบาตรกลุ่มประเทศที่ถูกจัดอันดับต่ำสุดจากรายงานสถานการณ์การค้ามนุษย์ ของกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐในครั้งนี้ ซึ่งรวมถึงประเทศไทย โดยการคว่ำบาตรจะเกิดขึ้นหรือไม่ ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของประธานาธิบดีนายบารัก โอบามา แต่ส่วนใหญ่สหรัฐ จะรอดูความเคลื่อนไหวของรัฐบาลประเทศนั้นๆว่า จะดำเนินการอย่างไร และสหรัฐสามารถจะให้การช่วยเหลือได้มากน้อยแค่ไหน ก่อนพิจารณาใช้มาตรการคว่ำบาตรต่อไป

       ด้าน นายจีรศักดิ์ สุคนธชาติ ปลัดกระทรวงแรงงาน ได้เรียกประชุมผู้รับอนุญาตจัดหางานในประเทศภาคเอกชน จำนวนกว่า 200บริษัท เพื่อหารือกำหนดแนวทางกรณีนำเข้าและจัดหาแรงงานต่างด้าวเข้ามาทำงานในประเทศไทย  ทั้งเรื่องค่าใช้จ่าย ค่าบริการจัดหางานให้แก่แรงงานต่างด้าว และความโปร่งใส ในการให้บริการของเจ้าหน้าที่กรมการจัดหางาน โดยเน้นย้ำให้มีความสะดวก รวดเร็ว โปร่งใส ตรวจสอบได้

       นายจีรศักดิ์ กล่าวว่า การที่ประเทศไทยถูกจัดอันดับสถานการณ์การค้ามนุษย์ในบัญชีที่ 3 ซึ่งถือว่าป็นลำดับต่ำที่สุดนั้น ส่วนหนึ่งมาจากการที่แรงงานต่างด้าวที่เข้ามาทำงานในประเทศไทย ถูกเอารัดเอาเปรียบในลักษณะแรงงานบังคับ ทำให้ไทยได้รับการพูดถึงไปในทางที่ไม่ดี และทำให้เป็นข้อร้องเรียนออกไปสู่ต่างประเทศ จึงถือเป็นความรับผิดชอบร่วมกันของทั้งภาครัฐ และผู้ประกอบการภาคเอกชน ปัจจุบันเราถูกกล่าวหาในเวทีโลก 3 เรื่องใหญ่ ๆ คือ 1.กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯกล่าวหาว่าประเทศไทยว่า เป็นประเทศการค้ามนุษย์ 2.การที่ไทยถูกปรับลดอันดับเป็นผลเสียหายต่อประเทศ และ 3.กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ ประกาศว่าไทยมีสินค้า 5 ชนิด ที่ใช้แรงงานบังคับ และแรงงานเด็กในการผลิตสินค้า ได้แก่ น้ำตาล ปลา อาหารทะเล สิ่งทอ และสื่อลามก ซึ่งเป็นเรื่องที่จะต้องร่วมมือกันแก้ปัญหาให้ดีขึ้น

         ปลัดแรงงาน กล่าวต่อว่า  อย่างไรก็ตามสำหรับสถานการณ์ล่าสุดของปัญหาแรงงานต่างด้าวนั้น พบว่า เริ่มมีแรงงานกัมพูชา ทยอยเดินทางกลับเข้ามาในประเทศแล้ว ซึ่งหลังจากนี้ทุกหน่วยงานจะมีการพูดคุยเพื่อหาแนวทางปรับลดค่าบริการเพื่อให้แรงงานต่างด้าวมีสิทธิเท่าเทียมกับแรงงานไทย ทั้งนี้หากท่านไม่ได้รับความสะดวกในการติดต่อระบบราชการ มีค่าใช้จ่ายที่ยุ่งยาก ไม่ได้รับบริการด้วยความสะดวก รวดเร็ว เป็นธรรม และโปร่งใสในการติดต่อราชการกับกระทรวงแรงงานให้ส่งเรื่องมายังตนได้โดยตรง

       นายจีรศักดิ์ กล่าวด้วยว่า ในช่วงเช้าที่ผ่านมามีการประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พร้อมทั้งมีการคาดโทษเจ้าหน้าที่รัฐ หากพบการทุจริตคอร์รัปชั่น จะมีบทลงโทษสถานหนัก รวมถึงมอบคณะกรรมการนโยบายการจัดการปัญหาแรงงานต่างด้าว (กนร.) ให้กำหนดทิศทางการดำเนินงานเพื่อมุ่งสู่การแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ต่อไป

         ขณะที่ นายสุเมธ มโหสถ รองปลัดกระทรวงแรงงาน ปฏิบัติหน้าที่อธิบดีกรมการจัดหางาน กล่าวว่า หากมีหลักฐานว่าเจ้าหน้าที่ที่ถูกร้องเรียนมีการกระทำผิดจริงจะถูกดำเนินการอย่างเด็ดขาด ทั้งวินัยและอาญา ซึ่งตนหวังว่าแรงงานต่างด้าวจะได้รับการปฏิบัติอย่างเป็นธรรมเท่าเทียมกับแรงงานไทยที่ไปทำงานในต่างประเทศ ซึ่งหลายประเทศเห็นความสำคัญของแรงงานในการพัฒนาเศรษฐกิจ ประเทศไทยก็ควรคำนึงว่าแรงงานต่างด้าวเหล่านี้ว่ามีส่วนในการพัฒนาเศรษฐกิจ สังคมของประเทศเช่นกัน

        ทั้งนี้ในส่วนของกรมการจัดหางาน จากนี้จะไม่มีการเรียกเก็บในสิ่งที่นอกเหนือจากที่กฎหมายกำหนดไว้ แต่ในส่วนของค่าธรรมเนียมยังคงต้องชำระตามกฎหมาย หากมีการเรียกรับผลประโยชน์จะต้องแจ้งมายังกรมการจัดหางาน และผู้ประกอบการจะต้องไม่สมยอม โดยเรายืนยันจะปรับกระบวนการทำงานใหม่ เพื่อความโปร่งใส

      นางศรีรัตน์ รัษฐปานะ ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กระทรวงพาณิชย์ได้ตั้งคณะกรรมการด้านการค้าและแรงงาน ประกอบด้วย หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งภาครัฐและภาคเอกชน เพื่อให้ไทยสามารถดำเนินการป้องกันและแก้ไขปัญหาและผลกระทบทางการค้าอันเนื่องจากปัญหาแรงงาน และการค้ามนุษย์อย่างรอบด้าน คณะกรรมการชุดนี้จะมีส่วนสนับสนุนการทำงานของคณะกรรมการนโยบายการจัดการปัญหาแรงงานต่างด้าว ที่จัดตั้งโดยคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เพื่อแก้ไขปัญหาแรงงานต่างด้าวในภาพรวมของประเทศไทยต่อไปด้วย

       ขณะเดียวกัน ได้สั่งการให้เครือข่ายของกระทรวงฯ ในต่างประเทศ ทั้งสำนักงานพาณิชย์ในต่างประเทศ ที่กรุงวอชิงตัน และบรัสเซลส์ และสำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศที่อยู่ในสหรัฐอเมริกาและยุโรป ดำเนินการชี้แจงและทำความเข้าใจกับภาครัฐและภาคเอกชนในตลาดสหรัฐฯ และยุโรป โดยเฉพาะบริษัทค้าปลีก และค้าส่ง ด้วยการให้ข้อมูลที่ถูกต้อง และแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของไทยในการแก้ไขปัญหาด้านแรงงาน เพื่อให้คู่ค้าเกิดความเข้าใจและนำไปสู่การยกเลิกการใช้มาตรการที่กระทบต่อการค้าไทย ขณะนี้ภาครัฐและเอกชนไทยเตรียมที่จะยื่นขอเสนอถอดถอนสินค้า 5 รายการ ได้แก่ กุ้ง เครื่องนุ่งห่ม อ้อย สื่อลามก และปลา ที่ถูกสหรัฐฯกล่าวหาว่ามีการใช้แรงงานเด็ก หรือแรงงานบังคับ โดยจะยื่นขอถอดถอนภายในเดือนสิงหาคมนี้

ขอบคุณ chaoprayanews.com
ที่มา  http://www.itplaza.co.th/update_details.php?type_id=1&news_id=36943&page=1