ฟันกำไร2ไตรมาส300ล."อากู๋"ปรับใหญ่แกรมมี่ปีหน้า

[โสรยา...]

โดย สยามดารา
http://www.siamdara.com/hotnews/110818_20412.html

''อากู๋-ไพบูลย์'' โวธุรกิจเพลงแกรมมี่ ปี 54 สองไตรมาสแรกกลับมาคึกคักอีกครั้ง เหตุกำไรพุ่งรวมกว่า 100% หรือราวๆ เกือบ 300 ล้าน เผยเตรียมปรับองค์กรครั้งใหญ่รอบ 28 ปี เป็นบรอดแคสติ้ง พร้อมโปรเจกต์ใหม่ ''วันสกาย'' ตอบโจทย์ช่องทีวี ดาวเทียม ด้วยงบ 3 พันล้าน

เรียกว่ายิ้มได้กว้างและสดใสอีกครั้ง สำหรับวงการธุรกิจเพลงของยักษ์ใหญ่ จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ เพราะล่าสุดทาง ประธานกรรมการบริหาร ''อากู๋'' ไพบูลย์ ดำรงชัยธรรม ได้ให้สัมภาษณ์ด้วยท่าทีมีความสุขว่า ผลกำไรในส่วนของเพลง รวม
ทั้งธุรกิจใหม่ๆ ในเครือกำลังไปในทิศทางที่สวยหรู และดีขึ้นเรื่อยๆ

โดย ''อากู๋-ไพบูลย์'' ได้กล่าวหลังเสร็จสิ้นงานแถลงความร่วมมือทางการตลาด และประชาสัมพันธ์กับสโมสรชลบุรี เอฟซี ที่จัดขึ้นที่เรทโทร คาเฟ่ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ว่า ตอนนี้ทางแกรมมี่พร้อมลงทุนซื้อ และสร้างคอนเทนต์
เพื่อทำช่องข่าวให้เป็นในระบบบรอดแคสติ้งอย่างที่ตั้งใจภายในไตรมาส 2 ปี 2555

''คือเราจะลงทุนในส่วนของช่องกีฬาทั้ง 6 ช่อง รวมทั้งในเรื่องของเพลง คือมันจะเรียกว่าใหญ่กว่าไม่ได้ ต่างคนต่างสนับสนุนกัน คือเดิมทีคอนเทนต์ที่ผมมีทั้งหมด คือคอนเทนต์โปรไวเดอร์ ตอนนี้ผมก้าวขึ้นมาเป็นมีเดีย แพลตฟอร์ม ผม
เป็นผู้ที่ซื้อคอนเทนต์ส่วนหนึ่งจากต่างประเทศ ไม่ใช่เป็นคนผลิตอย่างเดียว ซื้อจากทั่วโลกทั้งกีฬา สารคดี บันเทิง แฟมิลี่ ละคร อย่างสมมติอย่าง คุณบอย (บอย-ถกลเกียรติ) ทำละคร จีทีเอชทำหนัง ดนตรีพี่ ''เล็ก-บุษบา'' ทำเพลง พี่ฉอดก็ขยายไปในเรื่องของการท่องเที่ยว คือเรามีทีมงานหลากหลายที่จะทำ แล้วก็จะเอามาทำเป็นช่องข่าว ในแบบที่ผมอยากทำอย่างเต็มที่แน่นอน และเราเป็นคนทำเอง คิดว่าน่าจะเริ่มที่ไตรมาส 2 หรือไตรมาส 3 ปีหน้าแน่นอน''

คาดว่าการลงทุนในช่องข่าวจะใช้งบประมาณเท่าไหร่ บิ๊กบอสแกรมมี่ กล่าวอย่างไม่ลังเลว่า ''การทำช่องข่าวน่าจะลงทุน 300 ล้านบาท แต่ทั้งหมดทั้งปวงที่ลงทุน ทั้งซื้อคอนเทนต์ ผลิตคอนเทนต์ และทำแพลตฟอร์มหลาย 10 ช่อง 3 ปี ก็น่าจะประมาณตีไว้ 3 พันล้าน แต่จริงๆ มันไม่มีระเบียบหรอกว่าจะกี่ช่อง ซื้ออะไรได้ก็ทำไป มันเป็นไปไม่ได้ว่าจะบอกปีนี้ 3 ช่อง ปีหน้าเท่าไหร่ ไม่มี ถ้าการค้าดีมันก็ไปเรื่อยๆ มันไม่มีขอบเขตหรอก'' ขณะเดียวกัน ''อากู๋'' ยังยิ้มร่า และโวให้ฟังว่า ผลประกอบการในเรื่องของเพลง และธุรกิจแซทเทิลไรท์ มีกำไรที่น่าพอใจ

''ผลประกอบการไตรมาสแรกของเราปีนี้เพิ่มขึ้นมากกว่าปีที่แล้วในไตรมาสเดียวกัน 40-50% ส่วนไตรมาสสองยิ่งไปกันใหญ่ เพราะมันโตกว่าปีก่อน เมื่อเทียบกันถึง 114% ซึ่งเกิดจากการปรับปรุง การผ่าตัดทางด้านธุรกิจเพลงอย่าง
จริงจังเมื่อปีที่แล้ว ทั้งลดต้นทุน ลดค่าใช้จ่าย คือมี 2 เรื่องใหญ่ๆ คือ 1.ลดต้นทุน ค่าใช้จ่าย และ 2. ปรับโครงสร้างในการบริหารให้มันเป็นเอกภาพขึ้น โดยให้ คุณกริช ทอมมัส เป็นคนรับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียวในการทำธุรกิจเพลง ทำให้มันเกิดความต่อเนื่องในผลผลิต อย่างเดิมทีเหมือนคอยฝนคอยฟ้า แต่ตอนนี้มันเป็นชลประทาน ที่ถูกจัดในการบริหารอย่างเป็นระบบ ทันทีเลย เห็นชัดๆ ไตรมาสแรกเราขึ้นถึง 40-50% ส่วนไตรมาสสองขึ้น 114% หรือกำไร 100 กว่าล้านในไตรมาสแรก ไตรมาสนี้กำไร 250 กว่าล้าน คือเพลงในปีนี้ยังประสบความสำเร็จอยู่

ทางด้านมีเดียคือทางด้านทีวีกับวิทยุก็ดีขึ้น แต่น่ายินดีที่สุดคือ 3 ธุรกิจใหม่คือธุรกิจแซทเทิลไรท์ ตัวเลขมากขึ้นเป็นสัดส่วนที่เป็นเท่าตัวของปีที่ผ่านมา แซทเทิลไรท์คือสตาร์ ของเดิมคือเพลง มีเดียเป็นแคชทาวน์ และพอปรับปรุงปั๊บเราได้เห็นผลเลย ฟิซิคัลผมขายดีกว่าปีที่แล้วอีก เรกคอร์ดสขายดีกว่าปีที่แล้วหมด ดีกว่าแบบเป็นร้อยเปอร์เซ็นต์ ส่วนธุรกิจใหม่ จีเอ็มเอ็ม แซทเทิลไรท์ ทั้งหมด ซึ่งเราเปิดขึ้นเรื่อยๆ รวมแล้วยังมีกำไรอยู่ และแบกรับช่องที่กำลังจะเกิดขึ้นใหม่ได้ ส่วนดิจิตอล ตัวเลขก็สูงขึ้นมาก และตอนนี้ก็มีแพลตฟอร์มที่ตอนนี้เราจะทำในเร็วๆ นี้ และอีก 1-2 เดือนเราจะมีซิมการ์ด แกรมมี่ ที่ร่วมกับทั้ง 3 ค่ายเครือข่ายใหญ่ธุรกิจหลักของเรา 3 อัน วันสกายจะเริ่มเดือนหน้าละ จีเอ็มเอ็ม บรอดแคสติ้ง ตัวเลขน่าพึงพอใจ กำไรละ ดิจิตอล จีเอ็มดี ก็กำไรมากขึ้น ปีนี้ยอดขายทั้งหมดน่าจะแตะพันล้านน่ะ''

วันสกายที่จะเริ่มขึ้น เราตั้งเป้าหมายยอดขายยังไงบ้าง ''อากู๋'' กล่าวอย่างมั่นใจว่า ''เค้ามีหลายกล่อง หลายรูปแบบ ต้องรอเค้าแถลงอีกที เดือนหน้าวันที่ 20 จะแถลงข่าว คุณจะเห็นทุกอย่าง ที่เราเตรียมไว้ในวันสกายปีกว่า''

บิ๊กแกรมมี่ กล่าวต่อว่า ''ปีหน้ากำไรน่าจะเห็นผลในไตรมาสที่ 3 ที่ 4 แต่จะลำบากนิดนึงคือ มีการลงทุนเยอะ เราไม่รู้หาเงินทันรึเปล่า แต่มันเป็นเรื่องธุรกิจใหม่ เราต้องลงทุนอยู่แล้ว ไม่มีใครทำธุรกิจใหม่โดยไม่เสี่ยง หรือไม่ต้องลงทุน แต่ก็
เป็นเส้นทางที่ชัดเจน''

ถือเป็นการปรับเปลี่ยนทิศทางธุรกิจ ''อากู๋'' ตอบทันควัน ''ถือเป็นการเปลี่ยนโครงสร้างบริษัทเลยละ จาก 28 ปี มาเน้นเป็นบรอดแคสติ้ง บิซิเนส เปลี่ยนยุคเปลี่ยนสมัยของแกรมมี่จริงๆ จังๆ ตอนนี้ก็ให้ลูกๆ ฝึกอยู่ ให้ฟ้าใหม่ไปดูด้านแม
เนจเมนต์ แบ็ก ออฟฟิศทั้งหมด ดูแลเรื่องเอชอาร์ การรับคน เป็นผู้ช่วยซีโอโอของบริษัทในภาคปฏิบัติการของแบ็กออฟฟิศ เพราะการจัดการ 2 ปีที่ผ่านมา ทำให้รู้สึกว่าพี่ซีเรียสมาก เพราะเดิมที เราไม่ค่อยได้ดู แบ็กออฟฟิศเลย ไม่ได้ดูเรื่อง
แมเนจเมนต์ เราดูแต่เรื่องครีเอทีฟ เรื่องการตลาด เสร็จแล้วข้างหลังก็มีการหละหลวม เพราะฉะนั้นใน 2 ปีนี้ ทำให้บริษัทเราแข็งแรงขึ้นเยอะ ก็คิดว่าตรงนี้เป็นส่วนสำคัญ เป็นการจัดการที่ดี ก็ให้ฟ้าใหม่ ไปเรียนรู้ ศึกษา และให้ระฟ้าเรียนรู้ศึกษาเรื่องดิจิตอล ลงรายละเอียดเลย เสร็จแล้วก็ให้มาโฟว์โลว อัพกับ จีเอ็ม บรอดแคสติ้ง กับวันสกาย''

คาดว่าสักกี่ปีทั้ง 3 ธุรกิจจะแซงทางด้านธุรกิจเพลงในเรื่องของสัดส่วนรายได้ ''อากู๋'' ตอบอย่างไม่ลังเลว่า ''ผมว่าถ้าเผื่อมันใช่เนี่ย 2 ปีก็เห็นผล คือ 2 ปีจะเป็นการที่เราลงทุนหนักๆ''

ทั้งนี้ ''อากู๋'' ได้กล่าวถึงการเปลี่ยนยุคใหม่ของจีเอ็มเอ็มว่า เพราะกฎหมายในปัจจุบันที่เปลี่ยนไป ''ที่เปลี่ยนเพราะกฎหมายของวิทยุ-โทรทัศน์ ได้เปิดเสรีขึ้น ก็คอยมา 15 ปีอะ รวมทั้งเทคโนโลยีที่มันดีขึ้น คือกล่องมันถูกลงจากเมื่อก่อนกล่องแซทเทิลไรท์ หรือกล่องดาวเทียมกล่องนึง ต้องมีใบละหลายพัน ตอนนี้มันเหลือมีตั้งแต่ 600, 800, พันกว่า และตอนนี้เอชดีก็เข้ามา เราจะมีกล่องเอชดีเลยตั้งแต่วันแรก''

''ตั้งแต่ต้นปีหน้า ซึ่งเรามีทุกราคาให้เลือก แต่ของเราไม่ได้ขายจานนะ แค่ซื้อกล่องเราไปเสียบก็ดูได้ ซึ่งของเราจัดระเบียบช่อง และไม่เก็บตังค์ในการเรียงช่อง อย่าง 1-10 จะเป็นช่องฟรีทีวี หรือลักษณะคอนเทนต์ที่คล้ายฟรีทีวี พอถัดไปจะเป็นด้านละคร หนัง สามอาจจะเป็นการ์ตูน ข่าว หรืออะไร คือเราจะจัดเป็นหมวดหมู่เรียบร้อย วันสกายไม่เก็บตังค์ค่าเรียงช่อง แล้วใครจะมาอยู่กับเรา ก็พร้อม เพราะวันสกายจะมีคอนเทนต์เอ็กซ์คลูซีฟที่คนอื่นไม่มี หมายถึงว่าช่องพิเศษที่คนอื่นไม่มี เราให้ดูได้ที่เราซื้อมา คืออาจจะให้ดูฟรีก่อน ซัก 6 เดือน 1 ปีตอนนี้ช่อง ฟรีทูแอร์ มันมีประมาณ 100 กว่าช่อง ทั้งซี แบนด์ เคยูแบนด์ ใช้ดูกับกล่องของเราได้หมด แต่ถ้าหมดระยะเวลาที่เราจัดไว้ จะดูต่อก็ต้องเสียตังค์ แต่ก็ไม่ได้บังคับอยากดูแบบไหนก็ค่อยตกลงกัน มีหลายราคาให้เลือก''อากู๋ แห่งจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ กล่าว