ข่าว:

ทดลองใช้งานบอร์ดตะลุง ที่อยู่ในขั้นตอนการกู้คืนข้อมูล เบื้องต้นมีแต่กระทู้ (ข้อความ) กำลังกู้รูปภาพ ไฟล์แนบต่าง ๆ คาดว่าจะทยอยสมบูรณ์ภายในไม่ช้า

Main Menu

ทำดีแล้วโดนด่าไม่ทำห่าแล้วด่าคน สลิ่มแหลรัฐบาลเอาของบริจาคแป

เริ่มโดย ปชปหัวก้าวหน้า, 23:42 น. 23 ต.ค 54

ปชปหัวก้าวหน้า

นี่ก็อีกตัวอย่างหนึ่ง ไม่ช่วยแต่ทำลาย

อ่านข่าวแล้วผมอายแทนจริงๆ

ไม่รู้สำนักข่าวนี้จะอายบ้างไหม หรือด้านสะจนไม่รับรู้ว่าทำอะไรลงไป ต้องให้เจ้าของข่าวออกมาบอกว่าข่าวที่ลงนั้นบิดเบือน

นางอะไรนะจำชื่อไม่ได้ ชื่ออโนซวย ที่อยู่กับลิ้มโกเต็กใช่ไหม ที่ดูแลสำนักข่าวแห่งนี้

หน้าด้าน จะมีหน้าออกไปให้คนเขาเห็นอีกหรือ ปิดเวป ปิดสำนักข่าวไปเหอะ ไม่มีใครเขาเชื่อถือหรอก

เมื่อวันที่ 20 ตุลาคม 2554 สำนักข่าว Thai ASEAN News Network (TAN) ลงพาดหัวว่า "สหประชาชาติตำหนิรัฐบาลว่าบริหารจัดการเรื่องน้ำไม่ดี" ตามนี้

http://www.tannetwork.tv/tan/ViewData.aspx?DataID=1048976

ในวันที่ 24 ตุลาคม 2554 ThaiPoliticalPrisoner wordpress เสนอข่าวว่า :

ภัยพิบัติจากน้ำท่วมในประเทศไทยได้ถูกสื่อเสื้อเหลืองนำมาเป็นโอกาสที่จะลงโทษนายก ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่ชนะการเลือกตั้งเหนือพรรคแมงสาบที่สื่อเสื้อเหลืองนิยมชมชอบ สื่อเหล่านี้กระโจนเข้าใส่ทุกๆโอกาสที่จะโจมตีได้ แลเเมื่อไม่มีโอกาส พวกนี้ก็สร้างขึ้นมาเอง

Dr. Noeleen Heyzer, United Nations Under-Secretary General and Executive Secretary of the Economic and Social Commission for Asia and the Pacific (UN ESCAP) ได้เรียกร้องให้ Thai ASEAN News Network (TAN) ถอนข่าวนี้ออก

เชิญอ่านบทความต้นฉบับได้ที่

http://thaipoliticalprisoners.wordpress.com/2011/10/24/yellow-shirt-press-caught-out/

ต้นฉบับ การแถลงข่าวของ UN ESCAP

http://www.unescap.org/unis/press/2011/oct/g54_retraction-quotation.pdf

นำมาเพิ่มให้ครับ

และใช้การพิจารณาของท่านเอง

ปชปหัวก้าวหน้า

และนี่เกิดจากเกลือเป็นหนอน หรือเกิดจากความเหนื่อยล้า ก็พิจารณากันเอาเอง

   
'ไอซีที'สั่งพักงานไม่มีกำหนด มือดีโพสต์เฟซบุ๊ก ศปภ.

รมว.ไอซีที เชือดไก่ให้ลิงดู สั่งพักงานไม่มีกำหนด จนท.โพสต์เฟซบุ๊ก
หลังป่วนโลกโซเชียลฯ สร้างภาพเสียให้ ศปภ. คาดเครียดจากการทำงานตลอด 24 ชม.
อุบต้นสังกัด มั่นใจไม่ได้แกล้ง ขณะที่ทีโอทีระบุ ดูแลแค่ระบบโครงข่าย...

น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร หรือ ไอซีที
กล่าวถึงความคืบหน้ากรณีการโพสต์ข้อความผิด
ในเฟซบุ๊ก ศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย (ศปภ.) ว่า จากการตรวจสอบพบว่า
มีเจ้าหน้าที่พิมพ์ข้อความตก โดยเกิดจากความเหนื่อยล้า จึงสั่งให้หยุดทำงาน

"ตอนนี้ให้เจ้าหน้าที่พักงานแล้ว จากการสอบถามพบว่า
เกิดจากการทำงานตลอดทั้ง 24 ชั่วโมง จึงทำให้เกิดความเหนื่อยล้า และความเครียด
เป็นเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานอยู่ แต่คงไม่ขอบอกชื่อ
โดยเจ้าหน้าที่ที่ดูแลก็ยอมรับว่า เป็นความผิดพลาด และส่วนตัวเชื่อว่าไม่ได้แกล้ง" รมว.ไอซีที กล่าว

น.อ.อนุดิษฐ์ กล่าวต่อว่า การสั่งให้พักงานนั้น
เบื้องต้นเป็นเพราะเห็นว่า เจ้าหน้าที่ทำงานตลอดทั้งวัน ตั้งแต่เปิดศูนย์ฯ
โดยประมาณ 20 วันที่ผ่านมา อาจจะเกิดความเครียด จึงทำให้เกิดความผิดพลาดขึ้น
ทั้งนี้ ยังไม่สามารถยืนยันว่า จะเกิดความผิดพลาดลักษณะนี้ขึ้นอีกหรือไม่
เพราะความผิดพลาดที่เกิดจากมือมนุษย์ เป็นความผิดพลาดที่เกิดขึ้นได้
ซึ่งต้องมองที่เจตนาเป็นหลัก



สำหรับข้อความในเฟซบุ๊กนั้น ปรากฏขึ้นเมื่อวันที่ 23 ต.ค. เวลาประมาณ 18.00 น. ว่า
ศปภ.ประกาศเตือนประชาชนในพื้นที่ กทม.ทั้งหมด เก็บของขึ้นที่สูงในระดับ 1 เมตร
เนื่องจากประตูน้ำเปิดหมดแล้ว ในคืนนี้ระดับน้ำจะขึ้นสูงสุดเวลา 21.00 น.
ซึ่งสร้างความตื่นตระหนกให้ประชาชนเป็นอย่างมาก

ต่อมาเมื่อเวลาประมาณ 21.00 น. ได้ปรากฏข้อความว่า
กราบขออภัยพี่น้องประชาชนในเขต กทม. ที่ได้รับทราบข่าวจากหน้าเพจ
"ศปภ.ศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย"
ปรากฏข้อความที่ว่า "ให้พี่น้องประชาชนในเขต กทม. เก็บของขึ้นที่สูง"
เนื่องจากเป็นความผิดพลาดจากการประสานงานของ Admin
ซึ่งทาง ศปภ.ดอนเมือง ยังไม่มีประกาศดังกล่าว
ทาง ศปภ.ดอนเมือง ขอกราบขออภัยพี่น้องประชาชนเป็นอย่างสูง มา ณ ทีนี้ ครับ
ซึ่งสร้างความสับสน และสงสัยให้ประชาชนที่ติดตามข้อมูลจาก เฟซบุ๊ก ศปภ. เป็นอย่างมาก

ทั้งนี้ รมว. ไอซีที ยอมรับว่า ข้อความดังกล่าว ตกไปแค่คำว่า "ในพื้นที่เฝ้าระวัง"



นายยงยุทธ วัฒนสินธุ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่
สำนักวิศวกรรม สายงานโครงข่าย บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า
ทีโอที มีหน้าที่รับผิดชอบเฉพาะโครงข่ายเท่านั้น
ส่วนเรื่องข้อมูลที่จะโพสต์ลงในเฟซบุ๊ก เป็นหน้าที่ของกระทรวงไอซีทีรับผิดชอบ
โดยเบื้องต้นทราบว่า มีบุคคลจิตอาสา ต้องการเข้ามาช่วยงานเจ้าหน้าที่จำนวนมาก
แต่ก็ได้คัดเลือกให้กรองข้อมูลก่อนนำเสนอแล้ว ซึ่งยังไม่มีเจ้าหน้าที่หลัก

ส่วนข้อความที่สร้างความตื่นตระหนกแก่ประชาชนนั้น
ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่สำนักวิศวกรรม สายงานโครงข่าย ทีโอที กล่าวว่า
เป็นเรื่องที่ไม่มีใครต้องการให้เกิดขึ้น
โดยล่าสุดทราบว่า ไอซีที เตรียมมาตรการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำรอยแล้ว

http://www.thairath.co.th/content/tech/211765

ปชปหัวก้าวหน้า

นี่ก็อีกตัวอย่างหนึ่ง หน้าด้านสุดๆ ทำไปได้อย่างไร


ปชปหัวก้าวหน้า

มาดู "เสื้อแดงขโมยของบริจาค???"



ถ้าว่ากันไปตาม"กระแส"นะครับ ก็คงจะมีคนบอกว่า
เขาเอาป้ายมาติดเพื่อสวมรอยว่าตัวเองเอาของไปบริจาค

ถูกมั้ย???

หาว่าพวกเขาทำอย่างนี้ได้ไง
เอาของที่เราไปบริจาคมาอ้างว่าพวกเขาบริจาค

ผิดครับ จริงๆแล้ว
ขณะนั้นเป็นเวลาประมาณ เที่ยงคืน ตี1 ประมาณนั้น
พี่น้องคนไทยกลุ่มนี้ เดินทางมาจากจังหวัดอุดรธานี
ยิงยาวมาหลายชั่วโมง ฝ่าน้ำท่วมมาถึงดอนเมืองด้วยรถลักษณะแบบนี้ 10 คัน
ย้ำว่า 10 คัน เพื่อนำของมาช่วยชาวกรุงเทพมหานคร
ที่กำลังจะลำบากกว่าเขา
ผมและลูกศิษย์อีก2 คน คือ Khunakorn Svasti-Xuto
และ อิทธิเดช บุญลือลักษณ์ อยู่ในเหตุการณ์
ซึ่งของที่นำมาบริจาคนั้นจำนวนมหาศาลมาก เช่น
หมอนจำนวนมหาศาล เสื่อจำนวนมหาศาล ปลากระป๋อง
บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปจำนวนมหาศาล นับไม่ถ้วน ข้าวสารอีกนับไม่ถ้วน



(ของพวกนี้กำลังจะถูก"นำลงมา" เพื่อให้อาสาฯบริเวณด้านใน ได้แยกหมวดหมู่และแพค)

พวกผมใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่งทำสายพาน
(สายพานคือศัพท์ของอาสาฯ แปลว่ายืนเรียงแถวกันแล้วส่งของต่อๆจนถึงที่พักของ)
ยังเอาของลงมาจากรถได้เพียง 10% ของรถ1คัน
รถที่ท่านเห็นนี่ไม่ใช่รถ10ล้อนะครับ แต่มันคือตู้คอนเทนเนอร์
รถทุกคันทะเบียนอุดรธานี ของเยอะมากถึงขนาดว่าอาสาฯหลายคนถอดใจกลับบ้าน
(รวมทั้งผม 3 คนด้วย)



(ของเยอะมากมาย อัดแน่นขนาดนี้ คิดว่ารถ1 คันมีกี่ชิ้น?)

ทั้งหมดที่กล่าวมา จะสื่อว่า ภาพบางภาพที่เราได้เห็น
มันอาจจะทำให้เราเข้าใจคนไทยด้วยกันผิดๆ
เขาอาจจะมีความเชื่อและความรักต่อคนที่เค้าชื่นชอบ
แต่อย่างน้อยพวกเราก็เป็นคนไทยด้วยกันนะครับ
พวกเขามีใจที่จะนำสิ่งของมาบริจาคช่วยคนกรุงอย่างพวกเราโดยแท้จริงครับ
โอเค มันอาจจะเป็นจริงอย่างที่"กระแส"
มี แต่ก็ไม่ใช่กับพวกเขาทุกคนและรถทุกคันที่ติดป้ายแบบนี้ครับ
อยากฝากไว้ครับ อยากเห็นคนไทยสามัคคีกันครับ



ขอขอบคุณ เฟรซบุ๊ค คุณพงศกร
http://www.facebook.com/notes/pongsathorn-nowbassist-surapab/อยากรู้ว่าถ้าเห็นภาพนี้-คุณจะรู้สึกอย่างไร-และจะอธิบายว่าอย่างไร-ขอยืนยันว่าไมไ่/308794495802229

http://www.go6tv.com/2011/10/blog-post_25.html

ปชปหัวก้าวหน้า

หากน้ำท่วมนี้ ล้มยิ่งลักษณ์ไม่สำเร็จ ก็ยากแล้ว

ลองอ่านดู ทำไมถึงมีกระแสโจมตีรัฐบาลยิ่งลักษณ์

ผมเข้าใจว่ายังคงมีฝ่ายแค้น และพวกอำมาตย์ที่ยังคิดล้มรัฐบาลคุณยิ่งลักษณ์อยู่ แต่มันไม่น่าจะง่ายนัก เพราะคิดนั้นคิดได้ แต่จะทำได้อย่างที่คิดหรือไม่ มันย่อมไม่ใช่อยู่ที่การคิด หรือความตั้งใจของใคร แต่ปัจจัยอื่นๆ มันต้องพร้อมด้วย

พื้นฐานขั้นแรกที่ต้องทำคือ ต้องทำลายคะแนนนิยมของรัฐบาลนี้ลงให้ได้เสียก่อน และเมื่อประชาชนเสื่อมศรัทธามากๆ  แผนการขั้นต่อไป ก็น่าจะหาคนมาเดินขบวนขับไล่ ขั้นตอนอื่นๆ คงเห็นกันแล้วในการล้มรัฐบาลคุณทักษิณ ชินวัตร

ใช้สื่อทำลาย โจมตีทางการเมืองอย่างหนัก ชี้นำประชาชนให้เกลียดรัฐบาล พยายามชี้ให้ประชาชนเชื่อว่า คุณยิ่งลักษณ์ทำงานไม่เป็น โง่ ไม่มีสมอง (แต่ดันพูดว่าอภิสิทธิ์เป็นมืออาชีพนี่สิคนยอมรับยาก)

ผมว่าคงมีคนเชื่อส่วนหนึ่ง ส่วนหนึ่งไม่ได้เชื่อ แต่เป็นพวกหน้าม้า พยายามสร้างกระแสชักจูงคน
พวกที่เชื่อส่วนใหญ่จะเป็น "ชนชั้นกลวง"

น้ำท่วม ไม่ว่าเกิดจาก ใครสั่งน้ำได้ ใครปล่อยน้ำให้ท่วม หรืออะไรก็ตาม แต่มันก็คือ โอกาสในการทำลายรัฐบาลคุณยิ่งลักษณ์ พวกเขาก็ต้องโหม

ผมเชื่อว่า "พวกเขาจะไม่ใช่กองทัพ" ในเวลานี้ กองทัพจะให้ความร่วมมือกับรัฐบาลในการช่วยเหลือน้ำท่วม เพราะมันยังไม่ใช่ขั้นตอนที่ต้องใช้กองทัพ แต่เขาจะใช้สื่อ กับพรรคประชาธิปัตย์

ส่วนกองทัพนั้น เขาก็พยายามสร้างความนิยมไป อาจอิงแอบรัฐบาลหรืออะไรก็ได้ แต่มันยังไม่ใช่ขั้นตอนที่จะใช้กองทัพเป็นหัวหอก เราจึงเห็นความร่วมมือของกองทัพกับรับบาลคุณปู

แต่ในทางตรงกันข้ามนะครับ มันยังมีจุดอ่อนที่ต้องเสี่ยงอยู่

คือ เกิดคุณยิ่งลักษณ์สามารถช่วยเหลือชาวบ้าน ไม่ให้ถูกด่า ถูกโจมตีได้ และมีการจัดการอย่างเป็นที่ยอมรับได้ ผลจะทำให้ความนิยมคุณปูจะไม่ลดลง การโจมตีก็จะลำบากมากยิ่งขึ้น หากพ้นช่วงน้ำท่วมไปแล้ว หากรัฐบาลยังไม่ซวนเซ จะทำให้เกิดความแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น

ตอนนี้ผมว่า ปชป. มันจะออกมาโจมตีอย่างหนัก เพราะนี่เป็นโอกาสที่ดีที่สุดแล้ว

----------------------------------------------------------------------------------------------

ตอนนี้คุณยิ่งลักษณ์ก้มหน้าก้มตาแก้ปัญหาและไม่เคยตอบโต้ เมื่อโดนโจมตี  ฝ่ายนั้นยิ่งบ้าคลั่ง  ดูจากช่วงสองสามวันมานี่

โหมโจมตีทุกวิถีทาง  โจมตีแบบหน้าด้านๆ ก็เอาอย่างเช่นเรื่องรถชมรมคนรักอุดรที่ขนของมาช่วยก็เอามาโจมตีว่าขโมย

ความคาดหวังที่หวังว่าจะเกิดความวุ่นวายเพื่อให้รัฐบาลควบคุมไม่ได้ก็ไม่เิกิด  ผู้ที่เดือดร้อนมีความอดทนและกำลังใจที่ดี

อย่างน่าเหลือเชื่อ  หลายๆปัญหาก็จบลงได้โดยไม่บานปลาย  ถ้าหลังนำ้ลดเป็นไปอย่างที่คุณลูกชาวนาไทยว่า  ผมก็ว่าใคร

ก็โค่นไม่ลงแล้ว  ถ้าไม่ใช้วิธีหน้าด้านแบบที่เคยทำสำเร็จมาใช้อีก

----------------------------------------------------------------------------------------------

ผมว่าปัจจัยทั้งหลายทั้งปวงนั้นผมสรุปว่า ตอนนี้ "ประชาชนฉลาดและอดทน มีสติ" เกินกว่าที่พวกเขาคิดครับ

คือ คนมีการศึกษามากขึ้น สื่อทั้งหลายเป็นระบบสองทางมากขึ้น และประชาชนได้สัมผัสกับโลกกว้าง กลายเป็น "หมู่บ้านโลก" มากขึ้น ทำให้ความคิด ความเชื่อเฉพาะถิ่นนั้นไม่อาจที่จะมอมเมาคนได้อีกต่อไปครับ

พวกเขาใช้วิธีการเดิมๆ ในขณะที่ประชาชนมีการศึกษา และฉลาดมากขึ้น
ผลจึงไม่ได้เหมือนกับที่พวกเขาอยากให้เป็น

เนื่องจากสื่อกระแสรอง มีอิทธิพลมากขึ้น การใช้สื่อกระแสหลักแม้ยังมีพลังอยู่ แต่ก็ไม่เต็มร้อย อาจเหลือไม่ถึงห้าสิบเปอร์เซนต์ด้วยซ้ำ

การสร้างข่าวลือในสังคมเช่นนี้ แม้จะลามออกไปอย่างรวดเร็ว แต่ก็ดับได้อย่างรวดเร็วเช่นกัน เพราะสื่อมันออกได้ทั้งสองทาง และไม่มีใครผูกขาด ดังนั้นการแก้ข่าว ไม่จำเป็นต้องไปงอนง้อสื่อกระแสหลัก เพียงแต่เสนอความจริงผ่าน Twister หรือ facebook พร้อมหลักฐานภาพถ่าย คลิปต่างๆ ก็สามารถดับข่าวลือได้อย่างรวดเร็วแล้ว

ไม่เหมือนสมัยก่อนที่สื่อกระแสหลักควบคุม แม้จะผิดพลาดพวกสื่อไม่แก้ข่าวให้ ก็ไม่สามารถชี้แจงความจริงได้

ยุคนี้ทำคลิปออกยูทูป แถลงการณ์ชี้แจงความจริงเลยก็ได้ ประกอบหลักฐาน การสร้างข่าวลือแม้เร็ว แต่ดับเร็ว ข่าวลือจึงไม่ค่อยได้ผลอีกต่อไป

ข่าวลือจึงสู้ "ข้อเสนอทางวิชาการที่มีเหตุมีผล" ไมได้ เช่นข้อเสนอของนิติราษฎร์ หรือบทความของนักวิชาการต่างๆ ความเห็นในเว็บบอร์ด พวกนี้มีพลังตอบโต้กับข่าวลือในระบบเดิมๆ มากกว่า

ฝ่ายตรงข้าม ไม่คุ้นชินกับ "สภาพแวดล้อมของโลกข้อมูลข่าวสารยุคใหม่"

จึงใช้ยุทธวิธีล้าหลัง เครื่องมือที่พ้นสมัย ผลจึงอาจไม่ออกมาเป็นอย่างที่พวกเขาคิด

----------------------------------------------------------------------------------------------

น่าเห็นใจนายกปูจริงๆค่ะ โดนโจมตีตลอด ทั้งจากแมงสาป ทั้งหน้าม้า ทั้งสาวกที่พร้อมรุมสะกรัมทุกเวลาที่ลูกพี่มันปลุกกระแส   ยังไงก็ขอให้รัฐบาลแก้ปัญหาวิกฤตนี้ให้ผ่านพ้นไปได้ด้วยเถอะ โดยเฉพาะการช่วยเหลือเยียวยาทุกภาคส่วนหลังน้ำลด อย่าให้มันได้มีช่องสร้างกระแสโจมตีได้เลย

----------------------------------------------------------------------------------------------

กรณีที่ไม่มีรัฐประหาร

ผมมองว่า พรรคประชาธิปัตย์ จะอภิปรายในสภาพุ่งเป้านายกแน่นอน
ถึงจะล็อบบี้พรรคร่วมรัฐบาล ล็อบบี้งูเห่าในพรรคเพื่อไทย ภายนอกสื่อก็รุม
กดดันนายกให้ลาออกในที่สุด

แม้จะล้มยิ่งลักษณ์ได้ แต่ก็ล้มรัฐบาลไม่ได้
ถ้าุคุณยิ่งลักษณ์ ถูกบีบจนลาออก ก็ยังมีเฉลิม ประชา ปลอดประสพ
มิ่งขวัญ ยงยุทธ ฯลฯ อีกเกือบ 50 คน เป็นนายกแทนได้อยู่ดี

ยกเว้นว่า สื่อมวลชนจะสร้างกระแส จน ศาลรัฐธรรมนูญ ตัดสินให้ยุบพรรคอีก
แล้วล็อบบี้งูเห่าขึ้นมาอีกรอบ....อันนี้ก็ไม่รู้จะจบยังไงแล้ว

----------------------------------------------------------------------------------------------

ช่วงนี้เขาใช้การถล่มด้วยข้อมูลเท็จ เพื่อดิสเครดิต นายกปู กันเต็มที่ ทุกช่องทาง

ซึ่งส่วนใหญ่แล้ว มาจากเครือข่าย ปชป เป็นหลัก ตัวใหญ่กว่านั้นมีขยับนิดหน่อย

เขาต้องทำให้ได้ไม่เกินปีนี้ เพราะปีหน้า 111 หลุดแล้ว การล้มรัฐบาลเพื่อไทยจะเป็นไปไม่ได้เลย

โดยส่วนตัวคิดว่า ไร้สาระน่ะครับ เขาล้มรัฐบาลด้วยน้ำลายไม่ได้หรอก คนเสื้อแดงก็ยังสนับสนุน นายกปูและเพื่อไทยไม่ถดถอย ส่วนไอ้พวกที่มาเย้วๆ มันก็สาวกปชป อดีตพันธมิตร ผู้แปลงกายมาเป็นสลิ่มก็แค่นั้นเอง ส่วนคนอยุธยาอ่างทอง ลพบุรีดีไม่ดี คะแนนเพื่อไทยจะมากกว่าเดิมด้วยซ้ำไป

แต่ไม่ว่าอย่างไร หลังน้ำลด ศึกใหญ่คงจะตามมา

----------------------------------------------------------------------------------------------

กดดันให้ลาออกด้วยการอภิปรายนี่ ผมยังไม่เคยเห็นมาก่อนครับ มีแต่ยุบสภา ยุคนายชวนที่โดนกดดันให้ลาออก ก็เพราะว่าพรรคพลังธรรมของจำลอง จะยกมือค้าน ทำให้เสียงของรัฐบาลต่ำกว่าครึ่ง

คือ การกดดันให้ลาออกด้วยการพูดด่า นี่ผมว่าเป็นไปไม่ได้ครับ ยิ่งนายกฯปู ใจเย็นขนาดนั้น ด่าก็ด่าไป เผลอๆ อาจไม่สนใจฟังด้วยซ้ำ

นายกฯที่ทำตัวเป็นถนิมสร้อยกลัวการอภิปราย คือ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ที่ไม่ยอมให้ใครด่า
แต่มาตอนแก่ ก็โดนประชาชนด่าถอนหงอกเสียจนทำอะไรไม่ได้

ส่วนเสียงของพรรคร่วมนั้น ต่อให้ออกทุกพรรค ก็คงไม่มีความหมายอะไร เพราะพรรคเพื่อไทยมีเสียงเกินครึ่ง

คือรูปแบบงูเห่าแบบเนวินนั้นคงเกิดได้ยาก เพราะพิสูจน์ให้ สส.เห็นแล้วว่าในที่สุดก็จะหมดอนาคตทางการเมือง

คือหากไม่ทำรัฐประหาร หรือตุลาการวิบัติ ผมไม่เชื่อว่าจะล้มรัฐบาลได้หรอกครับ

ไม่ว่าจะชุมนุม ยึดสนามบินอีกลอบก็ไม่มีผล

แต่หากทำรัฐประหาร ก็คงปกครองไม่ได้ วุ่นวายเพราะเสื้อแดงมีเครือข่ายจัดตั้งที่สมบูรณ์แล้ว

ผมฟันธงเลยว่า การทำรัฐประหารนั้นทำไม่ได้แน่นอน ต่อให้บ้าอย่างไรก็ตาม คือทำแล้วไม่สำเร็จแน่นอน

ส่วนตุลาการวิบัตินั้น ยังมีเปอร์เซนต์ที่สูงกว่า แต่มันก็ไม่สามารถทำให้มีการเปลี่ยนข้างได้ เพราะเสียงของพรรคเพื่อไทยนั้นเด็ดขาด เพื่อไทยอาจหานายกฯคนอื่นได้ งูเห่าเกิดก็ปกครองไม่ได้อีกเช่นกัน

ที่สำคัญในพรรคเพื่อไทยไม่มีกลุ่มทางการเมืองใหญ่ๆ ที่มีพลังแบบเนวินแล้ว

ผมว่าเป็นความฝันลมๆ แล้งๆ ของพวก "ลูกหาบอำมาตย"

ตัวอำมาตย์ใหญ่จริงๆ ใหญ่มาก อาจไม่ค่อยสนใจเรื่องล้มยิ่งลักษณ์แล้วก็ได้ แต่ไม่ได้ห้ามลูกน้อง แต่ก็คงไม่มีแรงจูงใจให้ทำ คือ พวกเอ็งรับผิดชอบเองก็แล้วกัน อะไรประมาณนี้ แต่อำมาตย์เขาอาจจะเนียนกว่านั้นคือ สนับสนุนยิ่งลักษณ์กลายๆ (หรือวางเฉย) แล้วต่อรองเอาให้มาก พรรคเพื่อไทยอาจเกรงใจ

แต่หากจ้องล้มกัน ก็คงมีการสู้ ไม่ได้เกรงเหมือนก่อนเป็นต้น


จับฉ่าย


โชคชัย

อ้างจาก: ขุนศึก เมื่อ 12:01 น.  24 ต.ค 54
รถที่สามารถขนของบริจาคออกไปได้ต้องมีธงแดงแบบนี้ใช่ไหม









ของที่ประชาชนนำมาบริจาคมีการจับจองแสดงความเป็นเจ้าของแบบนี้ใช่ไหม











ปชปหัวก้าวหน้า  ที่ท่านนำมาเราก็เห็นด้วย แต่การที่คนบางกลุ้มฉวยโอกาศแบบนี้ ท่านยังไม่ตาสว่างอีกหรือครับ ( หรือ ถ้าท่านจะตอบ กระทู้ข่างบน จากภาพ เอาคำตอบนี้มาดีกว่านะครับ )
บ้านผมหม้ายใหร ยังแต่ไผ่กับโหนด

คนใต้ใจซื่อ

สรุปว่าประเทศไทยหายนะเพราะ2พี่น้องนี้แท้ๆ พี่ทำให้เกิดไฟใต้และเผาบ้านเผาเมือง น้องมาวารีพิโรธ

หมดเวลาปรองดอง

เรียน ปชปหัวก้าวหน้า

ถึงว่าผู้นำจะโง่อย่างเดียว ลูกสมุนยังโง่ด้วย

เอาอยู่

.


...มาดูเสาไฟฟ้า ทะเลาะกะเสื้อแดง....


ภาคนิยม....น้ำก้อท่วม ประชาชนแตกแยก โกงกินยังมี.... ส-ดีใจ ส-เหอเหอ

ฉลอง เรี่ยวแรง


choub

ผมว่าเหมือนกันทุกยุกทุกที่ ดูเองว่าเงินใคร
ประชาธิปไตยที่แท้จริง ต้องรับฟังเสียงส่วนใหญ่
มองโลก และ เพื่อน พี่น้อง ในแง่ดีแล้ว...ชีวิตมีสุข

ขุนศึก

ลองอ่านข่าวนี้กันหน่อยครับ ส่วนตัวผมเชื่อว่าเดี๋ยวทางสส.เสื้อแดงก็คงตอบโต้ และสุดท้ายคงจบเรื่องกันในที่ประชุมพรรค แต่หากไม่มีมูลมีหรือสส.เพื่อไทยรายนี้จะออกอาการแบบนี้

'ฉลอง เรี่ยวแรง'ฉุน'ศปภ.'เอาใจแต่เสื้อแดง

http://www.bangkokbiznews.com/home/detail/politics/politics/20111026/415793/%E0%B8%89%E0%B8%A5%E0%B8%AD%E0%B8%87-%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%A2%E0%B8%A7%E0%B9%81%E0%B8%A3%E0%B8%87-%E0%B8%89%E0%B8%B8%E0%B8%99%E0%B8%A8%E0%B8%9B%E0%B8%A0.%E0%B9%80%E0%B8%AD%E0%B8%B2%E0%B9%83%E0%B8%88%E0%B9%81%E0%B8%95%E0%B9%88%E0%B9%80%E0%B8%AA%E0%B8%B7%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B9%81%E0%B8%94%E0%B8%87.html

ศรีธันยา

คุณ ปชปหัวก้าวหน้า 

ไม่มีใครจะล้มรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ถ้าท่านมีความสามารถจริงและพวกครม.สส.พวกเสื้อแดงยกเว้นเสื้อแดงที่ดีไม่รู้ว่าจะมีมั๊ย
ที่หาประโยชน์จากเหตุการณ์นี้ ผมว่าก็เห็นกันอยู่ว่าคุณยิ่งลักษณ์ ไม่มีความสามารถมีแต่นามสกุล ผมรู้ว่าน้ำท่วมครั้งนี้แก้ไขยากไม่ว่าใคร แต่คุณยิ่งลักษณ์ไม่มีสภาวะผู้นำไม่มีการบริหารจัดการที่ดีก็เห็นกันอยู่

คุณต้องยอมรับความจริงบ้าง ไม่ใช่มัวไปโยนความผิดให้คนอื่น เบี่ยงเบนประเด็น
หาว่าคนอื่นใส่ร้าย
มีคนสั่งให้น้ำท่วม
มีคนจ้องล้มรัฐบาล
คันหูไม่รู้เป็นอะไร เสื้อแดงช่วยเกาก็ไม่หาย ยิ่งช่วยเกาก็ยิ่ง shift หาย ..........โอ๊ย อูย.... คัน.....
คันหูก็ต้องเกาให้ถูกที่เกาผิดที่ก็ต้องโดนวิจารณ์เป็นธรรมดา
                         ถ้าทำดีแล้วโดนด่าก็ให้มันรู้ไป แต่นี้-งทำอะไรของ-ง  มั่วไปวันๆ  รัฐบาลบาลเสื้อแดง

แนต

ตอนนี้มีเป็นคลิปวิดีโอเลยค่ะ

             เรื่องรูป ที่มีป้ายผ้าสีขาว ตัวอักษรสีแดง เป็นชื่อทักษิณ นั้น .. ทางศ.ป.ภ. ออกมาตอบโต้ แก้ตัว ว่ารถของกลุ่มคนเสื้อแดงที่มาจอดที่ ศปภ. นั้น กลุ่มเสื้อแดงได้รับของบริจาคมาเต็มคันรถ และนำมาจอดที่ ศปภ.เพื่อประสานว่าจะลงพื้นที่ที่จุดใดเท่านั้น เช่นเดียวกับ รถบรรทุกที่มีป้ายชื่อของ พ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ก็เป็นของกลุ่มเสื้อแดง ที่รักและศรัทธาในตัวของ พ.ต.ท.ดร.ทักษิณ เท่านั้น ... ตามลิ้งค์นี้นะคะ ข่าวลงใน mthai ค่ะ

http://news.mthai.com/headline-news/136886.html


            แต่แล้ว เมื่อคืนนี้เลย เราก็ได้เห็นคลิปหนึ่ง ทีแรกลงในเฟศบุ๊คก่อนค่ะ แล้วมีคนเอาไปลงใน youtube มีคนไปถ่ายไว้ คือคนที่เค้าไปช่วยแพ็คของที่ศ.ป.ภ. แล้วอยากจะให้ได้เห็นความจริงเกี่ยวกับรถบรรทุกคันนี้ อยากจะพิสูจน์ว่า ที่ศ.ป.ภ.ออกมาแก้ตัวนั้น เป็นความจริงไหม?? ตามลิ้งค์นี้ค่ะ

http://www.youtube.com/watch?v=KR3kAkcBFEQ&feature=related


            ดูแล้วก็ ลอง...พิจารณาเอาเองนะคะ ว่าข่าวทั้งสองลิ้งค์ที่นำมาให้ดู มัน "สวนทาง" กันไหม??

            ตกลง คนเสื้อแดง รัฐบาล ทักษิณ ศ.ป.ภ. โดนดิสเครดิต เหรอ??  โดนใส่ร้าย เหรอ??? มีคนจ้องจะล้มรัฐบาล เหรอ??  ... . งั้นก็แสดงว่าในคลิปนี้ คนเหล่านี้ จงใจออกมาสร้างภาพแสดงละคร ใส่ร้ายป้ายสีคนเสื้อแดง ทักษิณ และ ศ.ป.ภ. สินะ ... เหอะๆ

ดักดาน

อ้างถึงโครตโกงนี่ มันจะเล่นทุกรูปแบบ  ถ้าหัวส่าย  หางมันก็ทำ  วิธีแบบนี้ ล่ะก็เสื้อแดงถนัดนัก  ทั้งหัวทั้งหางไงครับ
สำหรับสมาชิกแดงทุกท่านครับโง่ได้ แล้วฉลาด คือเก่งขึ้น  โง่แล้วดักดาน ก็เป็นขี้ข้าเขา ตลอดไปครับ
[/size]

ปชปหัวก้าวหน้า

ร้าวลึกการเมืองเรื่องน้ำท่วมนับถอยหลังพังกันไปข้าง

    การไม่หยุดปัดแข้งปัดขาแม้ในสภาวะวิกฤตที่สุดของชาติ แสดงให้เห็นถึงความจริงข้อหนึ่งของประเทศไทย ที่ว่าความแตกแยกในสังคมไทยตอนนี้มันบาดลึกยากเยียวยา เสียจนทำให้ ความเชื่อทางการเมือง สามารถอยู่เหนือ ความรับผิดชอบต่อสาธารณะ และ ความฉุกเฉินในการเยียวยาประเทศได้


    ประเทศไทยไม่ได้เป็นประเทศที่ประชาชนยินดีที่จะทิ้งความแตกแยกไว้ข้างหลังแล้วจับมือฟันฝ่ามหันตภัยไปด้วยกันอีกต่อไปแล้ว การอาศัยภัยภิบัติของชาติเพื่อกำจัดศัตรูทางการเมืองจึงกลายเป็นสิ่งที่ยอมรับได้ในปัจจุบัน-ปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์' นักวิจัยจากสถาบันเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ศึกษาแห่งสิงคโปร์



    ความขัดแย้งทางการเมืองในหลายปีที่ผ่านมา ยัง "ร้าวลึก" เพราะขนาดน้ำท่วมระดับ "หายนะ" เช่นนี้ ความขัดแย้งก็ยังแสดงออกรุนแรงมาก...ลำพังการชูเรื่อง "ปรองดอง" นี่ มันคงไมใช่คำตอบจริงๆ..
    เรื่องน่าเศร้าคือ ในประวัติศาสตร์ เมื่อมีความขัดแย้งในลักษณะ "มูลฐาน" (fundamental) เช่นที่เรากำลังเห็นในขณะนี้ มันต้องลงเอย หรือ "ยุติ" ลงด้วยการที่ ฝ่ายใด ฝ่ายหนึ่ง "พัง" ไป-ดร.สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล นักวิชาการ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

ปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์: แม้แต่หายนภัยของประเทศ ก็ไม่วายถูกใช้เป็นอาวุธทางการเมือง

'ปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์' นักวิจัยจากสถาบันเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ศึกษาแห่งสิงคโปร์ เขียนบทความวิเคราะห์สถานการณ์น้ำท่วมในไทย ที่ได้กลายเป็น 'อาวุธทางการเมือง' ที่ฝ่ายตรงข้ามนำมาโจมตีนายกยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และสะท้อนถึงความแตกแยกอันร้าวลึกในสังคมไทย

    "แม้แต่หายนภัยของประเทศ ก็ไม่วายถูกใช้เป็นอาวุธทางการเมือง"


เว็บไซต์ประชาไท แปลจาก Pavin Chachavalpongpun. Even this national disaster is being used as a political weapon. ตีพิมพ์ครั้งแรกในนสพ. The Nation, 26/10/54
http://www.nationmultimedia.com/opinion/Even-this-national-disaster-is-being-used-as-a-pol-30168516.html

ปชปหัวก้าวหน้า

    เธอมันชะนีปัญญาทึบ

    เธอโง่เหมือนควาย, สวยไร้สมอง, บาร์บี้หัวกลวง , ผู้นำหญิงเป็นกาลกิณี ทำให้เกิดหายนะของชาติฯลฯ


นี่คือสิ่งที่เหล่าบรรดาขาประจำชนชั้นกลาง-สูงกำลังเรียกขานนายกยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อยู่ในเวลานี้


พื้นที่บางส่วนของประเทศไทยได้กลายเป็นทะเลมาระยะหนึ่งแล้ว กรุงเทพฯเองก็กำลังเตรียมตัวรับน้ำก้อนใหญ่นี้ ในไม่ช้ามหานครแห่งนี้อาจจะไม่แคล้วกลายเป็นสระว่ายน้ำยักษ์ ขณะเดียวกันยิ่งลักษณ์ก็กำลังจมจวนขาดใจภายใต้สายวาีรีการเมือง นี่ไม่ใช่แค่เรื่องของมหันตภัยธรรมชาติอีกต่อไป แต่มันกลายเป็นเกมการเมืองอันบ้าคลั่ง

การวิพากษ์วิจารณ์ในเรื่อง "ความโง่" กลายเป็นที่แพร่หลายอย่างไม่หยุดหย่อน ภาพลักษณ์ของยิ่งลักษณ์ถูกทำให้กลายเป็นตัวแทนของ "ความโง่" โดยมีเป้าหมายที่เดาไม่ยากคือทำลายความน่าเชื่อถือส่วนตัว และ ทำให้ความพยายามในการแก้ปัญหากลายเป็นเหมือนเรื่องเด็กเล่น

    แต่การจะใช้เรื่องของระดับสติปัญหา "ความโง่" มาประเมินผลงานของยิ่งลักษณ์ จะต้องตั้งอยู่บนสมมติฐานว่าปกติการเมืองไทยเป็นอาณาจักรแห่งคนอัจฉริยะ ซึ่งก็น่าสงสัยว่าแล้วเหตุไฉน ผู้นำในอดีตเกือบทั้งหมดต่างก็ล้มเหลวในการแก้ปัญหาเรื้อรังอันเนื่องมาจากภัยน้ำท่วม


ถ้าเราจะตัดสินยิ่งลักษณ์ด้วยคำสักคำ บางทีคำว่า "อ่อนแอ" น่าจะเหมาะสมกว่าสำหรับการบ่งชี้ภาวะผู้นำของเธอ เป็นเรื่องจริงที่ว่าเธอตอบสนองต่อปัญหาน้ำท่วมได้ช้าไม่ทันท่วงที ถึงแม้การลงพื้นที่อย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยจะแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่น แต่ในยามวิกฤตอย่างนี้เธอกลับล้มเหลวในการบรูณาการหาทางผ่อนหนักให้เป็นเบา แต่เนื่องจากมันง่ายกว่าที่จะโทษคนอื่นในยามวิกฤต ทุกคนจึงพากันโทษไปที่ยิ่งลักษณ์กับการขาดความสามารถในการบริหารจัดการวิกฤตของเธอ

แต่มันยุติธรรมหรือเปล่าทีจะโยนความผิดทั้งหมดไปให้กับยิ่งลักษณ์ เธอควรจะรับผิดเพียงผู้เดียวต่อผลจากอุทกภัยครั้งประวัติการณ์นี้หรือ? แล้ว ทำไมกรมชลประทานจึงยังกักเก็บน้ำไว้ในเขื่อนที่สำคัญในช่วงต้นฤดูฝน และไม่ยอมระบายน้ำออกทั้งที่มีพายุฝนกระหน่ำต่อเนื่องในปีนี้? ทำไมรัฐบาลก่อนหน้าซึ่งก็พึ่งเผชิญหน้ากับปัญหาอุทกภัยมาจึงไม่ได้วางระบบการบริหารจัดการน้ำที่มีประสิทธิภาพ?

ข่าวลือ ข่าวลวง ข่าวเท็จ ที่เกี่ยวกับน้ำท่วมครั้งนี้มากมายในโซเชียลเนทเวิร์กต่างๆ ภาพซึ่งถูกถ่ายไว้ตั้งแต่ช่วงหาเสียงเลือกตั้งของยิ่งลักษณ์ขณะกำลังใช้โทรศัพท์มือถือถ่ายภาพจากเฮลิคอปเตอร์ถูกส่งต่อไปทั่วในเฟสบุ๊คโดยมีคำอธิบายว่า

    "ประเทศกำลังวิกฤติ แต่ชีกลับแฮปปี้แก้มปริ"

นอกจากนี้ภาพของสาวฟิลิปปินส์ที่ดูเผลินๆคล้ายยิ่งลักษณ์ ขณะกำลังปาร์ตี้และกระดกวิสกี้จากขวด ก็ถูกแชร์ไปทั่วอินเตอร์เนท

ข่าวเรื่องพระราชดำรัสของในหลวงที่ว่าถ้าหากน้ำท่วมกรุงเทพฯให้ปล่อยน้ำให้ท่วมวังจิตรดาได้เลยไม่ต้องป้องกัน ที่สุดท้ายกลายเป็นเรื่องโอละพ่อ ถูกปฏิเสธโดยสำนักพระราชวัง

ภาพขณะที่พระเทพฯทรงพระราชทานถุงยังชีพในปีที่แล้ว (2553) ก็ถูกแพร่กระจายอย่างตั้งใจที่จะทำให้คนไทยเข้าใจผิด

นี่จะเป็นส่วนหนึ่งของการร่วมกันโจมตียิ่งลักษณ์โดยมีจุดหมายที่การทำลายความเชื่อมั่นในรัฐบาลหรือไม่? แน่นอนที่สุดว่าพรรคฝ่ายค้านอย่างประชาธิปัตย์กำลังสารวลในการแย่งความชอบธรรมจากรัฐบาลยิ่งลักษณ์ หัวหน้าพรรคอย่างอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะเองก็ผลักดันอย่างสุดลิ่มทิ่มประตูให้ประกาศ พรก.ฉุกเฉิน เพื่อสู้กับภัยน้ำท่วม ภายใต้พรก.นี้ กองทัพจะได้รับอำนาจให้สามารถปฏิบัติการได้อย่างที่กองทัพต้องการ ซึ่งในบางเรื่องอาจจะไม่ได้รับการอนุมัติจากรัฐบาลขณะนี้ อย่างไรก็ตามอภิสิทธิ์ไม่ได้อธิบายว่ากองทัพจะสามารถรับมือกับปัญหาน้ำท่วมได้ดีกว่ารัฐบาลยิ่งลักษณ์ได้อย่างไร

อภิสิทธิ์ยังได้ทำงานอย่างใกล้ชิดร่วมกับ มรว.สุขุมพันธ์ (บริพัตร) เพื่อ"แข่งขัน" ไม่ใช่ "ร่วมมือ" กับรัฐบาล ยิ่งลักษณ์ถูกหลายคนตราหน้าว่า "โง่" แต่ขณะเดียวกันสุขุมพันธ์ก็แสดงให้เห็นถึงความศรัทธาในพิธีกรรมที่มีรากมาจากขอมเพื่อ "ไล่น้ำ" ว่าเป็นหนึ่งในมาตรการป้องกันมหานครจากน้ำท่วม เขายังแสดงความหวงพื้นที่อย่างมาก จนคราหนึ่งถึงกับประกาศกร้าวว่า

    "ขอให้ทุกคนฟังผมคนเดียวเท่านั้น ผมจะเป็นคนบอกให้อพยพเอง"


ในเวลาเดียวกัน ภาพของทหารที่ลงไปในพื้นที่เพื่อช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วมเป็นที่ประทับใจอย่างมาก แต่ทหารก็เช่นเดียวกับผู้ว่า กทม. คือ ทำงานอย่างเป็นอิสระจากรัฐบาล แสดงให้เห็นภาพของการแข่งขันอย่างดุเดือดระหว่างรัฐบาลกับฝ่ายตรงข้าม และเสียงวิจารณ์ที่แรงที่สุดคือการขอให้ยิ่งลักษณ์ลาออก

ในขณะที่ฝ่ายสนับสนุนรัฐบาลก็ตีความภาพการแก่งแข่งชิงผลงาน และ แรงกดดันให้นายกลาออก เป็นส่วนหนึ่งของแผนการ "รัฐประหารด้วยน้ำ"

การไม่หยุดปัดแข้งปัดขาแม้ในสภาวะวิกฤตที่สุดของชาติ แสดงให้เห็นถึงความจริงข้อหนึ่งของประเทศไทย ที่ว่าความแตกแยกในสังคมไทยตอนนี้มันบาดลึกยากเยียวยา เสียจนทำให้ ความเชื่อทางการเมือง สามารถอยู่เหนือ ความรับผิดชอบต่อสาธารณะ และ ความฉุกเฉินในการเยียวยาประเทศได้

    ประเทศไทยไม่ได้เป็นประเทศที่ประชาชนยินดีที่จะทิ้งความแตกแยกไว้ข้างหลังแล้วจับมือฟันฝ่ามหันตภัยไปด้วยกันอีกต่อไปแล้ว การอาศัยภัยภิบัติของชาติเพื่อกำจัดศัตรูทางการเมืองจึงกลายเป็นสิ่งที่ยอมรับได้ในปัจจุบัน


การทุ่มเทสรรพกำลังทั้งหมดเพื่อป้องกันเมืองหลวงจากการจมอยู่ใต้น้ำนี้ยังสะท้อนให้เห็นถึงทัศนคติที่นึกถึงแต่ตัวเองของชาวกรุง กรุงเทพที่เป็นอีกครั้งหนึ่งที่กลายเป็นสัญลักษณ์ของความขัดแย้งทางการเมือง ในขณะที่จังหวัดอื่นต่างต้องทนทุกข์อยู่ใต้น้ำที่ไม่มีวี่แววว่าจะลดมานาน มันแสดงให้เห็นถึงความเหลื่อมล้ำอย่างมากระหว่างคนต่างจังหวัดกับคนเมืองหลวง

ตอนนี้ดูเหมือนว่า คนที่บ่นมากที่สุด โวยวายเสียงดังที่สุด กลับกลายเป็นคนกรุงเทพ ทั้งที่สวรรค์เป็นใจให้กว่าสองเดือนมาแล้ว พื้นที่ส่วนใหญ่ในเมืองกรุงยังถูกปกป้องให้คงความแห้งสนิทไว้ได้ ยิ่งลักษณ์เองกำลังตกอยู่ในกับดักความเหลื่อมล้ำทางการเมือง เธอเข้าใจถึงความจำเป็นอย่างยิ่งยวดที่จะต้องป้องกันกรุงเทพไว้เพื่อเอาใจเหล่าขาประจำชาวกรุง

แต่การทำงานที่ล่าช้าก่อนหน้านี้ไม่สามารถป้องกันจังหวัดรอบข้างไม่ให้จมอยู่ใต้น้ำได้

ปชปหัวก้าวหน้า

สมศักดิ์ เจียมฯ:ลึกๆลงไปในการเมืองเรื่องน้ำท่วม

    ความขัดแย้งทางการเมืองในหลายปีที่ผ่านมา ยัง "ร้าวลึก" เพราะขนาดน้ำท่วมระดับ "หายนะ" เช่นนี้ ความขัดแย้งก็ยังแสดงออกรุนแรงมาก...ลำพังการชูเรื่อง "ปรองดอง" นี่ มันคงไมใช่คำตอบจริงๆ.. เรื่องน่าเศร้าคือ ในประวัติศาสตร์ เมื่อมีความขัดแย้งในลักษณะ "มูลฐาน" (fundamental) เช่นที่เรากำลังเห็นในขณะนี้ มันต้องลงเอย หรือ "ยุติ" ลงด้วยการที่ ฝ่ายใด ฝ่ายหนึ่ง "พัง" ไป


ดร.สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล นักวิชาการด้านประวัติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์เขียนลงในเฟซบุ๊คสมศักดิ์ เจียมธีรสกุลว่า ทุกคน คงเห็นกันแล้วว่า ความขัดแย้งทางการเมืองในหลายปีที่ผ่านมา ยัง "ร้าวลึก" เพราะขนาดน้ำท่วมระดับ "หายนะ" เช่นนี้ ความขัดแย้งก็ยังแสดงออกรุนแรงมาก โดยเฉพาะในสังคมระดับ "ในเมือง" และ "ออนไลน์" ทั้งหลาย

ผมเห็นคุณ @Apichet Piyasri โพสต์ไว้ที่ไหนสักแห่ง ว่า เป็นเพราะคุณยิ่งลักษณ์เป็นผู้หญิง

ผมคิดว่า ปัญหามัน "ลึก" กว่านั้นนะครับ (ผมว่า ถ้า ตอนนี้ ปชป. เป็นรัฐบาล และมีผุ้นำเป็นผู้หญิง ก็คงไม่มีปัญหาออกมาในลักษณะนี้)


อย่างที่แสดงออกเรื่อง คนระดับ อ.จุฬา ออกมาพูดเรื่อง "ต้องใส่เสื้อแดงถึงเข้าไปที่ ศปภ ได้" แล้ว ทีสำคัญ มีคนเชื่อเยอะมาก (ผมดูจาก Twitter คนที่มาเชียร์คุณ ปรเมศวร์ หลายคน ยังยกเรื่องนี้ขึั้นมาพูด ทั้่งๆที่ ประชาไท และสื่อเสื้อแดงหลายแห่ง เอาหลักฐานมาแสดงให้เห็นว่า ไม่จริง แล้ว หลายวัน)

หรือกรณีที่ มีการเชียร์ทหารพร้อมๆกับการด่ายิ่งลักษณ์ไปด้วย (แม้แต่กรณีคุณ ปรเมศวร์ เอง)


เดี๋ยวจะหาว่า ผมชอบโยงเข้าเรือ่ง "สถาบัน" อยู่เรื่อย แต่ผมว่า ความขัดแย้งที่ร้าวลึกนี้ ในที่สุด มันมี "เส้นแบ่ง" สำคัญ ตรงนี้จริงๆ

คือระหว่าง การยอมรับ อำนาจที่มาจากการเมืองเปิด ทีให้คนเลือกตั้ง คนส่วนใหญ่ตัดสิน

หรืออำนาจ ที่ไม่ได้มาจากการเลือก แต่มาจากการสร้างระบบบังคับ "โปรแกรม" ให้จงรักภักดี

นี่คือ "ทวิอำนาจ" หรือ Dual Power ที่ผมเคยพูดถึงบ่อยๆว่า เป็น "สาเหตุ" พื้่นฐานที่สุด ของรัฐประหาร 19 กันยา และวิกฤต 5 ปีทีผ่านมา

ผมคิดว่า ถ้าพูดกันให้ถึงที่สุด ระหว่าง "2 ฟาก" ที่เถียงๆกันอยู่นี้ ในทีสุด จะมา "ลง" ที่เรื่องนี้แหละ

(ผมไม่นับเรื่อง "ทหาร" เพราะ ดังที่ผมพูดหลายครั้งแล้วว่า ผมว่า "ทหาร" ในปริบทประวัติศาสตร์ปัจจุบัน ไมใช่พลังการเมืองที่เป็นเอกเทศ ทีสามารถแสดงบทบาทนำทางการเมืองได้แท้จริง เอาง่ายๆนะ บรรดา คนที่ออกมาเชียร์ทหาร ด่ายิ่งลักษณ์ ตอนนี้ ถ้าถามว่า ให้ตั้งรัฐบาลทหารเต็มที่เลยไหม ผมว่า พวกเขาก็ไม่เอา และไม่นับว่า ทหารเอง ก็ไม่มีความสามารถในการตั้งรัฐบาลเองด้วย .... อย่าง 19 กันยา นี่ รัฐบาลทหาร ที่ไหน "รัฐบาลพระราชทาน" นายกฯ มาจากองคมนตรี ต่างหาก)

ทีผมพยายามคิดคือ ในการเมืองปัจจุบัน ทีมีลักษณะ "มวลชน" สูง ทั้ง 2 ฝ่าย คือ ไม่ใช่เรื่องทีระดับ "นำๆ" จะไป ตกลง หรือ ทำอะไรกันเองได้เฉยๆ แต่มีคนระดับธรรมดาๆ - เอาง่ายๆทีเห็นๆกัน คนเล่น fb เป็นแสนเป็นล้าน - เข้ามามีส่วนร่วมด้วยอยู่นี้

อย่างการเลือกตั้งครั้งหลัง ฝ่าย เพื่อไทย นี่ชนะ "ถล่มทลาย" จริง แต่ถ้าเราดูตัวเลข ที่ ปชป. ได้รับเลือกตั้ง ก็หมายถึงคนเป็นสิบล้านเช่นกัน

จริงๆ ถ้าในสถานการณ์อื่น การมีพรรค หรือ "ฟาก" การเมืองใหญ่ 2 ฟาก แล้วมีคนสนับสนุนกันเยอะๆ เป็นสิบๆล้าน ในแต่ละฟาก (นึกถึงอังกฤษ หรือ อเมริกา หรือ ประเทศ ตต.จำนวนมาก)

ก็คงไม่เป็นไร ใครชนะเลือกตั้ง ก็เป็นรัฐบาลไป คนอีกเป็น 10 ล้าน อีกฟากที่แพ้ ถึงไม่ชอบ ก็ไม่มีปัญหาอะไร

แต่ปัญหาคือ ในสถานการณ์ประเทศไทย อย่างที่ผมเสนอข้างต้นว่า ความขัดแย้งนี้ มีลักษณะที่เป็น "มูลฐาน" หรือ fundamental มากๆ .. ปัญหา จะยอมรับ อำนาจที่มาจากการเลือกตั้ง เป็นอำนาจนำของประเทศ หรือจะยังคง ยืนยันให้อำนาจที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง ที่รวมศูนย์ที่สถานะ/อำนาจ ของสถาบันฯ เป็นอำนาจทีนำประเทศ

ปัญหาลักษณะ fundamental หรือ "มูลฐาน" ระดับนี้ ถ้าเกิดเป็นความขัดแย้ง อย่างทีเราเห็นในปัจจุบัน

ลำพัง เลือกตั้งแล้ว ใครชนะ เป็นรัฐบาล จะไม่สามารถทำให้เกิดภาวะ "ปกติ" ได้

อย่างที่เห็นว่า แม้แต่ วิกฤติหายนะ ระดับน้ำท่วมใหญ่ขนาดนี้ ยังไม่ทำให้ปัญหาลดความรุนแรงแหลมคมลงไปแต่อย่างใด ....


ในที่สุดแล้ว เราจะ "อยู่ร่วมกัน" อย่างไรดี?


คือ ถ้าเราดูย้อนไปก่อน น้ำท่วม นิดหนึ่ง ช่วงดีเบต เรื่อง "ข้อเสนอนิติราษฎร์" ความจริง ก็มีลักษณะคล้ายๆกัน คือเหมือนพูดกันคนละภาษา คนละเรื่อง (คนละประเทศ) อะไรขนาดนั้นเลยจริงๆ

หลายวันนี้ ผมคิดถึงเรื่องนี้เยอะนะว่า ต้องยอมรับว่า ในภาวะสังคม "ปกติ" ไม่ว่าประเทศไหน ก็มีความแตกต่างทางการเมืองอยู่ อย่างที่ผมเขียนไปว่า ในประเทศตะวันตก เราเองก็เห็น การแบ่งเป็นเสียงสนับสนุนพรรคการเมือง หรือ ขั้วการเมืองใหญ่ๆ 2 พรรคหรือ 2 ขั้ว โดยทัวไป

แต่ว่า ในภาวะปกติ ไม่ว่าจะเชียร์พรรคไหน หรือขั้วไหน ท้ัง 2 ฟาก จะมี "จุดร่วม" ที่ยอมรับร่วมกันบางอย่างอยู่

ปัญหาประเทศไทยตอนนี้ และลักษณะที่ แหลมคม และ "ลึก" และเป็น "มูลฐาน" ของความขัดแย้งทางการเมืองในขณะนี้คือ

    มันไม่มี "จุดร่วม" ทียอมรับร่วมกันจริงๆ โดยเฉพาะ คือ "จุดร่วม" ที่มีลักษณะผมเรียกว่า fundamental หรือ "มูลฐาน"


คือ เรื่อง "อำนาจ" แบบไหน จะถือเป็นอำนาจในการนำประเทศ (อย่างใน ตะวันตก ในยามปกติ ไม่ว่า เชียร์พรรคไหน ทุกฝ่าย ก็ยอมรับ อำนาจทีมาจากกติกาเลือกตั้ง รัฐสภา และ ระบบศาล อันเดียวกัน)

คือตอนนี้ ในประเทศเรา ไมมีจุดที่ "ยอมรับร่วมกันได้" จริงๆ ในเรื่อง "มูลฐาน" เชิงอำนาจทีว่านี้

ไล่เรียงกันมาเลย ตั้งแต่ปัญหาสถานะสถาบันฯ ถึงศาล ถึง กองทัพ (และทีแสดงออกรวมศูนย์ คือ เรื่อง รัฐประหาร)

ผมว่า ในที่สุด ภาวะนี้ มันต้องหาทางออก หรือไม่งั้น ก็ต้องเสี่ยงลงเอยทีการปะทะ และความรุนแรงอีก

และที่แนๆ ลำพังการชูเรื่อง "ปรองดอง" นี่ มันคงไมใช่คำตอบจริงๆ

******
อันนี้ เป็น "สรุป" - ไมใช่คำตอบนะครับ


Bad News หรือ "ข่าวร้าย" หรือ "เรื่องน่าเศร้าคือ ในประวัติศาสตร์ ไม่ว่า ในประเทศไทยหรือประเทศไหนๆ เมื่อมีความขัดแย้งในลักษณะ "มูลฐาน" (fundamental) เช่นที่เรากำลังเห็นในประเทศไทยขณะนี้

มันต้องลงเอย หรือ "ยุติ" ลงด้วยการที่ ฝ่ายใด ฝ่ายหนึ่ง "พัง" ไป

อย่างครั้งสุดท้าย ในประเทศไทย ที่มีความขัดแย้ง "มูลฐาน" ทำนองนี้ ยืดเยื้อเป็น 10-20 ปี คือ ระหว่างรัฐ กับ ขบวนการปฏิวัติ ที่นำโดย พคท. และแนวร่วมต่างๆ

ในที่สุด ความขัดแย้งที่มีลักษณะ "มูลฐาน" นั้น ก็ยุติ ลงด้วยการที่ฝ่ายหลัง "พัง" ไป

ไม่เคยมีการ "ประนีประนอม" ที่ "ลงตัว" ในลักษณะ "แบ่งๆกันไป" ได้เลย เพราะความขัดแย้งมันมีลักษณะ "มูลฐาน" เกินกว่าจะ "แบ่งๆกันไป" ได้ - อันนี้ ไม่ได้แปลว่า ต้อง "รุนแรง" หรือ เปลี่ยนอย่างสันติ ไม่ได้นะครับ อย่างกรณี อัฟริกาได้ ในที่สุด ระบอบ Apartheid ก็ "พัง" ไป และ เปลี่ยนเป็น majority rule หรือ ระบอบปกครองโดยคนส่วนมาก ช่วง "เปลียน" ก็เรียกว่า "สันติ" แม้ว่า ก่อนหน้าน้น หลายสิบปี ก็เสียชีวิตผู้คนไปนับไม่ถ้วน


ความขัดแย้งในปัจจุบัน จะ "ยุติ" อย่างไร?

Mr.No

[attach=1]

สติ๊กเกอร์เล็ก ๆ ที่แปะติดข้างเรือ เขียนว่า "ใช้ในราษฎร คนเสื้อแดง เท่านั้น !"  นี่แหละคือสิ่งที่แสดงถึงก้นบึ้งความแบ่งแยกตามสไตล์เสื้อแดง...

คนเสื้อแดง แท้จริงแล้ว นอกจากจะไม่ค่อยใช้ปัญญาพิจารณาถูกผิดแล้ว...ยังมีอคติ..มีความอาฆาต..ริษยา สูงไม่ต่างกับ หน้าเหลี่ยมดูไบแดงตัวพ่อ

และที่สำคัญ การได้เป็นรัฐบาลของเสื้อแดง  กลับกลายเป็นเรื่องของการจัดสรรแบ่งปันอำนาจตอบแทน ให้พวกเดียวกัน แบบที่ไม่ต้องดูว่า ใครจะมีความสามารถเพียงใด..

เดิมมีอาชีพแค่ปาหี่เล่นตลก....ก็กลับกร่างคับฟ้า
เดิมแค่ดาราหนังโป้....ก็กลายเป็นโฆษกหน้าขาว
เดิมแค่ตลกสภาโจ๊ก..... ก็ใหญ่โตคับฟ้า คุมของบริจาค

แต่ละคน...แต่ละตัว  ดูแล้ว มัวหมองประเทศตั้งแต่แรกแล้ว..

ดังนั้น ไม่แปลกที่เมื่อเกิดมหาภัย จะพบว่า รอบข้าง นายกหญิง กลายเป็นแต่ นักการเมืองและลิ่วล้อที่เก่งแต่ประจบสอพลอ และไร้ฝีมือบริหารแทบทุกคน..

นักคิด..นักวิชาการ...นักปราชญ์ ล้วนหลบลี้หายไม่อยากคบหา....
สุดท้าย ... ได้แค  บลาๆ  คลอน้ำตาแก้ปัญหาไปวัน ๆ ....

การที่ทุกคนออกก่นด่า รัฐบาลว่าห่วย... กลับถูกมองว่า เป็นการเอาน้ำท่วมมาเป็นเกมการเมืองทำลายรัฐบาล...

อยากจะบอกดัง ๆ ว่า    "ไร้ฝีมือ...หมดปัญญา"  ก็อย่าอยู่ให้ชาติมันวิบัติมากไปกว่านี้เลย.... 
..ขอเป็นแค่ "มนุษย์" ที่อาศัยโลกใบนี้สำหรับ เกิด.แก่.เจ็บ.ตาย อย่างนอบน้อมและคารวะ.

จับฉ่าย


ปชปหัวก้าวหน้า

อ้างจาก: แนต เมื่อ 10:59 น.  27 ต.ค 54
ตอนนี้มีเป็นคลิปวิดีโอเลยค่ะ

             เรื่องรูป ที่มีป้ายผ้าสีขาว ตัวอักษรสีแดง เป็นชื่อทักษิณ นั้น .. ทางศ.ป.ภ. ออกมาตอบโต้ แก้ตัว ว่ารถของกลุ่มคนเสื้อแดงที่มาจอดที่ ศปภ. นั้น กลุ่มเสื้อแดงได้รับของบริจาคมาเต็มคันรถ และนำมาจอดที่ ศปภ.เพื่อประสานว่าจะลงพื้นที่ที่จุดใดเท่านั้น เช่นเดียวกับ รถบรรทุกที่มีป้ายชื่อของ พ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ก็เป็นของกลุ่มเสื้อแดง ที่รักและศรัทธาในตัวของ พ.ต.ท.ดร.ทักษิณ เท่านั้น ... ตามลิ้งค์นี้นะคะ ข่าวลงใน mthai ค่ะ

http://news.mthai.com/headline-news/136886.html


            แต่แล้ว เมื่อคืนนี้เลย เราก็ได้เห็นคลิปหนึ่ง ทีแรกลงในเฟศบุ๊คก่อนค่ะ แล้วมีคนเอาไปลงใน youtube มีคนไปถ่ายไว้ คือคนที่เค้าไปช่วยแพ็คของที่ศ.ป.ภ. แล้วอยากจะให้ได้เห็นความจริงเกี่ยวกับรถบรรทุกคันนี้ อยากจะพิสูจน์ว่า ที่ศ.ป.ภ.ออกมาแก้ตัวนั้น เป็นความจริงไหม?? ตามลิ้งค์นี้ค่ะ

http://www.youtube.com/watch?v=KR3kAkcBFEQ&feature=related


            ดูแล้วก็ ลอง...พิจารณาเอาเองนะคะ ว่าข่าวทั้งสองลิ้งค์ที่นำมาให้ดู มัน "สวนทาง" กันไหม??

            ตกลง คนเสื้อแดง รัฐบาล ทักษิณ ศ.ป.ภ. โดนดิสเครดิต เหรอ??  โดนใส่ร้าย เหรอ??? มีคนจ้องจะล้มรัฐบาล เหรอ??  ... . งั้นก็แสดงว่าในคลิปนี้ คนเหล่านี้ จงใจออกมาสร้างภาพแสดงละคร ใส่ร้ายป้ายสีคนเสื้อแดง ทักษิณ และ ศ.ป.ภ. สินะ ... เหอะๆ


เพิ่งไปเจอมา ลองอ่านดู