ข่าว:

ทดลองใช้งานบอร์ดตะลุง ที่อยู่ในขั้นตอนการกู้คืนข้อมูล เบื้องต้นมีแต่กระทู้ (ข้อความ) กำลังกู้รูปภาพ ไฟล์แนบต่าง ๆ คาดว่าจะทยอยสมบูรณ์ภายในไม่ช้า

Main Menu

เปิดใจ ''ฮิวโก้-จุลจักร'' กับการท่องโลกดนตรีอินเตอร์

เริ่มโดย หาดใหญ่ใหม่, 14:34 น. 18 เม.ย 55

หาดใหญ่ใหม่

ที่มา สยามดารา
[attach=2]
ใครจะคาดคิดว่าในช่วงซัมเมอร์ปีนี้เราได้ชมคอนเสิร์ตใหญ่ของนักร้องมาดเซอร์ ''ฮิวโก้'' จุลจักร จักรพงษ์ หลังจากที่เขาหายหน้าหายตาจากเมืองไทยไปพักใหญ่ วันนี้เขาจะมาพูดคุยเกี่ยวกับเส้นทางการเป็นนักร้องในระดับอินเตอร์และชีวิตในต่างแดนของเขา เราคิดว่าด้วยอีกหนึ่งบทบาทที่เพิ่มขึ้นมาในชีวิตของเขากับการเป็น ''คุณพ่อมือใหม่'' ทำให้วันนี้เขาแลดูสุขุม และดูเป็นผู้ใหญ่ขึ้นมาก

การกลับมาครั้งนี้รู้สึกว่าเมืองไทยมีอะไรเปลี่ยนแปลงไปบ้าง?
เมืองไทยตอนนี้ก็อยู่ในช่วงที่เปลี่ยนแปลงอยู่แล้วทั้งทางด้านสังคม การเมือง วัฒนธรรม โดยเฉพาะเรื่องของอินเทอร์เน็ต คนเราคงคาดไม่ถึงว่ามันจะสร้างความอิสระและความวุ่นวายเพิ่มขึ้นมามากขนาดนี้ ผมคิดว่าตอนนี้เป็นช่วงเวลาที่น่าสนใจมาก เพราะว่าสิ่งที่เราเคยคิดว่าไม่มีวันเปลี่ยนก็กลับเปลี่ยน บางอย่างก็เปลี่ยนไปในทางที่ดี บางอย่างก็เปลี่ยนไปในทางที่ไม่ดี แต่พูดไปแล้วตอนนี้ผมก็อยู่แต่บ้านอยู่กับลูกคงไม่ได้ช่างสังเกตอะไรเหมือนเมื่อก่อน ไม่ได้ออกไปคลุกคลีกับใคร เป็นเรื่องของเวลา มันไม่มีเวลา ตอนนี้ผมติดลูก หลงลูกมาก


โอกาสในการไปทำเพลงที่โน่นมันเข้ามาหาได้ยังไง?
มันเกิดขึ้นโดยบังเอิญเมื่อประมาณห้าปีที่แล้ว ผมไปนั่งที่ร้านโอลด์เล้งกับพวกมังกรเฒ่าทั้งหลาย ตอนนั้นพี่แอ๊ดวางแผนจะทำอัลบั้มชุด ''ซับน้ำตาอันดามัน'' แกก็เรียกศิลปินทุกคนที่แกรู้จักให้ทำเพลงมาคนละหนึ่งเพลงเพื่อมอบให้กับเหตุการณ์สึนามิ การเขียนเนื้อภาษาไทยสำหรับผมในขณะนั้นใช้เวลานาน ผมกับวงต้องมานั่งหาสัมผัสนอก สัมผัสในกันแทบตาย ดูเหมือนเราจะทำไม่ทันกันแล้วเราก็กังวล พวกน้าๆ ก็พูดว่าเราพูดภาษาอังกฤษได้ทำไมไม่ทำเป็นภาษาอังกฤษไปเลย เราก็เลยเขียนเนื้อเป็นภาษาอังกฤษ แล้วก็มีคนนึงที่อังกฤษชื่อ Amanda Ghost ได้ยินเพลงนี้ เค้าเป็นนักร้องนักแต่งเพลงที่ร่วมงานกับศิลปินที่มีชื่อเสียงมากมาย นั่นก็คือตัวจุดประกายโอกาสสำหรับผม เค้าเคยพูดกับผมว่า ''ในวงการนี้มันจะไม่มีอะไรเกิดขึ้นจนกระทั่งอะไรเกิดขึ้น'' นั่นก็คือสิ่งที่เกิดขึ้นคือเค้าโทร.มาหาผม เราจะมาพูดว่าวางแผนโกอินเตอร์ตั้งแต่แรกก็คงไม่จริง


ทางวงว่ายังไงบ้าง ตอนที่ตัดสินใจที่จะไป?
เป็นช่วงเวลาที่ลำบาก เพราะว่าช่วงที่เค้ารู้ว่าผมจะไป เรากำลังทำชุดสุดท้ายกันอยู่คือชุด ''เงินๆ ทองๆ'' เป็นใครถ้าได้โอกาสนั้นขึ้นมา มันมีคำตอบเดียวคือต้องไป เราจะไปด้วยกันก็ไปไม่ได้ แต่เราก็ยังเป็นเพื่อนกันอยู่ทุกคน เวลาอะไรมันจบมันก็ต้องเฮิร์ตเป็นเรื่องธรรมดา เหมือนเวลาเราเรียนจบก็คือโอเคดีใจที่ได้ก้าวต่อไปแต่มันก็คิดถึงเพื่อน คิดถึงช่วงเวลาที่เราเคยอยู่ด้วยกันมันไม่มีอีกแล้ว เราก็ได้แต่หวังว่าคนกลุ่มเดิมที่ฟังสิบล้อจะได้ฟังผลงานของเราที่โน่นบ้าง


พอได้ไปอยู่ที่โน่น ได้ทำเพลงเอาไว้เยอะมากไหม?
เยอะ... ต้องทำถี่ไว้ก่อนใช้วิธีแบบลูกซองยิงกระจาย ในการทำอะไรก็ตามขั้นตอนมันสำคัญมากเราต้องลับดาบของเราให้คมอยู่ตลอดเวลา ในปีนึงเราจะแต่งเพลงแค่สิบเพลงที่เป็นหัวกะทิเลยเป็นไปไม่ได้ ผมแต่งเพลงเป็นหกสิบ แปดสิบเพลง แล้วค่อยคัดเพลงหัวกะทิจริงๆ ออกมา


แล้วเพลงหัวกะทิที่เราคัดออกมาได้เอาออกมาใช้ไหม หรือเป็นเพราะ Beyonc? มาเจอ?
แน่นอน คือก่อนหน้านั้นผมมีสัญญากับค่ายค่ายหนึ่ง แต่ก็ไม่ได้ออกมาประกาศอะไร ก็ทำอัลบั้มแต่งเพลงไปเรื่อยๆ แล้วก็โดนดร็อป คนที่เซ็นเราโดนไล่ออกเราเลยโดนโละออกไปด้วย ตอนนั้นทุกอย่างเหมือนมันจะจบลงจริงๆ แล้ว เราแพ็กกระเป๋าจะกลับเมืองไทยแล้ว กำลังนั่งนึกว่าจะกลับมาด้วยอารมณ์ไหน กลับมาจะมาทำอะไรก็ไม่รู้ แต่ Amanda เค้าโทร.มาบอกว่า Beyonc? สนใจเอาเพลงที่เราแต่งไปใช้ แล้วเราก็ได้มาอยู่กับทาง Jay-Z เลยเพราะมันโยงกัน ทางเค้าส่งคนจากบริษัทเข้ามาคุยกับเรามาชวนเราให้ไปอยู่กับเขาในรูปแบบใดก็ได้ ไม่ว่าจะเป็นศิลปินหรือนักแต่งเพลง เราก็ใช้สมองคิดแต่หัวใจยังเฮิร์ต อยู่กับการโดนดร็อป ใจเราไม่อยากเป็นศิลปินแล้ว เพราะการเป็นศิลปินชีวิตในอนาคตมันขึ้นอยู่กับการชี้เป็นชี้ตายของคนอื่น แต่สุดท้ายสมองเรามันก็บอกว่าได้ เราเซ็น ยังไงเราก็อยากจะหล่อเลี้ยงตัวเองในเรื่องของงานที่เกี่ยวข้องกับวงการดนตรี ถ้าไม่ได้เป็นศิลปินก็ไม่เป็นไรเป็นนักแต่งเพลงก็ได้ สบายใจดี ซุ่มๆ แต่งเพลงให้คนอื่นอยู่ในห้องอัด อย่างน้อยได้อยู่ในวงการดนตรีก็ถือว่าโอเคสำหรับผมแล้ว


ทางค่ายเพลง Roc Nation ของ Jay-Z ให้อิสระกันมากแค่ไหน?
เยอะ แล้วเค้าก็ใจกว้างทำให้ผมใจกว้างด้วยในการร่วมงานกับคนแทบจะทุกแนว ด้วยการช่วยเหลือของเค้าทำให้เราได้ค้นพบซาวนด์ของชุดนี้ซึ่งเป็นการผสมผสานระหว่างแนวดนตรีที่หลากหลายสายพันธุ์ดนตรีอเมริกันทั้งหมด เพราะเราชอบมากอยู่แล้วตั้งแต่วงสิบล้อ ก็อยากให้ทุกคนลองฟังดูหวังว่าการปรุงดนตรีแบบนี้มันน่าจะมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวพอสมควร

การเป็นศิลปินที่โน่นกับที่นี่การวางตัวต่างกันมากไหม?
ที่เมืองไทยลำบากกว่า เพราะต้องมีคำว่าเรียบร้อยในสายตาของสังคม ที่โน่นค่อนข้างปล่อยเปลือยมากกว่า จะมาจากบ้านไหนเมืองไหนเป็นยังไงไม่ค่อยสำคัญเท่ากับผลงาน

เวลาไปเล่นคอนเสิร์ต มองยังไงกับแฟนเพลงที่ตีกัน บ้านเค้ามีอย่างบ้านเราไหม?
มี... แต่ไม่ได้เป็นประเพณีเหมือนกับบ้านเรา (หัวเราะ) มันเป็นเรื่องราวของการศึกษาและวัย ที่โน่นเค้าอาจจะไม่ค่อยมีตีกัน เค้าไปเพื่อไปสนุกไปเสพดนตรีจริงๆ ที่นี่วัยรุ่นเหมือนยังไม่โต การโชว์พาวโดยการตีกันในคอนเสิร์ตนี่คือความไม่เจริญ ผมคิดว่าเมืองไทยเป็นประเทศที่ยังไม่เสร็จ เวลาอย่างเดียวที่จะช่วยได้ เราทำสิ่งต่างๆ ให้มันไปในทางที่เป็นประโยชน์ต่อคนอื่น ไม่ทำให้ใครเดือดร้อนดีกว่า


ชีวิตที่โน่นนอกจากแต่งเพลงและเล่นดนตรีแล้ว ทำอะไรบ้างในวันว่าง?
เดินซะเยอะ เดินในสวนสาธารณะ การเดินจะเป็นอะไรที่ดูเป็นอังกฤษมาก ที่นั่นนิทรรศการฟรีหรือพิพิธภัณฑ์ที่สามารถเข้าฟรีจะมีเยอะมาก ผมก็จะเข้าไปดู และผมจะเป็นคนที่ชอบดูหนังและบ้าอ่านหนังสือมาก


มีคนบอกว่าเป็นคนที่ ''ติสต์'' มาก คิดว่าจริงๆ แล้วตัวเราเองเป็นคนที่ ''ติสต์'' ไหม?
ผมเองก็ยังไม่เข้าใจว่าคำคำนี้มีความหมายจริงๆ ว่ายังไง ถ้าหมายถึงเป็นศิลปินก็ยินดี เพราะว่าเราเป็นศิลปินเราทำงานศิลปะ ถ้าคนเราทำงานศิลปะแล้วไม่ติสต์คงลำบากแล้วล่ะ


ทุกวันนี้ยังได้พบปะพูดคุยกับสมาชิกวงสิบล้ออยู่ไหม?
เจอประจำ ตอนนี้แต่ละคนก็ต่างไปมีเส้นทางชีวิตของตัวเอง เวลามันผ่านไปนานแล้ว เวลาที่ใช้ในวงสิบล้อของแต่ละคนมันอาจจะเป็นส่วนน้อยของชีวิตพวกเขาไปแล้ว ผมยินดีร่วมงานและยินดีที่ได้เจอกับทุกๆ คน เรายังเป็นเพื่อนรักกัน ช่วงเวลาที่อยู่ในวงสิบล้อโดยเฉพาะช่วงที่ออกทัวร์ตอนที่เพลง ''ความลับในใจ'' ดัง คงเป็นหนึ่งในช่วงเวลาที่ผมมีความสุขมากที่สุดในชีวิตวัยรุ่น มันเหมือนกับเป็นการเดินทางทำให้ผมได้ทำความรู้จักกับประเทศไทยจริงๆ


แล้วจะมีโอกาสมั้ยที่เราจะได้เห็นการรวมตัวของวง สิบล้อ ตามงานโชว์อีก?
ก็อย่างที่บอกไป แต่ละคนอาจจะหมดไฟในการที่จะมาออกลุย พวกพี่เค้าแต่ละคนก็อยากจะใช้ชีวิตความเป็นส่วนตัวมากยิ่งขึ้น แต่ก็ไม่แน่นะถ้าผมบ้าๆ ก็อยากจะเชิญพวกพี่เค้ามารวมตัวเหมือนกัน


แล้วชีวิตครอบครัวเป็นอย่างไรบ้าง?
  ก็ดีผมเองมีความสุขขึ้นเยอะหลังจากที่ได้เจอคนที่ใช่และมีเจ้าตัวน้อยลืมตามาบนโลกใบนี้ ทำให้ครอบครัวสมบูรณ์แบบจริงๆ ต่อไปนี้เราต้องให้เวลากับครอบครัวมากยิ่งขึ้น เราจะไปไหนไม่ได้เราห่างเค้าไม่ได้เพราะช่วงนี้เด็กกำลังโต แต่เราก็คงไม่ทิ้งงานเพลงหรอกครับ เพราะถ้ามันมีโอกาสเราต้องคว้ามันมาให้ได้


แล้วการเลี้ยงลูกมีอุปสรรคกับงานบ้างมั้ย?
ต้องบอกว่าการมีลูกมันเสี่ยงต่อการจัดลำดับความสำคัญอย่างสิ้นเชิง คือจะทำอะไรก็ได้ครับ แต่ต้องมีลูกอยู่ไม่ห่างเรา จะให้มาทิ้งเขาไว้อยู่เมืองไทยก็คงไม่ยุติธรรม เพราะเดี๋ยวเขาก็จำอะไรได้แล้วมีอยู่ครั้งนึงที่ผมห่างเขาเกือบ 2 เดือน เพราะต้องไปทัวร์คอนเสิร์ต พอผมกลับมาแรกๆ ลูกอยู่กับผมคนเดียวไม่ได้ เพราะเขากลัว แต่ถ้าแม่เขาเดินเข้ามาด้วยเขาก็จะหยุดร้อง แล้วก็เรียกหาแม่


อยากให้ลูกเดินเส้นทางสายศิลปินตามคุณไหม?
อยากให้เค้าเดินตามเส้นทางที่เค้าสนใจ เค้าสงสัยอะไรหรือสนใจอะไรอยากให้เค้าตามตรงนั้นมากกว่า ที่ผมไม่อยากให้เค้ารีบเข้ามาเกี่ยวข้องกับวงการบันเทิงเพราะเค้าอาจจะไม่ชอบก็ได้ เค้าเป็นคนที่ชอบคน น่ารักมาก ตอนนี้ผมหลงมาก

การเป็นนักดนตรีถ้าพร้อมที่จะหาโอกาสให้ตัวเองมันไม่ใช่เรื่องยากสำหรับ ชายคนนี้ ''ฮิวโก้'' จุลจักร จักรพงษ์



      ปีเตอร์ : เรื่อง


ชื่อ จุลจักร จักรพงษ์
ชื่อเล่น เล็ก
เกิด 6 สิงหาคม พ.ศ. 2524
คู่สมรส ทัศนาวลัย จักรพงษ์ (ฮาน่า)
บุตร ด.ช ทัศนจักร จักรพงษ์ (ฮาร์เปอร์)
อาชีพ นักร้อง นักแสดง
ผลงาน
- ละคร ใกล้ไกลหัวใจเดียวกัน พ.ศ. 2543 ค่ายกันตนา
- บ้านรังนกไม้ พ.ศ. 2543 ค่ายกันตนา
- มิติใหม่หัวใจเดิม พ.ศ. 2543 ค่ายกันตนา
- เงาปริศนา พ.ศ. 2544 ค่ายกันตนา
- ลูกผู้ชายหัวใจเพชร พ.ศ. 2545 ค่ายกันตนา
- คุณแจ๋วกะเพราไก่ คุณชายไข่ดาว พ.ศ. 2546 ค่ายกันตนา
- เล็กใหญ่ไม่เกี่ยว ขอเอี่ยวด้วยคน พ.ศ. 2547 ค่ายกันตนา

อัลบั้มเพลง 
- สิบล้อ พ.ศ. 2544 ค่าย หัวลำโพงริดซึ่ม
- มนต์รักสิบล้อ พ.ศ. 2546 ค่าย มอร์มิวสิค
- Skyline พ.ศ. 2547 ร่วมผลิต- เป็นอัลบั้มของ กันตะ กัลย์จาฤก
- เสียงเพลงสิบล้อ พ.ศ. 2548 ค่าย มอร์มิวสิค
-  เงินๆ ทองๆ พ.ศ. 2549 วอร์เนอร์ มิวสิค ไทยแลนด์

ภาพยนตร์
- 999-9999 ต่อ ติด ตาย พ.ศ. 2545 ค่าย สหมงคลฟิล์ม

ผลงานล่าสุด เป็นศิลปิน ในสังกัด Roc Nation
หาดใหญ่ใหม่ www.facebook.com/hatyaimai
เมืองหลวงภาคใต้ หลากหลายเรื่องราว บอกเล่าแบ่งปัน