ฮีโร่มาแล้ว!แก้วนำทัพอลป.ไทยถึงบ้านแฟนแห่รับ

[ทีมงานประชาสัมพันธ์]

ที่มา สยามกีฬา 14-8-55

แก้ว พงษ์ประยูร ฮีโร่เหรียญเงินมวยสากลอลป.และ ทัพนักกีฬาไทยชุดสู้ศึกโอลิมปิก 2012 ชุดสุดท้าย พร้อมด้วย'น้องแต้ว' น.ส.พิมศิริ ศิริแก้ว เหรียญเงินยกนน. มาร่วมในพิธีต้อนรับหลังเดินทางกลับถึงไทยอย่างยิ่งใหญ่ ท่ามกลางพี่น้องประชาชน และกองทัพสื่อมวลชนไปรอให้การต้อนรับอย่างเนืองแน่น ที่สนามบินสุวรรณภูมิ

แฟนกีฬาแห่รับฮีโร่มืดฟ้ามัวดิน

 
        สำหรับบรรยากาศขบวนแห่คณะนักกีฬาและเจ้าหน้าที่เริ่มต้นจากสนามบินสุวรรณภูมิ มีขบวนรถมอเตอร์ไซค์ช็อปเปอร์ 50 คัน, จักรยานยนต์ ยามาฮ่า ฟีโน่ 50 คัน, เปอร์โย สปอร์ต เปิดประทุน 4 คัน สำหรับนักกีฬาซึ่งมีการประดับประดา ผูกริบบิ้นสวยงาม
 
        นอกจากนี้ยังมีรถสองชั้นชมเมืองของ กทม. โดยชั้นบนเปิดหลังคาโล่ง เขียนด้านข้าง ลอนดอน 2012 เป็นภาษาอังกฤษ และ รถบัส 2 ชั้นเปิดหลังคาของ กทม. ที่ใช้แห่ขบวนฮีโร่โอลิมปิกทุกครั้งที่ผ่านมา พร้อมด้วยรถคันใหญ่จากกองทัพบก
 
        โดยหนาแน่นไปด้วยบรรดาญาติๆ ของ แก้ว พงษ์ประยูร ที่มาจาก จ.กำแพงเพชร บ้านเกิด และ จ.พระนครศรีอยุธยา บ้านภรรยา ที่ขนกันมานับรวมแล้วกว่า 200 คน เพื่อร่วมแห่ในขบวนโอลิมปิก และรถสื่อมวลชนจากทุกสำนัก ทำให้บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก
     
ฝนกระหน่ำปรับแผนนั่งรถบัส

 
        อย่างไรก็ตามช่วงที่ขบวนแห่เคลื่อนตัวจากสนามบินสุวรรณภูมินั้นมีฝนตกลงมาทำให้นักกีฬาไม่สามารถนั่งรถเปอร์โย สปอร์ต เปิดประทุนที่เตรียมไว้ ต้องนั่งรถบัสแทน แต่ แก้ว พงษ์ประยูร และ "น้องแต้ว" พิมศิริ ศิริแก้ว จอมพลังสาวเจ้าของเหรียญเงินโอลิมปิก ได้ขึ้นมาโชว์ตัวเป็นระยะเพื่อให้สื่อมวลชนได้เก็บภาพบรรยากาศ
 
        ขณะที่ประชาชนซึ่งสัญจรบนทางด่วนต่างชะลอรถและโบกมือให้กับสองฮีโร่ พร้อมทั้งตะโกนเรียกชื่อ โดยเฉพาะในจังหวะที่ชะลอตัวเพื่อผ่านช่องจ่ายเงิน มีรถหลายคันที่จอดโบกไม้โบกมือและยื่นโทรศัพท์มือถือออกมาถ่ายรูปท่ามกลางสายฝนที่กำลังตกปรอยๆ
     
ถึงอนุสาวรีย์จับฮีโร่แยกโชว์ตัว

 
        กระทั่งขบวนแห่มาถึงทางด่วนขาลงอนุสาวรีย ์ ได้เปลี่ยนให้เหล่าฮีโร่ขึ้นรสเปอร์โย เปิดประทุนเพื่อโชว์ตัวต่อพี่น้องชาวไทยตลอดสองฝั่งถนน โดย "น้องแต้ว" พิมศิริ ขึ้นรถคันแรกกับ "บิ๊กต้อม" ธนา ไชยประสิทธิ์ หัวหน้าคณะนักกีฬาไทย ตามด้วยรถคันที่สอง "น้องเล็ก" ชนาธิป ซ้อนขำ จอมเตะเหรียญทองแดง นั่งกับ โค้ช เช ยอง ซอก และ พิมล ศรีวิกรม์ นายกสมาคมเทควันโดฯ,
 
        คันที่สาม "ไอร์" เป็นเอก การะเกตุ คู่กับ "น้องจูน" รังสิยา นิสัยสม และคันสุดท้าย "น้องเมย์" รัชนก อินทนนท์ นักแบดมินตันสาวขวัญใจชาวไทย นั่งกับ "บิ๊กหนุ่ม" กนกพันธุ์ จุลเกษม ผู้ว่าการการกีฬา (กกท.)
 
        มีเพียงแค่ แก้ว พงษ์ประยูร นักชกฮีโร่ ที่ต้องนั่งบนรถบัสสองชั้น เนื่องจาก "เสธ.อ้าย" พล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ นายกสมาคมมวยสากล เกรงว่าจะโดนแฟนๆ สองข้างทางรุมเลยไม่ให้ลงมานั่งรถเปิดประทุน อีกอย่างอยากให้ แก้ว ได้พักผ่อน เพราะเหนื่อยกับการเดินทาง
     
นับหมื่นรุมถ่ายรูปตลอดเส้นทาง

 
        จากนั้นแห่จากอนุสาวรีย์ วิ่งมาทางเส้นพญาไท ตัดออกเส้นราชเทวี เรื่อยมาถึงสี่แยกมาบุญครอง และเลี้ยวเข้า สยามเซ็นเตอร์ วนออกมาทางพารากอน ระยะทาง 4 กม. แต่การเดินทางใช้เวลาสองชั่วโมงกว่า ท่ามกลางสายฝนที่โปรยปรายลงมาเป็นระยะ แต่ไม่ได้สร้างอุปสรรคให้ขบวนแห่นักกีฬาแต่อย่างใด ซึ่งบรรยากาศในช่วงนี้คึกคักเป็นพิเศษมีประชาชนให้ความสนใจเป็นอย่างมากตลอดเส้นทาง เรียกว่า นับหมื่นคนได้
 
        ส่งผลให้ขบวนแห่เคลื่อนตัวได้ช้า อย่างไรก็ตามรถขบวนได้จอดให้ประชาชนได้ถ่ายรูปและจับมือกับบรรดาฮีโร่โอลิมปิก แม้หลายคนจะแย่งรุมกันเข้ามาสัมผัสและถ่ายรูปอย่างใกล้ชิด แต่ไม่มีอุบัติเหตุใดๆ ทั้งสิ้น
     
เพลงวีอาร์เดอะแชมเปี้ยนกระหึ่มทั่วสยาม

 
        นอกจากประชาชนที่อยู่ฝั่งเดียวกับขบวนแห่แล้วยังได้รับความสนใจจากอีกฝากหนึ่งของถนน ที่อาศัยช่วงรถติดเปิดประตูและลงมายืนถ่ายรูป บางคนตะโกนส่งเสียงให้กำลังใจ และพอขบวนแห่เคลื่อนตัวเข้ามาถึงหน้าดิสคัฟเวอร์ เสียงเพลงวีอาร์เดอะแชมเปี้ยนก็บรรเลงขึ้น บลิ้วอารมณ์คณะนักกีฬาและประชาชนที่แห่กันมารอดู
 
        นอกจากนี้มีการแจกธงชาติไทยผืนเล็กให้โบกจากหน้าดิสคัฟเวอรี่เรื่อยไปจนหน้าสยามพารากอน บรรยากาศช่วงนี้ทุกคนมีอารมณ์ร่วมไม่เว้นแม้กระทั่งนักข่าวที่ติดตามขบวนเห็นแล้วชวนขนลุก บนสะพานลอยนอกจากมีป้ายผ้าเขียนข้อความให้กำลังใจ ยังหนาแน่นไปด้วยผู้คนที่ยืนออกันนับร้อย เรียกว่าสะพานลอยข้ามถนนตั้งแต่อนุสาวรีย์ชัยจนถึงสยามพารากอน แต่จะมาหนาแน่นเป็นพิเศษบริเวณสยามพารากอน เนื่องจากเป็นเวลาที่คนกำลังเลิกงานกลับบ้าน
     
"แต้ว" สัญญา 4 ปีคว้าทองให้คนไทย

 
        "น้องแต้ว" พิมศิริ ศิริแก้ว จอมพลังสาวเจ้าของเหรียญเงินโอลิมปิก เผยว่า ช่วงที่อยู่บ้านมีคนมาให้กำลังเยอะมาก จนแทบจะไม่มีเวลาได้พักผ่อน ส่วนเรื่องเงินยังไม่มีใครมายืมทั้งจากตนและจากพ่อ-แม่ แต่ยอมรับว่า มีคนเข้ามาหาเยอะทั้งที่รู้จักและไม่รู้จัก แต่ไม่มีใครพูดว่าจะยืมเงิน ส่วนคนที่มาเยี่ยมส่วนใหญ่ก็จะนำตุ๊กตามาเป็นของขวัญ
 
        "วันนี้มีคนมาต้อนรับเยอะมาก ดีใจมาก ไม่เหนื่อยเลย รู้สึกภูมิใจมากที่คนไทยให้ความสำคัญกับเรามากขนาดนี้ สัญญาว่า จะตั้งใจฝึกซ้อมให้มากกว่านี้ เพื่อโอกาสคว้าเหรียญทองในอีก 4 ปี ข้างหน้า ซึ่งหวังว่า จะทำได้สำเร็จ
 
        ส่วนของขวัญที่อยากได้ให้ตัวเองคือ นาฬิกาจีช็อค รุ่นโปรเทคชั่น ซึ่งเป็นนาฬิการะบบดิจิตอล และเป็นเข็มอยู่ในอันเดียวกัน อยากได้สีแดง ซึ่งหลังจากกลับมาพยายามหาซื้อ แต่ยังซื้อไม่ได้ ก็อยากให้ของขวัญกับตัวเอง เพราะปกติใส่จีช็อค อยู่แล้วแต่เป็นสีดำ" น้องแต้ว กล่าวย้ำ
     
"เมย์" ลูกกตัญญู 2 ปี สร้างบ้านให้แม่

 
        ด้าน "น้องเมย์" รัชนก ที่เพิ่งไปทำสวยด้วยการเขียนคิ้ว ที่ร้านเพื่อนที่มาบุญครอง มาสดๆ ร้อนวันนี้ มาในลุกส์ใหม่คิ้วดกดำกว่าเดิม ซึ่ง "คุณปุก" กมลา ทองกร แม่บุญธรรม บอกว่า เมย์เขาอยากมีคิ้ว เพราะคิ้วเขาบาง เลยไปเขียนเติมที่ร้านเพื่อน ไม่ใช่การสัก แต่เขาบอกว่าอยู่ได้หลายเดือน แต่ถ้าลบไปก็ไปเติมใหม่
 
        โดย เจ้าตัว บอกว่า ดีใจมาก ตื่นเต้น เห็นคนมาต้อนรับเยอะ แม้ตัวเองจะไม่ได้เหรียญ แต่มีคนรู้จัก ส่วนเรื่องไปเล่นอาชีพให้สโมสรชิงเต่า ประเทศจีน มีคิวเดินทางวันที่ 21 สิงหาคมนี้ ไปกับ โค้ชเซี่ย ซึ่งเป็นโค้ชสอนให้กับบ้านทองหยอด ส่วนค่าเหนื่อยได้ 7 หลัก สำหรับความฝันของตนคืออยากสร้างบ้านให้พ่อแม่ เพราะไม่เคยมีบ้านเป็นของตัวเอง อยู่กับบ้านทองหยอด คิดว่าอีกสัก 2-3 ปี น่าจะมีบ้านเป็นของตนเอง
     
"น้องเล็ก" ขอบคุณชาวใต้ส่งใจเชียร์

 
        "น้องเล็ก" ชนาธิป เผยว่า ภูมิใจมากที่คนไทยให้การต้อนรับมากขนาดนี้ ไม่เคยคิดฝันมาก่อนว่าจะมีคนมาต้อนรับ ปลื้มมากที่คนไทยรักเรามากขนาดนี้ นอกจากนี้ "น้องเล็ก" ยังได้พูดเป็นภาษาใต้เพื่อขอบคุณแฟนๆ และพี่น้องชาวปักษ์ใต้ ที่คอยส่งกำลังเชียร์และให้กำลังใจมาตลอดการแข่งขัน และตนสัญญาว่าจะสู้ต่อ และขอทำหน้าที่ให้ดีที่สุด
     
"ธนา" ขนลุกชาวไทยตื่นตัว

 
        ด้าน "บิ๊กต้อม" ธนา บอกว่า ตั้งแต่เป็นหัวหน้าคณะนักกีฬาไทย ในการแห่นักกีฬาแต่ละครั้งบรรยากาศมีความตื่นเต้นและแตกต่างกัน มีแฟนกีฬามาให้การต้อนรับ แต่มาครั้งนี้ยอมรับว่า คนไทยตื่นตัวมากขึ้น สนใจในผลงานกีฬาไทยมากขึ้น ก็ดีใจแทนนักกีฬาไทยทุกคน ที่มีคนมาเยอะ รู้สึกดีกับบรรยากาศแบบนี้
 
        "สำหรับตนคงยังไม่เปลี่ยนใจลาออกจากการเป็นหัวหน้าคณะนักกีฬาไทย ส่วนเรื่องการรับตำแหน่งนายกสมาคมมวยสากลฯ ที่มีข่าวว่า พลตรีจารึก อยากให้มานั่งเป็นนายกสมาคมฯ ตนยังไม่ได้ตัดสินอะไรและยังไม่ได้คุยกับใคร หรือทราบรายละเอียดอะไรทั้งสิ้น"
     
ยันอยากได้ทองอีก 4 ปีต้องเร่งบูรณาการ

 
        อย่างไรก็ตาม บิ๊กต้อม ยังได้กล่าวอีกว่า หลังจากนี้อยากให้ผู้เกี่ยวข้องกับวงการกีฬาไทย หันมาบูรณาการ และยกเครื่องใหม่ เพราะโอลิมปิกครั้งนี้นักกีฬาเราน้อย เสียเปรียบคู่ต่อสู้ทั้งรูปร่าง ทุกส่วนทุกอย่างต้องบูรณาการใหม่หากอยากได้เหรียญในอีกสี่ปีข้างหน้า เพราะโอลิมปิกครั้งนี้ทุกชาติตื่นตัวเยอะ และหลายประเทศพัฒนาเหนือกว่าเราไปหลายก้าว ถ้าช้ากว่านี้โอกาสที่จะได้เห็นเหรียญทองในสี่ปีคงยาก
     
ย้ำปัญหากีฬาไทยคือขัดแย้งกันเอง

 
        นอกจากนี้ "บิ๊กต้อม" ได้กล่าวถึงปัญหาของการพัฒนาวงการกีฬาไทยว่า ที่ยังไม่ประสบความสำเร็จสูงสุดก็เกิดจากการที่วงการกีฬาไทยมีปัญหาความขัดแย้งเกิดขึ้นกันค่อนข้างเยอะ อย่างกรณีของสมาคมมวยสากลฯ ที่มีปัญหาความขัดแย้งและมีการเลือกตั้งนายกสมาคมใหม่
 
        ซึ่งนายกที่เข้ามาทำงานในช่วงของการเตรียมนักกีฬาโอลิมปิกเกมส์ ไม่กี่เดือนทำให้ความต่อเนื่อง และ การวางแผนเก็บตัวฝึกซ้อมหลายๆ อย่างค่อนข้างมีปัญหา จนทำให้เกิดความไม่พร้อมในหลายอย่าง ขณะที่อีกหลายสมาคมนั้นยังต้องพัฒนาอีกมาก หากสามารถแก้ไขในจุดนี้ได้ตนก็มั่นใจว่า วงการกีฬาไทยจะพัฒนาขึ้นมาอีกเยอะทีเดียว


คนนับหมื่นปักหลักรอ


        บริเวณลานปาร์ค พารากอน ซึ่งเป็นจุดสุดท้ายที่ทัพนักกีฬาไทยชุด "ลอนดอน เกมส์ จะมาถึงและรับมอบเงินรางวัลจากการแข่งขันครั้งนี้ มีประชาชนมายืนรอให้การต้อนรับนับหมื่นคน ท่ามกลางสายฝนที่โปรยปรายลงมาปรอยๆ ไม่ขาดระยะ แต่ทุกคนก็ยังคงไม่หนี ยังคงอยู่เพื่อรอดูฮีโร่ตัวจริงอย่างใกล้ชิด
       
กองทุนพัฒนากีฬาฯจ่าย20ล้าน


        รวมเงินรางวัลที่ทางกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ การกีฬาแห่งประเทศไทย จ่ายให้กับฮีโร่ทั้ง 3 คน รวมแล้วเป็นเงิน 20 ล้านบาท แบ่งออกเป็น แก้ว พงษ์ประยูร ได้ 6 ล้าน(แบ่งเป็นเงินสด 3 ล้าน และสวัสดิการรายเดือน 3 ล้าน) ผู้ฝึกสอนได้ 6 แสนบาท สมาคมมวยสากลฯ ได้ 9 แสนบาท,


        "น้องแต้ว" พิมศิริ ศิริแก้ว ได้ 6 ล้าน (เงินสด 3 ล้าน สวัสดิการ 3 ล้าน) ผู้ฝึกสอนได้ 6 แสนบาท สมาคมยกน้ำหนักฯ ได้ 9 แสนบาท ''น้องเล็ก'' ชนาธิป ซ้อนขำ ได้ 4 ล้าน (เงินสด 2 ล้าน สวัสดิการ 2 ล้าน) ผู้ฝึกสอนได้ 4 แสนบาท สมาคมเทควันโดฯ ได้ 6 แสนบาท รวมเงินทั้งสิ้น 20 ล้านบาท
       
จ่ายย้อนหลังเอเชียนบีชกว่า26ล้าน


        นอกจากนี้ยังได้จ่ายเงินค่าเหรียญรางวัลให้แก่นักกีฬาชุดลุยเอเชียนบีช เกมส์ ครั้งที่ 3 ที่เมืองไห่หยาง สาธารณรัฐประชาชนจีน เมื่อ 16-22 มิ.ย. 2555 อีกเป็นจำนวน 26,640,000 บาท แบ่งเป็น สมาคมกาบัดดี้ฯ 9 แสนบาท, สมาคมกีฬาทางอากาศฯ 2,625,000 บาท, สมาคมตะกร้อฯ 10,320,000 บาท, สมาคมเรือพายฯ 6,720,000 บาท, สมาคมวอลเลย์บอลฯ 600,000 บาท, สมาคมวินด์เซิร์ฟฯ 675,000 บาท, สมาคมวู้ดบอลฯ 4,500,000 บาท, สมาคมเอ็กซ์ตรีมฯ 300,000 บาท
       
มาถึงเกือบทุ่มแต่แฟนยังรอกรี๊ด


        ขบวนนักกีฬาเดินทางมาถึงยังลานพาร์คพารากอนในเวลาเกือบ 19.00 น. แต่กองเชียร์ชาวไทยยังคงปักหลักยืนรอไม่ยอมถอยกลับ กระทั่งเมื่อรถขบวนจอดนิ่งสนิทที่บริเวณหน้าสยามพารากอน เสียงกรี๊ดจึงดังกระหึ่มพร้อมกับเสียงปรบมือโห่ร้องต้อนรับฮีโร่โอลิมปิก 2012 มี "น้องแต้ว" พิมศิริ ศิริแก้ว เดินนำมาพร้อมกับ "บิ๊กต้อม" ธนา ไชยประสิทธิ์ หัวหน้าคณะนักกีฬา จากนั้นจึงเป็น "เจ้าไอร์" เป็นเอก การะเกตุ, "น้องเมย์" รัชนก อินทนนท์, รังสิยา นิสัยสม แต่ที่เรียกเสียงต้อนรับได้สนั่นที่สุดเห็นจะหนีไม่พ้น แก้ว พงษ์ประยูร ยอดนักชกขวัญใจคนล่าสุด
       
3ฮีโร่ขอบคุณชาวไทย


        เมื่อนักกีฬาขึ้นสู่เวทีที่เตรียมเอาไว้บริเวณด้านล่างเพื่อเปิดโอกาสให้แฟนกีฬาชาวไทยได้มีโอกาสใกล้ชิดกับฮีโร่ "ลอนดอนเกมส์" และให้สื่อมวลชนได้ถ่ายภาพ พิธีกรได้ให้ 3 ฮีโร่กล่าวถึงความรู้สึกในครั้งนี้ โดย "น้องแต้ว" พิมศิริ ศิริแก้ว กล่าวว่า ดีใจที่ได้สร้างความสุขให้ชาวไทยเป็นคนแรกในโอลิมปิกครั้งนี้


        ส่วน แก้ว พงษ์ประยูร กล่าวว่า รักแม่กับพ่อมาก ขอบคุณชาวไทยทุกคนสำหรับแรงใจที่ส่งไปเชียร์ ถ้าไม่มีเสียงเชียร์จากคนไทย ตนคงไม่มีวันนี้


        สำหรับ "น้องเล็ก" ชนาธิป ซ้อนขำ บอกว่า ขอบคุณพี่น้องชาวไทยทุกคนที่ส่งกำลังใจไปให้ ตนได้ทำหน้าที่อย่างดีที่สุดแล้ว ดีใจและภูมิใจที่ได้เกิดเป็นคนไทย
       
เสธ.จารึกบอกให้โอกาสกีฬาที่มีหวัง


        พล.ต.จารึก อารีราชการัณย์ รองประธานและเลขาธิการคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ในโอลิมปิกครั้งต่อไป ควรจะให้โอกาสสมาคมกีฬาที่ทำเหรียญโอลิมปิกได้มากกว่ากีฬาชนิดอื่นซึ่งไม่ค่อยมีความหวัง โดยกีฬาทั้ง 4 ชนิดได้แก่ มวยสากลสมัครเล่น, ยกน้ำหนัก, เทควันโด และแบดมินตัน ต้องให้โอกาสในการแข่งขันมากที่สุดตั้งแต่ในรอบคัดเลือก สมาคมกีฬาอื่นที่ความหวังน้อยควรจะเข้าใจและเปิดโอกาสให้สมาคมที่โดดเด่นมากกว่า ถึงแม้แบดมินตันจะไม่ได้เหรียญในครั้งนี้ แต่ดูแล้วสาเหตุที่แพ้เป็นเพราะเรื่องประสบการณ์มากกว่า ซึ่งในโอลิมปิกที่บราซิล รัชนก อินทนนท์ มีโอกาสที่จะก้าวขึ้นไปคว้าเหรียญได้
       
เล็งดันสุพิตรขึ้นเป็นหัวหน้านักกีฬา


        นอกจากนี้ "เสธ.จารึก" ยังกล่าวอีกว่า สำหรับตำแหน่งหัวหน้าคณะนักกีฬาคนใหม่ หาก "บิ๊กต้อม" นายธนา ไชยประสิทธิ์ จะไม่ทำหน้าที่ต่อนั้น ตนมองไปที่ ดร.สุพิตร สมาหิโต ซึ่งเป็นรองหัวหน้าคณะนักกีฬามาเป็นเวลานาน เป็นผู้ที่มีความเหมาะสมในหลายๆ ด้าน ส่วนนายกสมาคมมวยสากลสมัครเล่นคนต่อไปที่จะก้าวขึ้นมาแทนที่ "เสธ.อ้าย" พล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ นั้น ตนมองไปที่ นายธนา ไชยประสิทธิ์ เนื่องจากมีความพร้อมทุกอย่าง ฉลาดและเป็นคนดี โดยมี นายทวี อัมพรมหา เป็นผู้ช่วย
       
ฮีโร่ถ่ายรูปกับนายกฯปู


        หลังจากที่ทัพนักกีฬาได้ขึ้นไปที่พารากอนฮอลล์ ชั้น 5 ของสยามพารากอนแล้ว ฮีโร่โอลิมปิกทั้ง 3 คน ได้เข้าไปคารวะ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และถ่ายภาพเป็นที่ระลึก ก่อนจะแยกไปตามที่นั่งที่จัดไว้ จากนั้นไม่นาน นายกรัฐมนตรี ได้ขึ้นมอบเงินรางวัลให้กับทีมนักกีฬาไทยทั้งชุดที่ไปแข่งขันกีฬาเอเชียนบีชเกมส์ ครั้งที่ 3 และนักกีฬาชุดโอลิมปิก 2012 "ลอนดอนเกมส์"


นายกฯปูจ่ายอัดฉีด46.64ล้าน

         
        หลังเดินทางถึงห้างสรรพสินค้าพารากอนเหล่าฮีโร่โอลิมปิกได้เดินทางไปที่ห้องพารากอน ฮอลล์ ชั้น 5 ซึ่งใช้เป็นสถานที่เลี้ยงฉลองโอลิมปิกเกมส์ครั้งนี้ โดยมี "นายกฯ ปู" ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีมาเป็นประธาน


        ขณะที่ผู้ใหญ่ในวงการกีฬาต่างเข้าร่วมกันพร้อมหน้าไม่ว่าจะเป็น นายชุมพล ศิลปอาชา รมว.กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา, พล.ต.จารึก อารีราชการัณย์ เลขาฯ โอลิมปิคไทย, ธนา ไชยประสิทธิ์ หัวหน้าคณะนักกีฬาไทยชุดลุยลอนดอนเกมส์, นายกนกพันธุ์ จุลเกษม ผู้ว่าฯ กกท. ฯลฯ ซึ่งงานเลี้ยง และมอบรางวัลครั้งนี้รัฐบาลจัดควบ 2 รายการคือโอลิมปิกเกมส์ 2012 และเอเชียนบีช ที่ประเทศจีน


        ส่วนเงินอัดฉีดที่รัฐบาลมอบให้กับเหล่าฮีโร่ประกอบด้วยเงินรางวัลจากโอลิมปิกเกมส์ ซึ่งทัพนักกีฬาไทยทำได้ 2 เหรียญเงิน และ 1 เหรียญทองแดง รวมเป็นเงิน 20 ล้านบาท ขณะที่เอเชียนบีชเกมส์ ซึ่งไทยทำผลงานได้ 13 เหรียญทอง 9 เหรียญเงิน และ 6 เหรียญทองแดง ได้เงินรางวัล 26,640,000 ล้านบาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 46,640,000 ล้านบาท


        พร้อมกันนี้ทางรถจักรยานยนต์ฮอนด้าได้มอบรางวัลพิเศษให้กับ แก้ว พงษ์ประยูร ที่ถูกปล้นชัยชนะไป นอกจากนี้ได้มอบรถจักรยานยนต์ฮอนด้า ซีดีอาร์ 250 อาร์ มูลค่าคันละ 1.2 แสนบาทให้กับ 3 นักกีฬาคือ แก้ว พงษ์ประยูร, ชนาธิป ซ้อนขำ และ พิมศิริ ศิริแก้ว ด้วย
             
ยันให้หนุนกีฬามีลุ้นเหรียญอลป.

         
        ด้าน นายกฯ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร กล่าวว่า ต้องแสดงความยินดีกับนักกีฬาที่ได้รับเหรียญรางวัลในครั้งนี้ รวมทั้งนักกีฬาที่ไม่ได้รับเหรียญรางวัล เพราะโอลิมปิกเกมส์แค่มีส่วนร่วมก็ถือว่าประสบความสำเร็จแล้ว โดยจากนี้อยากให้นักกีฬาทุกคนมุ่งมั่นกับการฝึกซ้อมเพิ่มมากขึ้น เพื่อสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทย ขณะที่รัฐบาลก็พร้อมให้การสนับสนุนเต็มที่เช่นกัน


        นอกจากนี้จะพยายามพัฒนานักกีฬาให้ดียิ่งขึ้น โดยจะมุ่งเน้นไปที่กีฬาที่มีความหวังในโอลิมปิกเกมส์ โดยจะเพิ่มงบประมาณให้ด้วย นอกจากนี้ที่รัฐบาลให้การสนับสนุนไปแล้วคือโครงการ 1 กีฬา 1 รัฐวิสาหกิจ ซึ่งจากนี้ไปจะพยายามหาแนวทางที่จะดึงภาคเอกชนเข้ามาร่วมให้การสนับสนุนด้วย โดยแนวทางการพัฒนากีฬาต้องทำงานเป็นระบบต้องเพิ่มผู้ฝึกสอนที่มีคุณภาพ และมีการนำวิทยาศาสตร์การกีฬามาใช้ให้มากขึ้น


        ขณะเดียวกันปัญหาเรื่องสนามซ้อมที่หลายชนิดกีฬายังขาดแคลน ทางรัฐบาลจะพยายามให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่ นายกฯ ยิ่งลักษณ์ กล่าว

[นายไข่นุ้ย]

  แท้1 สุดยอด 

[กุ๊กเทวดา ส่องพระ]

ยินดีกับหมวดแก้วครับ ที่ได้เลื่อนยศเป็นร้อยตรีครับ