ข่าว:

ทดลองใช้งานบอร์ดตะลุง ที่อยู่ในขั้นตอนการกู้คืนข้อมูล เบื้องต้นมีแต่กระทู้ (ข้อความ) กำลังกู้รูปภาพ ไฟล์แนบต่าง ๆ คาดว่าจะทยอยสมบูรณ์ภายในไม่ช้า

Main Menu

ฝาก บุญญศักดิ์ ไปถึง fergal Keane นักข่าว BBC ผู้อาภัพ!

เริ่มโดย Mr.No, 14:54 น. 10 พ.ย 54

Mr.No

[attach=1]

วันนี้ ผมมีอะไรจะมาเล่าให้ บุญญศักดิ์ และพลพ้อง เสื้อแดงที่อุตส่าห์ข้ามฟากข้ามฝั่งมาจาก ราชดำเนินบ้าง,ประชาทอลก์ , ฯลฯ มาเยือนถึงถิ่นวัวชนคน กิมหยงดอทคอม  รวมทั้ง สมาชิกเสื้อแดง กลุ่ม อ.แดง อ.เขียว สังกัดหาดใหญ่แนวร่วมผู้ภักดีสำหรับความพยายามในการโฆษณาชวนเชื่อ เพื่อขยายสายพันธุ์แดงเดือดดิบ ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้...

แต่ที่น่าเห็นใจก็คือ...  ที่กิมหยงดอมคอม นั้นมันดันกลายเป็น "วัวชน"  ไม่ใช่วัวควายไถนาแบบหลอกง่ายทั่วไป เพราะมันทั้งด้น,ทั้งหัวหมอ,หัวแข็ง แบบที่เผลอเมื่อไหร่..พ่อทอไส้ไหล..ตามสไตล์วัวชนปักษ์ใต้ ที่ไม่ค่อยจะกรี๊ดเศษหญ้าร้าย ๆจนถึงขนาดเทิดทูนใครให้เป็นดังพ่อบุญธรรม แบบที่เสื้อแดงทั่วไปเป็นกัน ชนิดตายแล้วก็ยัง... blind faith  กับพ่อประมุขทักกี้อยู่..

คุณบุญญศักดิ์ นี่ค่อนข้างขยันทำงานกว่าคนอื่น... โดยเฉพาะการหาข้อมูลโจมตี พรรค ปชป , ทหาร ,สถาบัน ฯลฯ มาให้อ่านกันอย่างอัพเดทตลอด...อย่างล่าสุด พยายามนำสกู๊ปรายงานพิเศษ ของ นาย Fegal Keane นักข่าวบีบีซี   เกี่ยวกับความอยุติธรรมที่คนเสื้อแดงได้รับจากการฆาตกรรมโดยทหาร เมื่อครั้งถูกยุจนสติแตก..เผาบ้านเมืองตัวเองและถูกยิงตายไป

รู้สึกว่า รายงานชุดนี้ถูกอกถูกใจคนเสื้อแดงไม่น้อย... เพราะพะยี่ห้อ BBC งานนี้มีกระหึ่ม ฮึกเหิม โดยเฉพาะ ขาใหญ่แห่งดูไบ ผู้สวมสิทธิ(ที่ไม่มี)เข้าไปเสียบเป็นประธานทอดกฐินพระราชทานที่อินเดียแทนน้องสาวอย่างหน้าตาเฉย....

ที่ผมถาม คุณบุญญศักดิ์ ว่า รู้จักผู้หญิงตัวเล็กที่ชื่อ นภัส ณ ป้อมเพ็ชร ในกระทู้ที่คุณตั้ง  http://gimyong.com/talung/index.php/topic,42612.0.html หรือไม่นั้น... เพราะผมคิดว่า คุณต้องรู้จักเขาดี... เพราะเป็นคนที่เขียนจดหมายเปิดผนึกด่าไปถึง สำนักข่าวใหญ่ อย่าง CNN ที่มีผู้สื่อข่าวหรี่ตาข้างเดียวจนเสียชื่อสื่อใหญ่มาแล้ว.....

จะว่าไป จริง ๆ ผมก็ชอบอ่านข่าว บีบีซี และก็เชื่อว่าสำนักข่าวแห่งนี้มีนักข่าวดี ๆ แยะ... แต่ก็นั่นละ ขึ้นชื่อว่า "มนุษย์" ต่อให้ดีเพียงใด มันก็มีนักข่าวห่วยๆ ได้ในวันหนี่ง อย่างที่ประเทศไทยวันนี้มีหนังสือพิมพ์ไทยบางค่ายที่ขายตัวรับใช้ทักษิณ จนออกนอกหน้าก็มีให้เห็นกันจะจะ

จริงๆ ... ผมไม่ค่อยแปลกใจกับผู้สื่อข่าวบีบีซีคนนี้ ว่าทำไมถึงได้ทำรายงานพิเศษและสื่อสารข้อมูลด้านเดียวให้คนทั่วโลกมีความรู้สึกไม่ดีต่อสถาบันกษัตริย์ไทย และทหารไทย  ออกมาได้แบบแดงๆ  ตรงใจทนายฝรั่งและคนดูไบ อย่างที่ต้องการเป๊ะ ๆ เพราะหากพิเคราะห์ถึงชาติพันธุ์ต้นสายตระกูลรากเหง้าของหมอนี่ก็พอรู้ว่ามีทัศนคติที่ไม่ค่อยชอบสถาบันกษัตริย์นัก...แบบที่เรียกว่า "พวกขาดความอบอุ่นทางชาติพันธุ์การปกครอง"


เพราะหมอนี่ เป็นไอริช  เติบโตในดับลิน และเริ่มชีวิตนักข่าวที่สำนักข่าว The Iris Press มันจึงไม่แปลกที่แนวคิดในการต่อต้านสถาบันกษัตริย์ และเกลียดทหารผู้ใช้อำนาจนั้นมีมาแต่บรรพบุรุษ

พวกไอริช ยังคงฝังจำความโหดร้ายของทหารอังกฤษที่เข้ามายึดเอาบ้านเกิดเมืองนอนในอดีตอย่างไม่ลืมเลือน แม้นวันนี้ มันจะเปลี่ยนเป็นสาธารณรัฐไอร์แลนด์ไปแล้ว ทว่าบางส่วนยังคงขัดแย้งกันอยู่จากกรณีไอร์แลนด์เหนือที่ยังคงสวามิภักดิ์อยู่กับอังกฤษ  และที่สำคัญ  ยังมีการวางระเบิด(เถื่อนๆ) แบบที่สามจังหวัดใต้นิยมกัน ..(ไม่ได้สะท้อนสภาวะเติบโตแบบยอมรับประชาธิปไตยที่แตกต่างอย่างที่โม้กันเลย)

ดังนั้นรายงานพิเศษ ที่...บุญญศักดิ์ อุตส่าห์เอามาโพสอย่างภูมิใจนักหนาครั้งนี้ ผมกลับคิดว่าน่าจะเป็นรายงานพิเศษที่น่าสงสารที่สุด เพราะสะท้อนถึงก้นบึ้งแห่งการถ่ายทอดความรู้สึกส่วนตัวถึงความผิดหวังในชาติพันธุ์ตนเองที่ดันมีประสบการณ์ถูกกดขี่และเหยียดหยามอย่างโหดร้ายจากอังกฤษ ที่มีระบอบการปกครองแบบกษัตริย์ในยุคนั้น...และคิดไปว่า ที่นี่(ประเทศไทย) มันก็คงไม่ต่างจาก ไอร์แลนด์ บ้านเกิดของตนในอดีต.....

สิ่งที่ นักข่าวไอริชคนนี้ และ คนไอริชทั้งประเทศไม่มีและไม่เคยประสบก็คือ  ประสบการณ์ของการมีกษัตริย์ที่ดีที่สุดในโลกแบบเมืองไทย และที่สำคัญก็คือ หมอนี่ไม่เคยได้สัมผัส ความยิ่งใหญ่แห่งบุรพกษัตริย์ไทย ที่สร้างความมั่นคงไม่ยอมให้ประเทศต้องตกไปเป็นเมืองขึ้นให้ใครกดขี่ แบบที่คนไอริช เคยได้รับทุกขเวทนา...
ต้นแบบกษัตริย์ที่ดีของไทย ..กลายเป็นแบบอย่างที่ กษัตริย์ประเทศภูฎาน ขอนำไปเป็นแบบอย่างในการปกครองประชาชน... ระบอบเศรษฐกิจพอเพียงและการปลูกพืชแบบเกษตรทฤษฎีใหม่ที่หลายประเทศในทวีปแอฟริกา นำไปใช้จนเริ่มพอลืมตาอ้าปากไม่อดหยากปลูกแต่หัวมันอย่างเดียว...

สิ่งที่อยากแนะนำก็คือ  ถ้านักข่าวนายนี้ ใช้เวลาให้มากในการศึกษา ประวัติศาสตร์ไทยและความผูกพันระหว่างสถาบันกษัตริย์ไทยที่มีกับประชาชนมานับร้อย ๆ ปี ก็อาจต้องยอมรับแบบที่ฝรั่งจำนวนมากรู้สึกอิจฉา ประเทศไทย...

อย่าเครียดมากนักกับ มุมมองรากเหง้าและวิถีการปกครองของชาติภาษาอื่น .... เพราะ ประเทศไทย ก็คือ ประเทศไทย... ไอรแลนด์ ก็คือ อังกฤษ เอ๊ยไม่ใช่ ....  "ไอร์แลนด์" ตะหาก..

อ้อ... ปิดท้ายฝาก  ช่วยให้ความเห็นตามคลิปข้างล่างนี้หน่อยนะว่า  ทหารคนนี้ถูกกระทืบแล้ว ใครเป็นคนเอาปืนยิงแก.???

..ขอเป็นแค่ "มนุษย์" ที่อาศัยโลกใบนี้สำหรับ เกิด.แก่.เจ็บ.ตาย อย่างนอบน้อมและคารวะ.

ศรีธันยา

เยี่ยมครับ Mr.No ข้อมูลอีกแง่จะได้ไม่ต้องเสพข้อมูลข้างเดียว ส่วนที่เหลือก็คือการตัดสินใจของผู้อ่าน ไม่เหมือนวิทยุชุมชนบางพื้นที่กรอกหูทั้งวัน จนไม่รู้อะไรจริงไม่จริง

Joke_EJ7

The man who never mistakes is the man who never do anythings.

''คนที่ไม่เคยทำอะไรผิด คือ คนที่ไม่เคยทำอะไรเลย''

แต่ก่อนเคยอยู่หาดใหญ่


บ่าวเคว็จ


ยังได้อีก


คนค้าแก้ว

เดี๋ยวก่อนบุญญสากขอไปถามพ่อก่อนว่าจริงรึเปล่าแล้วจะให้ตอบว่ายังไงเดี๋ยวบุญญมานะพี่น้อง
ไม่ต้องบินสูงอย่างใครเขา จงบินเอาเท่าที่เราจะบินไหว ท่าที่บินไม่จำเป็นต้องเหมือนใคร แต่บินไปให้ถึงฝันเท่านั้นพอ

ภัทราภรณ์

ขอบคุณค่ะ ที่นำเสนอข่าวอีกด้านหนึ่ง

ส.ยกน้ิวให้
การเป็นโสด คือจุดเริ่มต้นของสิ่งที่เรียกว่า "คาน"

รวย8888

ทำวันนี้ ให้ดีที่สุด

คานธี หาดใหญ่

สรุป ความขัดแย้งของ 2 แนวความคิด คือ

1 แนวอนุรักษ์นิยม คือ ยังคงบทบาทของกลุ่มอำนาจนำไว้เหมือนเดิม เช่น อำนาจกองทัพ

องค์ิอิสระต่างๆ(ที่สามารถชักใยได้)และกลุ่มองค์กรต่างๆที่ค้ำจุนสถาบันฯ

ข้อดี เป็นรากฐานทางสังคมและวัฒนธรรมของไทยมาช้านาน

ข้อเสีย เป็นระบบปิด ไม่สามารถตรวจสอบได้ วิพากวิจารณ์ได้ และถูกจำกัดบทบาทของปชช.โดยมีกม.คุ้มครอง

ม.112

2 แนวทางประชาธิปไตย คือต้องการปฎิรูปปัญหาโครงสร้างของกลู่มอำนาจนำ โดยให้ลดบทบาท

ของสถาบันฯลง และให้อำนาจของปชช.ได้มากขึ้น และให้ปชช.ได้ตรวจสอบ วิพากวิจารณ์ได้อย่างตรงไปตรงมา เพื่อ

นำไปสู่สถาบันฯอันที่เคารพสักการะที่แท้จริง มิใช่ถูกใช้ไปเพื่อทำลายปชช.หรือคู่แข่งทางการเมือง

ไม่ว่าบทความของใคร ไม่มีถูกไม่มีผิดครับ  ไม่ว่าของ คุณณภัสฯ หรือสกู๊ปข่าวของ bbc หรือของรอยเตอร์ หรือของสื่อ

ใดๆ ที่เคยได้อ่านมา มันเป็นต่อสู่ของ 2 แนวทางความคิดครับ

แนวทางไหนที่อยู่บนพื้นฐานหลักเสรีภาพ ภราภาพ และหลักการประชาธิปไตยพื้นฐาน แนวทางนั้นจะชนะในระยะยาว

ครับ

จับฉ่าย


ปชปหัวก้าวหน้า

เปิดคลิป BBC ฉบับแปลไทย แฉใบสั่งดีเอสไออุ้มทหาร โยนเสื้อแดงฆ่ากันเอง

Thu, 2011-11-10 22:23

เมื่อวันที่ 8 พ.ย.ที่ผ่านมา เว็บไทยอีนิวส์ นำเสนอรายงานเรื่อง โลกตลึงDSIแฉผ่านBBCหมดเปลือกปกปิดทหารฆ่าประชาชนปี53 ธาริตใบสั่งโยนผิดเสื้อแดงฆ่ากันเอง  โดยระบุว่า มีผู้นำสารคดี Thailand - Justice Under Fire (ประเทศไทย-ความยุติธรรมที่ปลายกระบอกปืน) ออกเผยแพร่อีกครั้่งทาง Youtube อัพโหลดโดย minitau1 และมีการแปลภาษาไทยด้วย

ทั้งนี้ สารคดีดังกล่าวสำนักข่าวบีบีซีเผยแพร่เมื่อวันที่ 7 ส.ค.2554 ที่ผ่านมา จัดทำโดย Fergal Keane , Jonathan Jones, Mark Alden มีการจำกัดการฉายเฉพาะในบางประเทศและไม่เปิดให้ดาวน์โหลดคลิปย้อนหลังในเว็บ

http://www.youtube.com/watch?feature=player_embedded&v=bIjfD4_EnVo

คลิปสารคดี BBC - Thailand - ความยุติธรรมปลายกระบอกปืน อัพโหลดโดย minitau1   

ไทยอีนิวส์ระบุว่า ความน่าสนใจของสารคดีชุดนี้คือ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีได้ให้สัมภาษณ์ว่า หากพบหลักฐานทหารสังหารประชาชน พวกเขาก็ต้องติดคุกโดยผู้พิพากษาจะตัดสินคดีเหล่านี้ ซึ่ง BBC ชี้ว่าหากยิ่งลักษณ์ทำตามที่พูดได้จริง มันจะเป็นครั้งแรกในหน้าประวัติศาสตร์ใหม่ ของไทยเลยทีเดียว พร้อมกับตั้งข้อสงสัยว่าจะเป็นจริงไปได้เพียงไหน เพราะประวัีติศาสตร์การเมืองไทยยุคใหม่ ไม่เคยมีการดำเนินคดีต่อกองทัพหรือผู้มีอำนาจสั่งการเลย ไม่ว่าจะในตอนเหตุการณ์ 6 ตุลาคม 2519 หรือพฤษภาทมิฬ 2535 สุดท้ายก็มีการออกกฎหมายนิรโทษกรรมยกเว้นความผิดให้

ในคราวเหตุการณ์ 10 เมษายน - 19 พฤษภาคม 2553 BBC ระบุว่า มีความพยายามจะปกปิดความผิดให้กองทัพหรือผู้มีอำนาจสั่งการ เช่นคดีสังหารผู้สื่อข่าวช่างภาพชาวอิตาลี ฟาบิโอ โปเลนจี (Fabio Polengi) ทางสำนักงานสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ได้แจ้งกับพี่สาวของผู้ตาย อิซา โปเลนจี (Isa Polengi) ว่าไม่มีทหารในที่เกิดเหตุขณะที่มีการยิงฟาบิโอในวันที่ 19 พฤษภาคม 2553

ขณะเดียวกันทาง BBC ได้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวต่างประเทศที่อยู่ร่วมในเหตุการณ์นั้น 3 คน คนแรกคือ แบรด คอกซ์ (Brad Cox) ซึ่งยืนยันว่า มีกองทหารอยู่ตรงจุดนั้น อย่างน้อยที่สุดก็ 1 ชั่วโมงก่อนเข้าสลายการชุมนุม, มิเชล มาส (Michel Maas) นักข่าววิทยุเนเธอร์แลนด์ ที่ถูกยิงบาดเจ็บเวลาเดียวกับฟาบิโอ ก็ยืนยันว่า การยิงมาจากทิศทางกองทัพ ขณะที่พวกเขาหลบอยู่ กระสุนมาจากทิศทางทหารตั้งอยู่ , ผู้สื่อข่าวช่างภาพญี่ปุ่นอีกรายที่เห็นฟาบิโอถูกยิงล้มลงและเข้าไปลากตัวออกจากที่เกิดเหตุก็ระบุเช่นเดียวกัน

BBC รายงานว่า แกนนำเสื้อแดงได้แนะนำให้ BBC สัมภาษณ์เจ้าหน้าที่ใน DSI สองคน ให้สัมภาษณ์โดยไม่เปืดเผยชื่อ และใบหน้า (ดูในคลิป Youtube นาทีที่ 33)

เจ้าหน้าที่ 2 คนนี้ยืนยันว่า "เราเชื่อว่าการเสียชีวิตในเหตุการณ์นั้่น เกิดขึ้นโดยการยิงของทหาร แต่หลังจากที่เรามีข้อสรุปในคดีก่อนว่า ประชาชนถูกสังหารโดยกองทัพ คดีต่อมาที่มีข้อสรุปแบบเดียวกันก็ถูกขัดขวาง DSI ถูกสั่งให้ปกปิดเรื่องกองทัพสังหารประชาชน เราถูกสั่งให้พูดว่า ในตอนนี้ยังไม่ทราบตัวผู้กระทำ แม้เราเชื่อว่า การเสีียชีวิตนั้นเกิดขึ้่นโดยการยิงของทหาร"

เช่นเดียวกับคดีการตายของผู้สื่อข่าวช่างภาพญี่ปุ่น คือนายฮิโรยูกิ มูรามูโต้ ซึ่งถูกสังหารในวันที่ 10 เมษายน 2553 ตอนแรก DSI สรุปว่า เขาถูกฆ่าโดยทหาร ซึ่งตรงกับการสอบสวนของรอยเตอร์ ซึ่งเป็นต้นสังกัดของเขา แต่แล้วในเวลาต่อมา DSI ได้เปลี่ยนแปลงรายงานว่า เขาอาจถูกฆ่าโดยฝ่ายเสื้อแดง

"มีนโยบายให้กล่าวโทษคนเสื้อแดงในทุกกรณีเท่าที่จะเป็นไปได้ ยังมีความพยายามจะออกคำสั่งว่า หากไม่พบผู้กระทำผิดให้โยนข้อกล่าวหาไปให้ฝ่ายเสื้อแดง อธิบดี DSI เป็นผู้ออกคำสั่งนั้น"

"มีคำสั่งว่า หากไม่สามารถหาบุคคลที่เหนี่ยวไกปืนได้ เราจะต้องสันนิษฐานว่า ฝ่ายเสื้อแดงและผู้สนับสนุนเป็นคนทำ" แต่นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดี DSI ปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์ใดๆกับ BBC

พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกศอฉ.กล่าวปฏิเสธกับ BBC เรื่องผู้นำทหารไปพบอธิบดี DSI และสั่งว่า"อย่าเข้ามายุ่ง ต้องให้ทหารไม่มีความผิด" และปฏิเสธกรณี 6 ศพวัดปทุมฯ ว่าอาจถูกยิงมาจากข้างนอกแล้วแบกเข้ามาในวัด

แต่ผู้สื่อข่าวต่างประเทศชาวแคนาดา มาร์ค แมคคินนอน (Mark MacKinnon) ที่อยู่ในวัดปทุมในวันที่เกิดเหตุ ยืนยันว่า หลังสลายชุมนุม คนจำนวนมากหลบเข้าไปในวัด มีทหารตามมายิง และมีคนจุดบั้งไฟขึ้น จากนั้นทหารก็ยิงมาใส่อย่างถล่มทลายแบบไม่หยุดยั้ง โดยทหารที่อยู่บนรางรถไฟฟ้าเหนือวัดปทุมฯ ทั้งที่ผู้ตายมีเครื่องหมายพยาบาล และอยู่ในวัดพุทธศาสนา เป็นเขตอภัยทาน ในกลางกรุงเทพฯ

"วัฒนธรรมการปกปิดความผิดและการโยนความรับผิดแบบไทย หากนายกฯ ยิ่งลักษณ์จะเอาผู้่กระทำผิดลงโทษได้ตามที่ให้สัมภาษณ์เรา ก็จะกลายเป็นกรณีแรกของประวัติศาสตร์ประเทศนี้" BBC ระบุ

destiny_X

อนุรักษ์นิยม ก็มีมานานก็ยังอยู่กันมาได้มีสะดุดบ้างแต่ไม่ถึงกับเลวร้ายอะไร

แนวทางประชาธิปไตย(จริงรึเปล่าใครตอบได้)ต้องการปฎิรูปปัญหาโครงสร้าง เพื่ออะไร ต้องการ เพื่อคนกลุ่มไหน
ต้องแยกเยะ
ตามที่ท่านคานธี หาดใหญ่ กล่าวมาก็ถูกส่วนหนึ่ง แต่ยังไงเรื่องนี้ก็เป็นการเมืองอยู่ดี ถ้าแก้ไขแล้วยังมีปัญหาใครจะเป็นคนรับผิดชอบ

ถ้าประชาธิปไตยคือการพาประชาชนไปสู้รบ ปิดถนน ปิดสนามบิน บุกการประชุมอาเซี่ยน เผาศูนย์ราชการ เผาเมือง
คุกคามสื่อ ยิงชาวบ้าน ยิงทหาร ทหารยิง แล้วเรียกว่าประชาธิปไตย ก็คงต้องทำความเข้าใจใหม่

ต้องแก้ไขนักการเมือง ข้าราชการ ที่โกงกินชาติก่อนดีกว่า แก้ให้ถูกจุด อย่าเบี่ยงแบนประเด็นไปให้บุคคลที่คนไทยเคารพรักแปดเปีื่อนสิ่งที่นักการเมืองทำเลวไว้

ทั้ง 2 แนวทางก็เป็นประชาธิปไตย ไม่ว่าประชาธิปไตยแบบไหน มันก็ขึ้นอยู่กับผู้ใช้หลักของประชาธิปไตย

ยังไงก็ยังยืนยัน ว่าอยู่ที่นักการเมือง จะเปลี่ยนแปลงกฎหมายสังกี่ครั้งถ้านักการเมืองยังเป็นอยู่อย่างนี้จะแก้ไขไปทำไม
เพื่ออะไร และเพื่อใคร(คงจะไม่อ้างว่าประชาชน)

ขึ้นชื่อว่านักการเมืองหาดียาก แล้วจำเป็นต้องบาดเจ็บล้มตายเพื่อเขาหรือเปล่า

คานธี หาดใหญ่

อ้างจาก: ธวัฒน์ชัย เมื่อ 16:58 น.  11 พ.ย 54
อนุรักษ์นิยม ก็มีมานานก็ยังอยู่กันมาได้มีสะดุดบ้างแต่ไม่ถึงกับเลวร้ายอะไร

แนวทางประชาธิปไตย(จริงรึเปล่าใครตอบได้)ต้องการปฎิรูปปัญหาโครงสร้าง เพื่ออะไร ต้องการ เพื่อคนกลุ่มไหน
ต้องแยกเยะ
ตามที่ท่านคานธี หาดใหญ่ กล่าวมาก็ถูกส่วนหนึ่ง แต่ยังไงเรื่องนี้ก็เป็นการเมืองอยู่ดี ถ้าแก้ไขแล้วยังมีปัญหาใครจะเป็นคนรับผิดชอบ

ถ้าประชาธิปไตยคือการพาประชาชนไปสู้รบ ปิดถนน ปิดสนามบิน บุกการประชุมอาเซี่ยน เผาศูนย์ราชการ เผาเมือง
คุกคามสื่อ ยิงชาวบ้าน ยิงทหาร ทหารยิง แล้วเรียกว่าประชาธิปไตย ก็คงต้องทำความเข้าใจใหม่

ต้องแก้ไขนักการเมือง ข้าราชการ ที่โกงกินชาติก่อนดีกว่า แก้ให้ถูกจุด อย่าเบี่ยงแบนประเด็นไปให้บุคคลที่คนไทยเคารพรักแปดเปีื่อนสิ่งที่นักการเมืองทำเลวไว้

ทั้ง 2 แนวทางก็เป็นประชาธิปไตย ไม่ว่าประชาธิปไตยแบบไหน มันก็ขึ้นอยู่กับผู้ใช้หลักของประชาธิปไตย

ยังไงก็ยังยืนยัน ว่าอยู่ที่นักการเมือง จะเปลี่ยนแปลงกฎหมายสังกี่ครั้งถ้านักการเมืองยังเป็นอยู่อย่างนี้จะแก้ไขไปทำไม
เพื่ออะไร และเพื่อใคร(คงจะไม่อ้างว่าประชาชน)

ขึ้นชื่อว่านักการเมืองหาดียาก แล้วจำเป็นต้องบาดเจ็บล้มตายเพื่อเขาหรือเปล่า

ประเด็นของคุณ คือนักการเมืองเลว นั่นคือข้อสรุป

ซึ่งจริงๆแล้ว เราก็สามารถด่านักการเมืองมันได้ ใช่ไหม ขุดสันดานมันได้ใช่ไหม ตรวจสอบมันได้ใช่ไหม วิพากวิจารณ์มันได้ใช่ไหม ขุดรุ่นพ่อรุ่นแม่ที่อยู่ในหลุมมาเล่นการเมือง มันได้ใช่ไหม ทุก 4 ปี เปลี่ยนมันได้ใช่ไหม

แต่มันมีอำนาจอีกระบบหนึ่ง ที่ไม่สามารถตรวจสอบได้ และมีรังสีอำมาหิตแผ่ไปทั่วทุกพื้นที่ของประเทศนี้

สิ่งเหล่านี้ต่างหาก ที่ทำให้ประเทศนี้พิกลพิการ โดยข้ออ้างเพื่อความมั่นคงของประเทศ ทำไมต้องรวมศูนย์อำนาจ ทำไมเก็บภาษีจากท้องถิ่น ไปรวมอยู่ส่วนกลาง การกระจายอำนาจมีไหม

อยากให้คุณได้อ่าน หนังสือหรือ บทความที่ว่า รัฐซ้อนรัฐ หรือ สองนครา(จำไม่ได้หมด) เขียนโดยอดีตอธิการบดีธรรมศาสตร์ (เคยเป็นหัวหน้าพรรคมหาชน) สมัยเสหนั่นคุมบังเหนียน หาในกูเกิล ก็ได้ 

แล้วคุณจะรู้ความจริง ที่ว่า อำนาจต้องเป็นของปชช.และอำนาจนอกระบบต้องถูกปฏิรูป (มิใช่ปฏิวัติหรือโค่นล้มเพื่อเปลี่ยนระบบ)

destiny_X

ประเด็นของผม คือนักการเมืองเลว นั่นคือข้อสรุป ถั่าต้มแล้วคร๊าบ
[/color][/b]
ผมบอกตรงไหนวา่ขุดรากเง่ามาด่า ผมย่ำตรงที่นักการเมืองไม่ใช่พ่อแม่นักการเมือง คุณคิดว่าคุณฉลาดก็ไม่ต้องเหน็บแนมผม
ถูกต้องด่านักการเมืองได้ด่าบุคคลที่ผมเคารพไม่ได้ มันไม่ยุติธรรมสำหรับคุณ แต่ผมบอกแล้วว่าแก้ที่ตัวนักการเมืองก่อนแล้วเรื่องแก้ม.112 ค่อยว่ากัน (เรื่อง ม.112 ผมจะไม่พูดต่อไม่อยากทำให้ผู้ดูแลบอร์ดหนักใจ จบแล้วจ๊ะ)

ต่อ
อำนาจที่ว่าคืออำอาจที่ไอ้นักการเมืองทักษินทำอยู่ใช่มั๊ย  ใช่มั๊ย  ใช่มั๊ย (ใส่เสียงสูงด้วย)

แล้วอำนาจที่ตรวจสอบได้ยังไม่ตรวจสอบ ตรวจสอบแล้วหนีไม่รับยังลอยหน้าลอยตา วิดีโอลิ่งค์อยู่ตลอด ยังจะเอาอะไรอีกหาเรื่องมากลบเกลื่อนรึเปล่า ถ้าไม่ผิดก็ต้องสู้ไม่ใช่หนี


ถ้าอ่านหนังสือความคิดของคนหนึ่งคนแล้วเชื่อตามนั้นก็เรื่องของคุณ 

หนังสือต้องห้ามผมก็อ่านหลายเล่ม ถึงจะไม่ฉลาดแต่ก็อ่านออกเข้าใจได้(ภาษาไทย ) แต่ยอมรับว่าเล่มนั้นไม่ได้อ่าน เพราะเบื่อที่อ่านไม่มีเวลา

ผมเขียนพยายามที่จะให้คุณอารมณ์เย็น ผมอ่านของคุณเหมือนคุณคุมอารมณ์ไม่อยู่ผมก็เริ่มจะขึ้น(ภาษาใต้แปลว่าหวิป)แต่ไม่อยากให้มันร้อน แต่ผมได้เพยังไงก็ได้(ล้อเล่นอย่าซีเรียส) ไม่อยากพิมมากเดี๋ยวยาว


ถ้าประชาธิปไตยของคุณไม่รับฟังคนอื่น ก็คนละประชาธิปไตยของผม
[/b]


              ล็อกอินนี้คนเดียวกับศรีธันยานะครับเจอตัวจริงได้อยู่สงขลาไม่ตีหัวแล้ววิ่งเหมือนใครว้า

Mr.No


[attach=1]

อืมม.. ต้องบอกว่า คุณคานธี หาดใหญ่ เจ๋งกว่าพวกตีหัวเข้าบ้านอีก 2-3 หน่อที่เหลือแยะ...  เล่นแหวกวง บุญญศักดิ์, ปชป หัวก้าวหน้า มาให้ความเห็นแบบนี้ นับว่าเป็นนิมิตที่ดี....

ผมอ่านความเห็นคุณแล้ว ...ก็ยังงุนงง ตรงที่  สุดท้ายพวกคุณยังไม่สามารถแยกแยะความหมายของ คำว่า "ประชาธิปไตย" ที่มันมีหลากหลายมิติได้... เพราะดู ๆ ก็ยังวุ่นวายอยู่แค่ "เปลือก" แต่ลึกกว่านั้นกลับไม่พยายามทำความเข้าใจ โดยเฉพาะ หลักของ "เหตุ" และ "ผล"

ตัวอย่างที่คุณนำเอาบทวิจัยของ อ.เอนก เหล่าธรรมทัศน์ เรื่องสองนคราประชาธิปไตย มาตีความนั่นละครับ  คือ "ปัญหา" เพราะคุณอ่านและทำความเข้าใจในบทวิจัยนั่นเพียงเปลือกแล้วเลือกจับเอาเฉพาะประเด็นที่ใกล้เคียงมาใช้.. แต่ไม่ได้เข้าใจในสาระสำคัญที่บทวิจัยนั่นมุ่งหมายถึงสาเหตุที่แท้ว่าคืออะไร...


ที่ผมบอกว่า "ปัญหา" อีกอย่างก็คือ  การที่คนเสื้อแดงส่วนใหญ่ หาญกล้ายาตราทัพเข้าเมืองหลวง เผาบ้านเมืองตนเองได้นั้น ...เค้าเผาและทำลาย เพราะคนเหล่านี้เข้าใจ หรือคนเหล่านี้ถูกล้างสมองและถูกหลอกให้คิดไปในรูปแบบที่ต้องการให้เป็น จาก นักการเมืองเลวกันแน่...


และภายใต้สาระของบทวิจัยนั้น  แท้จริงแล้ว พวกเค้าเหล่านี้ละ ก็คือกลุ่มชนที่น่าสงสารตามความหมายที่ อ.เอนก พูดถึง นั่นคือ กลุ่มคนชั้นล่างที่ประกอบด้วย ชาวไร่ ชาวนา ชนชั้นใช้แรงงาน ที่ขาดโอกาสการรับรู้ และเข้าถึงในการแยกแยะว่าสิ่งใด "จริง" สิ่งใดเป็นเพียงแค่ความปลิ้นปล้อนหลอกลวงของ "นักการเมือง"

ในขณะที่บทวิจัย พูดถึง ชนชั้นกลาง ซึ่งมิใช่ชนส่วนใหญ่ของประเทศ แต่กลับเป็นตัวแปรที่สำคัญที่จะชี้นำสังคม และมักจะเป็นปัญหาให้กับรัฐบาล และระบบการเมือง หรือพูดง่าย ๆ ก็คือ "ก้างขวางคอ" รัฐบาลอยู่บ่อยครั้ง....

เพราะเมื่อย้อนไปครั้งที่มีการทำรัฐประหารและปรากฏดอกกุหลาบเต็มมือทหารอย่างอบอุ่นนั้น... คือตัวอย่างที่ชัดเจนของการยอมรับจากชนชั้นกลาง และนี่ต่างหากที่ทำให้ รัฐบาลภายใต้การนำของ ทักษิณ รู้สึกโกรธแค้น และนับเป็นจุดเริ่มของ"ปัญหา" ทั้งปวง และยิ่งกองทัพไทยนั้นมีวัฒนธรรมที่สำคัญคือการเคารพรุ่น และให้ความนับถือ พลเอกเปรม ในฐานะทั้งรุ่นพี่ และมีตำแหน่งเป็นประธานองคมนตรี ยิ่งทำให้กลายเป็นการเดินหน้าไปสู่การขยายความแค้น เพื่อทำลายล้างวัฒนธรรมดังกล่าว และเพื่อให้กองทัพเลิกค้ำสถาบัน แต่หันกลับมารับใช้รัฐบาลหรืออีกนัยหนึ่งก็คือ "นักการเมือง" นั่นเอง...

[attach=2]

ข้างต้นคือ ปฐมบทของปัญหา..... คำถามของคนมีปัญญามักไม่ค่อยสงสัยหรือตกใจกับการทำปฎิวัติ,รัฐประหาร แต่คนที่ใช้ปัญญามักจะมุ่งหา "เหตุ" ที่แท้จริงว่า  ..อะไรเล่าที่มันเป็น "เหตุ"ให้ วงจรอุบาทว์ ที่เรียกว่า การทำปฏิวัติ รัฐประหาร ไม่จบสิ้นไปจากแผ่นดินไทยเสียที.... เพราะหากคิดแต่ "ผล"... แต่ไอ้ตัว "เหตุ" ยังคงดำเนินต่อไป ต่อให้ 100 ปี มันก็ยังมีข้ออ้างให้ทำรัฐประหารได้อยู่ดี

เมื่อถามว่าอะไรคือ "เหตุ".... คนที่ไทยที่ใช้ปัญญาพิเคราะห์อย่างลึกซึ้งก็ตอบได้แบบไม่อ้ำอึ้งว่า  ก็เพราะ "ความล้มเหลว" ของ รัฐบาล ที่มี"นักการเมืองเลว" ไง....  หรือถ้าจะยกเปรียบแบบไทย ๆ ก็คือ  "ไม่มีมูล หมาไม่ขี้" อะไรทำนองนั้น

ถ้า ทักษิณ ตระหนักให้ดีและยังคงนับถือพุทธ...ต้องคิดได้ว่า  ทุกวันนี้ที่ตนเองต้องระทมทุกข์ เสียทั้งเงิน..เสียทั้งแผ่นดินจะเหยียบอาศัย นั้น มันเป็น "กรรม" และผลของกรรมที่ได้รับจาก "รัฐประหาร" ก็มาจาก "เหตุ"  ที่ตนเองนั้นได้สร้างไว้บานเบอะ...   ทางพุทธนั้น ชัดเจน..ตรงไปตรงมา  เพราะถ้าไม่มีเหตุ ผล(รัฐประหาร) มันเกิดไม่ได้แน่นอน ..โดยเฉพาะในโลกที่การสื่อสารมันปกปิดยากขึ้นทุกวัน...

ความพิกลพิการของการเมืองไทย มันอยู่ตรงที่  "นักการเมือง" ที่เคยมีหน้าที่เพียงการทำหน้าที่ พิจารณา,ร่าง,เสนอ ข้อกฎหมายต่าง ๆ ให้สอดคล้องและมีประโยชน์ต่อประเทศ กลับมีบทบาทและทำหน้าที่เกินเลยขอบเขตจนบ้าอำนาจ..
เพราะหลังจากมีการร่างกฎหมายให้อำนาจ "นักการเมือง" ทำโน่น ทำนี่ มีกรรมาธิการสารพัดที่จะสามารถเรียกคนโน้นมาด่า..เรียกคนนี้มารับใช้ได้ เหล่านี้ กลายเป็นวัฒนธรรมที่เมืองไทย "เพี้ยน" อย่างน่ากังวล

สส.บางคน.... เติบโตมาจาก นักเลงคุมซ่อง...คุมบ่อน  ก็มีอำนาจสั่งให้นายตำรวจจาก จปร.ยืมกุมเป้า "ครับผมๆ" ได้... บางตัว..ชั่วมาตั้งแต่สมัยเรียน ...เก็บค่าต๋งหน้ามหาวิทยาลัย..รับใช้นักการเมืองตั้งแต่ยังเรียน จนตัวเองจบ ก็ทำหน้าที่เลว ๆ ต่อ ...บ้างก็เมากร่างเข้ สภา ไม่มีใครกล้าว่า.... จะด่าพ่อล่อแม่กันผ่าน ทีวี ก็ทำมาแล้ว สารพันความ "ตะกวด" รวมอยุ่ในพวกนี้

ข้าราชการดี ๆ ที่สู้อุตส่าห์เรียนจบสูง ๆ ทำงานอย่างมีเกียรติ มีศักดิ์ศรี ใช้ความสามารถอย่างเต็มที่ ต้องกลับมารับใช้ พวกสส.ขยะ,กักขฬะ แบบ "(สส.)อันธพาลครองเมือง"  แบบนี้บ้านเมืองมันก็ไปไม่ได้.....


สส.เลว เมื่อรวมตัวกันเป็นพรรคการเมือง มันก็คือศูนย์รวมคนเลว...ดังนั้นการจะให้มีคนดีปกครองมันย่อมยาก ฉะนั้นจึงไม่แปลกที่จะต้องมีหัวหน้าพรรคที่เลวกว่า จึงจะ "เอาอยู่"   และการมีพรรคการเมืองเลวมันก็คือส่วนหนึ่งของปัญหาของแผ่นดินที่จะไม่มีวันจบสิ้นเช่นกัน...

ทุกวันนี้ คนเสื้อแดงมักมีรูปแบบความคิดหลัก ๆ จากการถูกถูกล้างสมองว่า
1. สถาบันเข้ามาควบคุม และทำลาย การเมือง ผ่านทาง พลเอกเปรม โดยเฉพาะกรณีทำลาย "ทักษิณ" ผู้เป็นที่รัก
2. สถาบันอยู่เบื้องหลังในการใช้กองทัพเป็นเครื่องมือทำร้าย ทำลายประชาชน

ตรรกะข้างต้น...มันน่าสงสารและสะท้อนความเขลาในการพิเคราะห์แยกแยะ...ผิดชอบชั่วดี ของคนในสังคมที่มีจำนวนมาก และมักเป็นเหยื่อในการถูกล้างสมองอย่างง่าย ๆ

เพราะคนเก็บพลาสติกหน้าปากซอยผมก็ยังตอบได้ตรรกะนี้ได้ว่า ถ้าสถาบันและกองทัพ สามารถทำเช่นนั้นได้จริง ...อย่าว่าแต่ "ทักษิณ" เลย ผมว่า หมดทั้งตระกูล ก็คงไม่เหลือเศษเถ้ากระดูกไว้ใส่โกฎิด้วยซ้ำ!

และถ้าสถาบันและกองทัพเป็นอย่างที่ว่าจริง พวก ปากมอมอย่าง คางคก หรืออีกหลาย ๆ ตัว...ที่วันนี้ยังมีหน้าจีบปากจีบคอ ด่าสถาบันและกองทัพได้อย่างกร่างวันนี้ มันจะเหลือเศษซากชิ้นร่างกายให้จำสารรูปได้สักกี่ตัว!


ดังนั้นสิ่งที่ประเทศไทยขาดมากที่สุดในการเลือกปกครองแบบประชาธิปไตยก็คือ .... พื้นฐานการศึกษาของประชาชน และความเข้าใจในการวิถีการปกครอง โดยเข้าใจ สิทธิ ว่ามีเพียงใด, เสรีภาพที่จะได้ ได้แค่ไหน, ความเสมอภาคและความเท่าเทียมกันนั้น เป็นเช่นใด......ไม่ได้หมายถึงการมีแค่ "พิธีกรรมประชาธิปไตย" แค่มีสิทธิเข้าแถวเพื่อเลือกผู้แทน เพียงอย่างเดียว...

และสิ่งที่จำเป็นในการทำให้ระบอบนี้ เดินไปได้ก็คือ กระบวนการถ่วงดุลอำนาจที่มีประสิทธิภาพ ....ซึ่งจะช่วยให้ระบบการตรวจสอบการทำงานของรัฐบาลสามารถทำได้อย่างชัดเจน..โปร่งใส และไล่เบี้ยเอาผิดกันอย่างที่แต่ละหน่วยงานที่มีหน้าที่ถ่วงดุล สามารถทำงานได้อย่างอิสระอย่างแท้จริง....

แต่ตราบใดที่กระบวนการถ่วงดุลอำนาจ มันใช้ไม่ได้ ...เพราะ "เงิน" สามารถเข้าไปซื้อได้ทุกส่วน.. ต่อให้ "โคตร" ประชาธิปไตย ที่พยายามจุดธูปบูชากันนั้น มันก็ไม่ได้ทำให้ ประเทศไทย ดีกว่า  เมื่อ 700 ปีที่ผ่านมาแต่อย่างใด ....
..ขอเป็นแค่ "มนุษย์" ที่อาศัยโลกใบนี้สำหรับ เกิด.แก่.เจ็บ.ตาย อย่างนอบน้อมและคารวะ.

destiny_X

 
ตัวอย่างที่คุณนำเอาบทวิจัยของ อ.เอนก เหล่าธรรมทัศน์ เรื่องสองนคราประชาธิปไตย มาตีความนั่นละครับ  คือ "ปัญหา" เพราะคุณอ่านและทำความเข้าใจในบทวิจัยนั่นเพียงเปลือกแล้วเลือกจับเอาเฉพาะประเด็นที่ใกล้เคียงมาใช้.. แต่ไม่ได้เข้าใจในสาระสำคัญที่บทวิจัยนั่นมุ่งหมายถึงสาเหตุที่แท้ว่าคืออะไร...


ผมได้เข้าไปอ่านบทวิจัยของ  อ.เอนก เหล่าธรรมทัศน์ แล้วก็คิดเหมือนกับMr.No (เลือกจับเอาเฉพาะประเด็นที่ใกล้เคียงมาใช้.. แต่ไม่ได้เข้าใจในสาระสำคัญที่บทวิจัยนั่นมุ่งหมายถึงสาเหตุที่แท้ว่าคืออะไร...)

อีกข้อที่เห็นด้วย และมันคือประเด็นของผม

นักการเมืองนี้เหละที่ทำให้ประเทศพิกลพิการ
สมัยก่อน อ้างคอมมิวนิสเพื่อผลทางการ พอหมดยุคคอมฯ ก็อ้างสถาบันเพื่อผลทางการเมือง

ในย่อหน้าก่อนสุดท้ายของMr.No เรื่องประชาธิปไตย การถ่วงดุล การมีส่วนร่วมของประชาชนไม่ว่าชนบทหรือเมือง เป็นสาระของ บทวิจัยของ  อ.เอนก เหล่าธรรมทัศน์



ไม่ว่า 700 ปีก่อน หรือ700 ปีข้างหน้า ตราบใดที่กระบวนการถ่วงดุลอำนาจ มันใช้ไม่ได้ ถ้า "เงิน" สามารถเข้าไปซื้อได้ทุกส่วน.. มันก็ไม่ได้ทำให้ ประเทศไทย ดีกว่าปัจจุบัน

แมน2

จนถึงตอนนี้ ผมยังคิดแว๊บๆ อยู่หลายๆครั้ง
ว่า ประเทศไทยยังไม่เหมาะกับการปกครองแบบประชาธิปไตย  หรือประเทศไทยมีการเปลี่ยนแปลงที่รวมเร็วเกินไป

ถ้าประเทศมีการปกครองแบบประชาธิปไตย(อย่างในตอนนี้้)  แต่คนยังเผาบ้านเมืองกันใหญ่  ถือกฏหมู่เหนือกฏหมาย  ประชากรมีจิตสำนึกต่ำ  นักการเมืองโกงเป็นว่าเล่น  ค่าแรงคนนั่งโต๊ะสูงกว่าค่าแรงคนออกแรงทำงานเป็นร้อยเป็นพันเท่าตัว  ใครเป็นลูกตำรวจหรือทหารและนักการเมืองมีสิทธิพิเศษเสมอ

ถ้ายังเป็นแบบนี้อยู่ ผมว่าประเทศมีการปกครองแบบคอมมิวนิสต์(แบบจริงๆ) ไปเลย น่าจะรักษา ดำรงค์ความเป็นประเทศ  และมีการพัฒนาประเทศได้ดีกว่านี้ 

Mr.No

อ้างจาก: แมน2 เมื่อ 04:37 น.  14 พ.ย 54
จนถึงตอนนี้ ผมยังคิดแว๊บๆ อยู่หลายๆครั้ง
ว่า ประเทศไทยยังไม่เหมาะกับการปกครองแบบประชาธิปไตย  หรือประเทศไทยมีการเปลี่ยนแปลงที่รวมเร็วเกินไป

ถ้าประเทศมีการปกครองแบบประชาธิปไตย(อย่างในตอนนี้้)  แต่คนยังเผาบ้านเมืองกันใหญ่  ถือกฏหมู่เหนือกฏหมาย  ประชากรมีจิตสำนึกต่ำ  นักการเมืองโกงเป็นว่าเล่น  ค่าแรงคนนั่งโต๊ะสูงกว่าค่าแรงคนออกแรงทำงานเป็นร้อยเป็นพันเท่าตัว  ใครเป็นลูกตำรวจหรือทหารและนักการเมืองมีสิทธิพิเศษเสมอ

ถ้ายังเป็นแบบนี้อยู่ ผมว่าประเทศมีการปกครองแบบคอมมิวนิสต์(แบบจริงๆ) ไปเลย น่าจะรักษา ดำรงค์ความเป็นประเทศ  และมีการพัฒนาประเทศได้ดีกว่านี้

คุณ แมน2 คิดคล้าย ๆ ผม โดยเฉพาะประเด็นที่ว่า เราอยากเป็นประชาธิปไตยตามก้นฝรั่ง เร็วเกินไป...

สิ่งที่ผมคิดว่ามาจนบัดนี้ อ.ปรีดี พนมยงค์ ถ้าท่านไม่ตาย ท่านก็อาจเสียใจอยู่ก็คือ  ความปรารถนาดี ที่จะทำให้ประเทศไทยกลายเป็นประเทศที่มีระบอบการปกครองประชาธิปไตยแบบหลาย ๆ ประเทศในยุโรป โดยเฉพาะ ฝรั่งเศสโมเดล น่าจะทำให้ประเทศไทยก้าวไปสู่ความก้าวหน้า...

แต่ผมคิดว่า อ.ปรีดี ท่านก็ได้เข้าใจบริบทของสังคมการเมืองไทยแล้วหลังจากที่มีการเปลี่ยนแปลงการปกครองในปี พ.ศ 2475 เพราะแท้จริงคือการเปิดประตูให้ ผีร้ายปฎิวัติ รัฐประหาร เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า....และที่สำคัญ ท่านกลับกลายเป็นเหยื่อของระบบการเมืองใหม่ ที่ท่านมีส่วนร่วมในการผลักดัน จนท่านต้องมีอันระเห็จไปอยูและเสียชีวิตนอกแผ่นดินเกิด..

นั่นเพราะ 2475 เรายังไม่พร้อม..ประชาชนยังไม่มีพื้นฐานการรับวัฒนธรรมแห่งความเท่าเทียมกันในสิทธิ และเสรีภาพมาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตแบบคนในตะวันตก.. แต่เรารีบร้อนเกินไป  ทำให้เราได้แค่การเปลี่ยนอำนาจนั้นมาสู่มือของกลุ่มคนโดยเฉพาะ กลุ่มทหาร... และสุดท้ายวันนี้  อำนาจนั้น ก็ผันจาก ทหารมาอยู่ในมือของ "นายทุนนักค้าประเทศ" ในที่สุด

ผมเชื่อว่า.... วันหนึ่ง ในอนาคต "ระบอบประชาธิปไตย" ก็จะถึงคราล่มสลายลงเช่นกัน  ... เพราะทุกสรรพสิ่งล้วนไม่จีรัง และ ระบอบประชาธิปไตย อาจได้แค่่ช่วงหนึ่งไม่ใช่ตลอดไป อย่างที่อริสโตเติ้ล เคยแสดงความคิดไว้....นี่ไม่ใช่สิ่งที่ผมคิดอย่างไร้เหตุผล

เพราะทุกวันนี้ เราก็จะเห็นว่า ระบอบประชาธิปไตยอย่างสหรัฐ หรืออังกฤษ ที่สนับสนุนระบบเศรษฐกิจแบบทุนนิยมเสรี นั้นกำลังเริ่มถูกท้าทาย, คลอนแคลน เพราะมันเห็นชัดว่า ไม่ได้ทำให้ความเสมอภาค ทั้งสิ่ทธิ,เสรีภาพของคน นั้นเท่าเทียมกันในความเป็นจริงได้แต่อย่างใ  แต่ยิ่งจะทำให้สังคมมนุษย์เข้าสู่ความไม่เสมอภาคมากขึ้น ๆ ทุกที

ตัวอย่างที่กำลัง hot ตอนนี้ที่น่าจับตาก็คือ กลุ่มผู้ประท้วงที่มีชื่อเรียกว่า occupied wall street ที่กำลังเริ่มมีบทบาทประท้วงขยายไปในหลายประเทศ ไม่ว่าจะเป็น อเมริกา,อิตาลี,อังกฤษ ฯลฯ จากปัญหาช่องว่างคนจนกับคนรวย ที่พบว่ามีคนรวยเพียงไม่เกิน 1-2 เปอร์เซ็นต์ของประเทศ แต่สามารถเข้าครอบงำ,ครอบคลุมทุกสิ่งได้

ตัวอย่างประเทศไทย...ปัญหาที่สำคัญก็คือ ช่องว่างคนรวยกับคนจนที่มีสัดส่วนต่างกันแบบ ฟ้ากับเหว ทำให้ คนรวยสามารถใช้เงินเข้าควบคุม กำกับ และชี้นำทุกภาคส่วนของสังคมได้ และที่น่าวิตกก็คือ  "เงิน" สามารถทำให้ โครงสร้างการเมือง,ระบบราชการ กลายเป็น ง่อยเปลี้ย เสียระบบไปแล้ว...

ประเทศไทยกำลังเผชิญกับปัญหา "คนรวยเลวๆ"   กำลังใช้เงิน เพื่อทำลายล้างทั้งโครงสร้าง,ระบอบการปกครองที่มีมาช้านาน และเช่นกันก็คือ  "คนเลวๆที่มีเงิน" เหล่านั้น กำลังล้างสมองคนยากจน เพื่อให้เชื่อว่า คนเหล่านั้นจะมีโอกาสร่ำรวยได้ในวันหนึ่ง...

ถ้าคนรวยเลวๆ  ชนะ....สุดท้ายเราจะไม่ได้อะไรนอกจาก  ประเทศที่ถูกสูบ ถูกรีดเลือดไป แบบที่ เขมร,พม่า ยอมให้เค้ามาสูบเอาทรัพยากรไปใช้ แต่คนในประเทศยังไม่มีแม้อาหารจะกินครบทุกมื้อ...

เราจะเหมือน ฟลิปปินส์  ที่ยังคงย้ำรอยปฎิวัติรัฐประหารและปัญหาคอรับชั่น...และคนจนสลัมก็ยังเต็มเมือง. หรือแม้แต่ ประเทศที่ดูว่าเจริญ อย่างอิตาลี เราก็จะเห็นว่า สุดท้ายแล้ว ประเทศนั้นก็พึ่งจะตาสว่างเพราะได้ผู้นำที่ยังบ้ากาม..และปิดตาคนอิตาลีมานาน เพราะสามารถคุมสื่อทุกสิ่งไว้ในมือ...

ดังนั้น.... อย่าไปคาดหวังกับ  เทวดาหน้าเหลี่ยมตัวไหนที่มันจะมาช่วยประเทศเลย.... มีแต่จะคอย ฮุบ คอย สูบ เอาประโยชน์ส่วนรวมของคนไทย ไปเป็นของมัน, พวกมัน....... ก็แค่นั้น
..ขอเป็นแค่ "มนุษย์" ที่อาศัยโลกใบนี้สำหรับ เกิด.แก่.เจ็บ.ตาย อย่างนอบน้อมและคารวะ.

Joke_EJ7

รออ่านข้อมูล "ประชาธิปไตย สไตล์ บุญญศักดิ์"  อยู่ครับ ส.อ่านหลังสือ

ว่าจะแถ ไปทางไหน
The man who never mistakes is the man who never do anythings.

''คนที่ไม่เคยทำอะไรผิด คือ คนที่ไม่เคยทำอะไรเลย''

บุญญศักดิ์

ไทยมีการปกครองรวมกันระหว่าง ระบอบราชาธิปไตยภายใต้รัฐธรรมนูญ (1) และ ประชาธิปไตยแบบมีรัฐสภา (2)
เรียกมั่ว ๆ ว่าระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข หรือ ประชาธิปไตยแบบไทย ๆ

ที่ผ่านมา อำนาจอธิปไตยที่ใช้โดยรัฐธรรมนูญ 17 ฉบับ จะมาจากการแต่งตั้งโดยผู้ทรงอำนาจ มากกว่าสภานิติบัญญัติที่ผ่านการเลือกตั้ง (legislature)

Constitutions of Thailand (1932-2006), by balance of power between legislature and executive

และนี่คือประกาศ คณะราษฎร(http://th.wikisource.org/wiki/%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A8%E0%B8%84%E0%B8%93%E0%B8%B0%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%A9%E0%B8%8E%E0%B8%A3) ต้นกำเนิดระบอบประชาธิปไตยแบบ ไทย ๆ บ้านเรา ให้อ่านเปรียบเทียบกับ รัฐธรรมนูญทุกฉบับของไทย ( http://www.dopa.go.th/law/laws.htm ) แล้วจะเห็นความบิดเบี้ยว ผิดเพี้ยน จากเจตนาของประชาธิปไตย ซึ่งหมายความว่า อำนาจอธิปไตยต้องเป็นของประชาชนอย่างไร


ประกาศ คณะราษฎร
ราษฎรทั้งหลาย
เมื่อกษัตริย์องค์นี้ได้ครองราชย์สมบัติสืบจากพระเชษฐานั้น ในชั้นต้น ราษฎรบางคนได้หวังกันว่า กษัตริย์องค์ใหม่นี้คงจะปกครองราษฎรให้ร่มเย็น แต่การก็หาได้เป็นไปตามที่คิดหวังไม่ กษัตริย์คงทรงอำนาจเหนือกฎหมายอยู่ตามเดิม ทรงแต่งตั้งญาติวงศ์และคนสอพลอไร้คุณความรู้ให้ดำรงตำแหน่งที่สำคัญ ๆ ไม่ทรงฟังเสียงราษฎร ปล่อยให้ข้าราชการใช้อำนาจหน้าที่ในทางทุจริต มีการรับสินบนในการก่อสร้าง ซื้อของใช้ในราชการ หากำไรในการเปลี่ยนราคาเงิน ผลาญเงินของประเทศ ยกพวกเจ้าขึ้นให้สิทธิพิเศษมากกว่าราษฎร กดขี่ข่มเหงราษฎร ปกครองโดยขาดหลักวิชา ปล่อยให้บ้านเมืองเป็นไปตามยถากรรม ดั่งที่จะเห็นได้จากความตกต่ำในทางเศรษฐกิจและความฝืดเคืองในการทำมาหากิน ซึ่งพวกราษฎรได้รู้กันอยู่ทั่วไปแล้ว รัฐบาลของกษัตริย์เหนือกฎหมายมิสามารถแก้ไขให้ฟื้นขึ้นได้
การที่แก้ไขไม่ได้ ก็เพราะรัฐบาลของกษัตริย์มิได้ปกครองประเทศเพื่อราษฎร ตามที่รัฐบาลอื่น ๆ ได้กระทำกัน รัฐบาลของกษัตริย์ได้ถือเอาราษฎรเป็นทาส (ซึ่งเรียกว่า ไพร่ บ้าง ข้า บ้าง) เป็นสัตว์เดียรัจฉาน ไม่นึกว่าเป็นมนุษย์ เหตุฉะนั้น แทนที่จะช่วยราษฎร กลับพากันทำนาบนหลังราษฎร จะเห็นได้ว่า ภาษีอากรที่บีบคั้นเอามาจากราษฎรนั้น กษัตริย์ได้หักเอาไว้ใช้ส่วนตัวปีหนึ่งเป็นจำนวนหลายล้าน ส่วนราษฎรสิ กว่าจะหาได้แม้แต่เล็กน้อย เลือดตาแทบกระเด็น ถึงคราวเสียเงินราชการหรือภาษีใด ถ้าไม่มีเงิน รัฐบาลก็ยึดทรัพย์หรือใช้งานโยธา แต่พวกเจ้ากลับนอนกินกันเป็นสุข ไม่มีประเทศใดในโลกจะให้เงินเจ้ามากเช่นนี้ นอกจากพระเจ้าซาร์และพระเจ้าไกเซอร์เยอรมัน ซึ่งชนชาตินั้นก็ได้โค่นราชบัลลังก์ลงเสียแล้ว
รัฐบาลของกษัตริย์ได้ปกครองอย่างหลอกลวงไม่ซื่อตรงต่อราษฎร มีเป็นต้นว่า หลอกว่าจะบำรุงการทำมาหากินอย่างโน้นอย่างนี้ แต่ครั้นคอย ๆ ก็เหลวไป หาได้ทำจริงจังไม่ มิหนำซ้ำ กล่าวหมิ่นประมาทราษฎรผู้มีบุญคุณเสียภาษีอากรให้พวกเจ้าได้กินว่า ราษฎรยังมีเสียงทางการเมืองไม่ได้ เพราะราษฎรยังโง่ คำพูดของพวกรัฐบาลเช่นนี้ใช้ไม่ได้ ถ้าราษฎรโง่ เจ้าก็โง่ เพราะเป็นคนชาติเดียวกัน ที่ราษฎรรู้ไม่ถึงเจ้านั้น ไม่ใช่เพราะโง่ เป็นเพราะขาดการศึกษาที่พวกเจ้าปกปิดไว้ไม่ให้เรียนเต็มที่ เพราะเกรงว่าเมื่อราษฎรได้มีการศึกษา ก็จะรู้ความชั่วร้ายที่พวกเจ้าทำไว้ และคงจะไม่ยอมให้เจ้าทำนาบนหลังคน
ราษฎรทั้งหลายพึงรู้เถิดว่า ประเทศเรานี้เป็นของราษฎร ไม่ใช่ของกษัตริย์ตามที่เขาหลอกลวง บรรพบุรุษของราษฎรเป็นผู้ช่วยกันกู้ให้ประเทศมีอิสรภาพพ้นมือจากข้าศึก พวกเจ้ามีแต่ชุบมือเปิบ และกวาดรวบทรัพย์สมบัติเข้าไว้ตั้งหลายร้อยล้าน เงินเหล่านี้เอามาจากไหน? ก็เอามาจากราษฎร เพราะวิธีทำนาบนหลังคนนั้นเอง บ้านเมืองกำลังอัตคัดฝืดเคือง ชาวนาและพ่อแม่ทหารต้องทิ้งนา เพราะทำไม่ได้ผล รัฐบาลไม่บำรุง รัฐบาลไล่คนงานออกอย่างเกลื่อนกลาด นักเรียนเรียนเสร็จแล้วและทหารปลดกองหนุนแล้วไม่มีงานทำ จะต้องอดอยากไปตามยถากรรม เหล่านี้เป็นผลของรัฐบาลของกษัตริย์เหนือกฎหมาย บีบคั้นข้าราชการชั้นผู้น้อย นายสิบและเสมียนเมื่อให้ออกจากงานแล้วก็ไม่ให้เบี้ยบำนาญ ความจริงควรเอาเงินที่กวาดรวบรวมไว้มาจัดบำรุงบ้านเมือง ให้มีงานทำ จึ่งจะสมควรที่สนองคุณราษฎรซึ่งได้เสียภาษีอากรให้พวกเจ้าได้ร่ำรวยมานาน แต่พวกเจ้าก็หาได้ทำอย่างใดไม่ คงสูบเลือดกันเรื่อย ๆ ไป เงินมีเหลือเท่าใดก็เอาฝากต่างประเทศ คอยเตรียมหนีเมื่อบ้านเมืองทรุดโทรม ปล่อยให้ราษฎรอดอยาก การเหล่านี้ย่อมชั่วร้าย
เหตุฉะนั้น ราษฎร ข้าราชการทหารและพลเรือน ที่รู้เท่าถึงการกระทำอันชั่วร้ายของรัฐบาลดังกล่าวแล้ว จึ่งรวมกำลังตั้งเป็นคณะราษฎรขึ้น และได้ยึดอำนาจของรัฐบาลของกษัตริย์ไว้ได้แล้ว คณะราษฎรเห็นว่า การที่จะแก้ความชั่วร้ายนี้ได้ ก็โดยที่จะต้องจัดการปกครองโดยมีสภา จะได้ช่วยกันปรึกษาหารือหลาย ๆ ความคิด ดีกว่าความคิดเดียว ส่วนผู้เป็นประมุขของประเทศนั้น คณะราษฎรไม่ประสงค์ทำการแย่งชิงราชสมบัติ ฉะนั้น จึ่งได้อัญเชิญให้กษัตริย์องค์นี้ดำรงตำแหน่งกษัตริย์ต่อไป แต่จะต้องอยู่ใต้กฎหมายธรรมนูญการปกครองแผ่นดิน จะทำอะไรโดยลำพังไม่ได้ นอกจากด้วยความเห็นชอบของสภาผู้แทนราษฎร คณะราษฎรได้แจ้งความประสงค์นี้ให้กษัตริย์ทราบแล้ว เวลานี้ยังอยู่ในความรับตอบ ถ้ากษัตริย์ตอบปฏิเสธ หรือไม่ตอบภายในกำหนด โดยเห็นแก่ส่วนตนว่าจะถูกลดอำนาจลงมา ก็จะชื่อว่าทรยศต่อชาติ และก็เป็นการจำเป็นที่ประเทศจะต้องมีการปกครองแบบอย่างประชาธิปไตย กล่าวคือ ประมุขของประเทศจะเป็นบุคคลสามัญซึ่งสภาผู้แทนราษฎรได้เลือกตั้งขึ้น อยู่ในตำแหน่งตามกำหนดเวลา ตามวิธีนี้ ราษฎรพึงหวังเถิดว่า ราษฎรจะได้รับความบำรุงอย่างดีที่สุด ทุก ๆ คนจะมีงานทำ เพราะประเทศของเราเป็นประเทศที่อุดมอยู่แล้ว-ตามสภาพ เมื่อเราได้ยึดเงินที่พวกเจ้ารวบรวมไว้จากการทำนาบนหลังคนตั้งหลายร้อยล้านมาบำรุงประเทศขึ้นแล้ว ประเทศจะต้องเฟื่องฟูขึ้นเป็นแม่นมั่น การปกครองซึ่งคณะราษฎรจะพึงกระทำก็คือ จำต้องวางโครงการ อาศัยหลักวิชา ไม่ทำไปเหมือนคนตาบอด เช่นรัฐบาลที่มีกษัตริย์เหนือกฎหมายทำมาแล้ว เป็นหลักใหญ่ ๆ ที่คณะราษฎรวางไว้ มีอยู่ว่า
๑. จะต้องรักษาความเป็นเอกราชทั้งหลาย เช่น เอกราชในทางการเมือง ในทางศาล ในทางเศรษฐกิจ ฯลฯ ของประเทศไว้ให้มั่นคง
๒. จะต้องรักษาความปลอดภัยภายในประเทศ ให้การประทุษร้ายต่อกันลดน้อยลงให้มาก
๓. จะต้องบำรุงความสุขสมบูรณ์ของราษฎรในทางเศรษฐกิจ โดยรัฐบาลใหม่จะจัดหางานให้ราษฎรทุกคนทำ จะวางโครงการเศรษฐกิจแห่งชาติ ไม่ปล่อยให้ราษฎรอดอยาก
๔. จะต้องให้ราษฎรมีสิทธิเสมอภาคกัน (ไม่ใช่พวกเจ้ามีสิทธิยิ่งกว่าราษฎรเช่นที่เป็นอยู่)
๕. จะต้องให้ราษฎรได้มีเสรีภาพ มีความเป็นอิสระ เมื่อเสรีภาพนี้ไม่ขัดต่อหลัก ๔ ประการดังกล่าวข้างต้น
๖. จะต้องให้การศึกษาอย่างเต็มที่แก่ราษฎร
ราษฎรทั้งหลายจงพร้อมใจกันช่วยคณะราษฎรให้ทำกิจอันจะคงอยู่ชั่วดินฟ้านี้ให้สำเร็จ คณะราษฎรขอให้ทุกคนที่มิได้ร่วมมือเข้ายึดอำนาจจากรัฐบาลกษัตริย์เหนือกฎหมายพึงตั้งตนอยู่ในความสงบ และตั้งหน้าทำมาหากิน อย่าทำการใด ๆ อันเป็นการขัดขวางต่อคณะราษฎร การที่ราษฎรช่วยคณะราษฎรนี้ เท่ากับราษฎรช่วยประเทศ และช่วยตัวราษฎร บุตรหลานเหลนของตนเอง ประเทศจะมีความเป็นเอกราชอย่างพร้อมบริบูรณ์ ราษฎรจะได้รับความปลอดภัย ทุกคนจะต้องมีงานทำ ไม่ต้องอดตาย ทุกคนจะมีสิทธิเสมอกัน และมีเสรีภาพพ้นจากการเป็นไพร่เป็นข้าเป็นทาสของพวกเจ้า หมดสมัยที่เจ้าจะทำนาบนหลังราษฎร สิ่งที่ทุกคนพึงปรารถนาคือความสุขความเจริญอย่างประเสริฐ ซึ่งเรียกเป็นศัพท์ว่า "ศรีอาริยะ" นั้น ก็จะพึงบังเกิดขึ้นแก่ราษฎรถ้วนหน้า
...........................................................................



บุญญศักดิ์